Skip to main content
sharethis

ตำรวจไทยใช้กระสุนยางสลายม็อบ อวดผู้นำโลก รักษาหน้าประยุทธ์ ที่ยื่นมือให้สี จิ้นผิง แล้วไม่ยอมจับ ต้องเอามือแคะขี้มูก

รักษาหน้าประเทศ? แล้วไง ประเทศไทยมีม็อบไม่ได้ อายเขา แต่มีรัฐประหารได้ไม่อายใคร รัฐประหารแล้วตั้ง 250 ส.ว.โหวตตัวเองเป็นนายกฯ มีที่ไหนในโลก ไม่ยักอาย

ประเทศอารยะทั้งหลายจัดประชุมระดับโลก มีม็อบทั้งนั้น ยิ่งมีม็อบยิ่งแสดงความเป็นอารยะ เปิดพื้นที่ความเห็นต่าง มีแต่ประเทศเผด็จการเห็นม็อบ “ขายขี้หน้า” มีแต่ชาตินิยมล้าหลัง ภูมิใจคลองโอ่งอ่าง ภูมิใจว่าสามารถบังคับประชาชนพับเพียบเรียบร้อย

ข้อสำคัญ การใช้ความรุนแรงของ คฝ. ยังสะท้อนว่าประเทศนี้ไม่ได้ปกครองด้วยกฎหมาย แต่ปกครองด้วยการใช้อำนาจ ใช้คำสั่ง ใช้กำลังบังคับ เสมือนยังอยู่ใต้รัฐประหาร

ถามว่าตำรวจมีอำนาจอะไร ใช้กระสุนยางสลายการชุมนุม เรายังอยู่ใต้ ม.44 หรือ เรายังอยู่ใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือ ไม่มีทั้งสิ้น

รัฐบาลประกาศห้ามชุมนุม อ้าง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ แต่ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ไม่ได้ให้อำนาจตำรวจใช้กำลัง หากเห็นว่าม็อบไม่ทำตามกฎหมาย ตำรวจต้องขอคำสั่งศาล การสลายม็อบก็ต้องทำตามขั้นตอน ไม่ใช่ใช้อาวุธทันที การยิงกระสุนยางต้องไม่ยิงร่างกายส่วนบน จนทำให้ผู้ชุมนุมรวมทั้งช่างภาพบาดเจ็บที่ดวงตา

ตำรวจจึงไม่ได้ใช้อำนาจตามกฎหมาย แต่ใช้อำนาจเถื่อน อ้างว่าตัวเองมีอำนาจสั่งให้ม็อบทำตามได้ ไม่ทำตามก็ใช้ความรุนแรง โดยเชื่อว่ารัฐบาลหนุนหลัง กระบวนการยุติธรรมเข้าข้าง ประชาชนอาจฟ้องเอาผิดตามกฎหมาย แต่สุดท้ายก็เอาผิดไม่ได้ ศาลอาจมองว่า ทำตามหน้าที่ ไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ฯลฯ

กฎหมายไทยมีข้ออ่อนในการเอาผิดเจ้าหน้าที่ ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ใช้ความรุนแรงได้ ถ้าไม่ทุจริตหรือไม่กลั่นแกล้งส่วนตัว

5 ปีรัฐประหาร “ออกคำสั่งเป็นกฎหมาย” ม.44 จับคนเข้าค่ายทหารได้ 7 วันโดยไม่ต้องขอหมายค้นหมายจับ กับอีก 2 ปี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้อำนาจได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผล ใช้ความรุนแรงสลายม็อบ ทำให้ตำรวจย่ามใจ กระทั่งวันนี้

ตำรวจที่ไปยึดป้าย “ตะวัน-สายน้ำ” จึงออกคำสั่งไม่ให้แต่งชุดหมีพูห์ ทั้งที่ไม่มีอำนาจยุ่งเกี่ยวการแต่งกาย ตำรวจที่จับ 3 นักศึกษามุสลิมจึงเอาตัวไปสน.ทั้งที่ไม่มีหมายจับ ค้นที่พักไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ชาวบ้านที่มาม็อบจากต่างจังหวัดจึงถูกด่านสกัด 4-5 รอบ ตั้งแต่อยู่บ้าน ก็มีตำรวจ ทหาร กอ.รมน. ไปพบหรือติดตาม ทั้งหมดนี้อ้างว่า “ทำตามกฎหมาย” ไม่ได้คุกคาม

เหมือนประยุทธ์ไปต่างจังหวัด ก็มีตำรวจทหารไปพบนักกิจกรรม ชูป้ายก็ห้าม ทั้งที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย

บางคนอาจมองว่า รัฐประหารเพิ่มอำนาจให้ทหารเข้ามาแย่งงานตำรวจด้วยซ้ำ (เช่น คุมวินรถตู้) แต่ 8 ปีประยุทธ์ 2 ปี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรียนรู้ที่จะใช้ “แท็กติกทางกฎหมาย” ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพของตำรวจ ในการรักษาอำนาจ ปราบปรามประชาชน

ยกตัวอย่างง่ายๆ ในยุค ผบ.ตร.คนก่อน ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นมือกฎหมาย ออกคำสั่งให้ยึดรถเครื่องเสียงม็อบ อ้างว่าเป็นของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด ทั้งที่การใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับเท่านั้น การยึดรถใช้กับความผิดร้ายแรงเช่นขนยาเสพติด

ตำรวจก็ใช้คำสั่งนั้นเล่นเล่ห์เอาผิดม็อบ เช่น ตามยึดรถทะลุฟ้า พอไม่ยอมให้ยึด เพราะเห็นว่าไม่มีเหตุผล เกิดฮึดฮัดกันแล้วขับออกไป ตำรวจก็ตั้งข้อหาร้ายแรง ทั้งต่อสู้ขัดขวาง ทำร้ายเจ้าพนักงาน หลบหนีการจับกุม

รวมๆ แล้วมีโทษจำคุกหลายสิบปี จากแค่ใช้เครื่องขยายเสียง โทษปรับไม่กี่ร้อยบาท

นี่คือวิธีตำรวจโดยแท้ เป็นความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ แบบเดินรอบรถมอเตอร์ไซค์ ยังไงก็ได้ค่าใบสั่ง

ตำรวจใช้การตั้งข้อหาเป็นอาวุธ ทั้งในทางการเมือง และในทางมิชอบ เพราะเมื่อโดนตั้งข้อหาแล้วเดือดร้อน ต้องประกันตัว หาทนายสู้คดี หลุดคดีแล้วจะฟ้องกลับก็ยาก

อย่าว่าแต่ชาวบ้าน ภาคธุรกิจก็กลัวจะโดนแบบ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ตำรวจบุกจับ ปปง.ยึดอายัดทรัพย์นับหมื่นล้าน ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ยกฟ้อง พ้นคดีเป็นผู้บริสุทธิ์แต่เจ๊งย่อยยับ

เข้าใจหรือยังว่าทำไมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ ปปง. ป.ป.ส. ดีเอสไอ หลอกให้โอนเงินได้ ก็เพราะประชาชนเชื่อว่ามีตัวจริง

ตำรวจยุคปัจจุบันทำตัวเหมือนอัศวินผยอง ทั้งที่บ่อน ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายเต็มไปหมด พอเรื่องแดง ความแตก ก็ทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวโชว์ออฟปราบปราม

กับประชาชนนอกจากใช้อำนาจเถื่อนแล้วยังสั่งสอน เช่น บอกให้ม็อบคำนึงถึงภาพลักษณ์ประเทศ บอกผู้สื่อข่าว (หลังจากยิงบาดเจ็บ) ให้ไปทำข่าวที่มีประโยชน์ต่อสังคม

การตรวจสอบอำนาจรัฐ ตรวจสอบตำรวจฉ้อฉล ตำรวจใช้อำนาจเกินขอบเขต เกินกฎหมาย นั่นแหละมีประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

สุดท้ายอยากฝากประเด็นน่าคิดว่า ทำไมใกล้เลือกตั้งแล้วตำรวจยังมุ่งมั่นรับใช้ประยุทธ์ ไม่ยักกลัวเปลี่ยนรัฐบาล มั่นใจว่าประยุทธ์ไปต่อ หรือมั่นใจว่ารัฐอำนาจนิยมใหญ่กว่า รัฐบาลไหนมาก็ทำอะไรไม่ได้

ฝากไว้ให้คิดกันว่าถ้าเปลี่ยนรัฐบาลแล้วจะเอาผิดตำรวจได้ไหม

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7372580

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net