กป.อพช. แถลงการณ์ ประณามรัฐบาล ปิดกั้นเสรีภาพประชาชน ช่วงการประชุม APEC 2022

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประกาศห้ามชุมนุมและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ภาคประชาชนได้แสดงออกในช่วงการประชุม APEC 2022 ชี้ การห้ามชุมนุมเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ กป.อพช. ขอประณามรัฐบาลที่ปิดกั้นและปิดพื้นที่ในการแสดงออกของประชาชน

 

16 พ.ย. 2565 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประกาศห้ามชุมนุมและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ภาคประชาชนได้แสดงออกในช่วงการประชุม APEC 2022 ระหว่างวันที่ 14 – 18 พ.ย. 2565 เนื่องจากการเจรจาที่จะเกิดขึ้นจากเวที APEC อาจมีผลกระทบกับประเทศไทยและประชาคมโลกโดยรวม การห้ามชุมนุมจึงเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด

แถลงการณ์ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.)

เรื่อง รัฐบาลต้องยกเลิกประกาศห้ามชุมนุมและต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ภาคประชาชนได้แสดงออกในช่วงการประชุม APEC 2022 อย่างมีศักดิ์ศรี

เวทีประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ที่ประเทศไทยกำลังจัดให้มีการประชุมในระหว่างวันที่ 14 – 18 พฤศจิกายน 2565 ถือเป็นเวทีระดับโลกอีกเวทีหนึ่งที่จะมีการเจรจาผลประโยชน์ในทางธุรกิจของกลุ่มทุนชั้นนำ โดยการสร้างวาทกรรมอันสวนหรูว่าเป็นระบบเศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน - เศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio-Circular- Green- Economy Model (BCG) มาเป็นแนวคิดพื้นฐานเพื่อเสนอต่อประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมทั้งหมด จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ารายละเอียดในการเจรจาที่จะเกิดขึ้นจากเวทีนี้จะมีทั้งผลกระทบกับประชาชนไทยและประชาคมโลกโดยรวมอย่างแน่นอน

การแสดงออกของภาคประชาชนและภาคประชาสังคมในการประชุมเวทีผู้นำระดับโลกเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่สามารถทำได้ ทั้งยังถูกยอมรับในทางสากลว่าการแสดงออกดังกล่าวคือสังคมอารยะที่รัฐบาลจะต้องรับฟังแม้จะเป็นความคิดความเห็นที่แตกต่างก็ตาม

ดังนั้น การที่รัฐบาลประยุทธ์ประกาศห้ามชุมนุมในช่วงที่มีการประชุมเอเปคในระหว่างวันที่ 14 – 19 พฤศจิกายนนี้ ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร สะท้อนให้เห็นได้ถึงวิธีคิดของความเป็นเผด็จการที่ยังหลงเหลืออยู่ ที่ยังต้องการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด และยังสร้างความชอบธรรมด้วยการสร้างคำอธิบายว่าต้องการเห็นการเป็นเจ้าภาพการประชุมที่สงบเรียบร้อยเพื่อให้เป็นหน้าตาของประเทศอย่างสมภาคภูมิ ทั้งยังเชิญชวนโดยการใช้งบประมาณประชาสัมพันธ์อย่างมหาศาลให้ประชาชนไทยร่วมรู้สึกในการเป็นเจ้าภาพที่ดี แต่กลับไม่ใส่ใจที่จะเปิดเผยข้อมูล อันเป็นข้อเท็จจริงของข้อตกลงที่มีการเจรจากันก่อนหน้านี้ ที่กำลังจะนำมาสร้างพิธีกรรมลงนามของผู้นำประเทศทั้งหลายในวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ และสังคมจะต้องร่วมกันจับตาสถานการณ์การคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายปิดปากหลังจากนี้

ในนามของคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ กป.อพช. (ระดับชาติ) ขอประณามการปิดกั้นและการปิดพื้นที่เพื่อการแสดงออกของประชาชนที่รัฐบาลได้มีการประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่ห้ามชุมนุมตามที่ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งพื้นที่ห้ามชุมนุมตามประกาศนั้น คือการปิดกั้นภาคประชาชนไม่ให้มีพื้นที่เพื่อการแสดงออกบนพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพที่ถูกรับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญ ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การคุกคามและเข้าควบคุมสิทธิเสรีภาพภายใต้ข้อบังคับของประกาศดังกล่าวนั้นด้วย เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าวในทันที และต้องสร้างความเข้าใจกับสังคมไทยต่อการแสดงออกในเรื่องนี้ว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ และถือเป็นมาตรฐานสากลที่ประชาคมโลกล้วนให้การยอมรับ อันถือเป็นเรื่องพื้นฐานแห่งรัฐที่จะต้องให้การเคารพ

 

 

แถลงการณ์ 

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท