'เพื่อไทย' ตอกรัฐปล่อย 'กัญชาคาเฟ่' ผุดกลางเมือง

'เพื่อไทย' ตอกรัฐปล่อย 'กัญชาคาเฟ่' ผุดกลางเมือง ย้ำจุดยืนหนุนทางการแพทย์เท่านั้น - อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกชี้หากเปิดเป็นร้านคาเฟ่หรือร้านทั่วไปแล้วจัดให้มีสูบกัญชาถือว่ามีความผิด และต้องถูกยึดใบอนุญาต

27 พ.ย. 2565 Voice online รายงานว่าตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะมีข้อมูลที่ได้รับจากคนในพื้นที่รวมทั้งในสื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอว่า มีการเปิด 'กัญชาคาเฟ่' ในหลายจังหวัด โดยที่ย่านถนนข้าวสาร ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร มีร้านหลายร้านเปิดขายกัญชาในลักษณะสันทนาการ มีการจัดเก้าอี้นั่ง และระบบระบายควันในห้องอย่างหรูหรา ลูกค้า 90% เป็นชาวต่างชาติ อีก 10% เป็นคนไทย ที่เข้ามาบริโภคเครื่องดื่มที่เป็นผลิตภัณฑ์จากกัญชา โดยเฉพาะจากช่อดอก โดยผู้ประกอบการอ้างว่ามีใบอนุญาตและในการขออนุญาตก็มีเจ้าหน้าที่จากกรมการแพทย์แผนไทยฯเข้ามาตรวจสถานที่ก่อน ทั้งๆ ขัดต่อกฎกระทรวงสาธารณสุขข้อ 3 (5) ห้ามจําหน่ายสมุนไพรควบคุมเพื่อการสูบในสถานที่ประกอบการ เว้นแต่การจําหน่าย โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ซึ่งก่อนหน้านี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับแรกที่ประกาศเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ไม่มีบทลงโทษ ทำให้เกิดร้านกัญชาสันทนาการผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด นี่คือกัญชาทางการแพทย์ตรงไหน

ตรีชฎา กล่าวว่า ในสภาวะสุญญากาศที่ไม่มีกฎหมายออกมารองรับ ทั้งเพื่อการควบคุมการใช้และการกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนการจำหน่ายกัญชา ยังหลักลอยไร้การวางมาตรการป้องกันการเข้าถึงกัญชาได้โดยง่าย ขณะนี้กัญชาถูกปลดล็อคไม่ใช่สารเสพติดให้โทษ มีแต่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมาแต่ไม่มีผลในการควบคุมและลงโทษในทางปฏิบัติ จะเกิดผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนยากที่จะป้องกันแก้ไข นี่คือความห่วงใยของพรรคเพื่อไทยและคนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลผสมจากหลายพรรคจะมีท่าทีอย่างไรต่อการที่พรรคภูมิใจไทยผลักดันนโยบายกัญชาเสรีโดยที่ไม่มีมาตรการที่รัดกุมในการป้องกัน พรรคเพื่อไทย ยังยืนยันว่า

1.สนับสนุนกัญชาเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ ใช้บำบัดรักษาโรคภัยต่างๆ เท่านั้น ไม่สนับสนุนกัญชาเพื่อสันทนาการ

2. ไม่สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกัญชา

3. ทวงคืนอนาคตลูกหลานไทยจากกัญชา ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากการปล่อยกัญชาเสรี มีกัญชาฟรีทุกบ้าน

"อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และอนุทิน ผู้กำกับนโยบาย กลับมาทบทวน เรื่องกัญชาเสรีอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะปัจจุบันหากเยาวชนนำกัญชามาเสพโดยขาดความรู้ความเข้าใจ จะเกิดผลต่อจิตประสาท เกิดปัญหาตามมา ทิ้งเป็นมรดกบาปให้ลูกหลานจะสายเกินแก้ หากยังปล่อยให้ปลูกและขายกันอย่างเสรีต่อไปแบบนี้ สังคมไทยจะตกต่ำดำดิ่งลงยิ่งกว่าที่ประสบอยู่" ตรีชฎา กล่าว

อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกชี้หากเปิดเป็นร้านคาเฟ่หรือร้านทั่วไปแล้วจัดให้มีสูบกัญชาถือว่ามีความผิด 

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะหน่วยที่ออกใบอนุญาตให้กับธุรกิจร้านกัญชา เปิดเผยว่าหากร้านขายกัญชาจะจัดให้มีสูบกัญชา จะต้องมีการขออนุญาตเปิดเป็นสถานพยาบาล แต่การจ้างแพทย์หรือแพทย์แผนไทย มาประจำที่ร้าน แต่ไม่ได้เป็นสถานพยาบาลถือว่า  "ทำไม่ได้"  เพราะว่าการจ้างแพทย์มาอย่างเดียว ไม่ถือว่าเป็นสถานพยาบาลตามกฎหมาย

โดยสถานที่ที่อนุญาตให้สูบได้จะต้องเป็นการรักษา หรือคลินิกแพทย์แผนไทย หากจะเปิดเป็นคลินิกและต้องการสูบในร้านจะต้องทำ 2 อย่าง คือ

1.ต้องขออนุญาตเปิดเป็นสถานพยาบาล ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล

2.ขออนุญาตกรมแพทย์แผนไทยฯ เพื่อขออนุญาตในการใช้ช่อดอกกัญชา ถ้าทำเช่นนี้สามารถดำเนินการได้

หากเปิดเป็นร้านคาเฟ่ หรือร้านทั่วไปแล้วจัดให้มีสูบกัญชา โดยมีแพทย์อยู่ประจำร้านด้วย ก็ถือว่า  "มีความผิด และต้องถูกยึดใบอนุญาต"    เพราะไม่ถูกต้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเขียนชัดไว้อยู่แล้วว่า ห้ามสูบในสถานประกอบการ ยกเว้นการประกอบวิชาชีพแพทย์ แต่ไม่ใช่จะจ้างคนมาแล้วสามารถเปิดให้สูบได้  เพราะการทำเช่นนั้นต้องเป็นประกอบวิชาชีพแพทย์ด้วย และสถานที่นั้น ก็ต้องเป็นสถานประกอบวิชาชีพของแพทย์คนนั้นด้วย “ถ้าเป็นร้านขายของ ขายดอกกัญชา แล้วก็จะสูบ เอาแพทย์มานั่ง ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสถานพยาบาล ถือว่าไม่ถูกต้อง”

เมื่อถามว่า หากพบแพทย์ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในร้านคาเฟ่กัญชาจะมีความผิดด้วยหรือไม่?  "อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ" ระบุว่า ต้องไปดูกฎหมายอื่นประกอบว่าสามารถรักษานอกสถานพยาบาลได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามการที่แพทย์จะประกอบวิชาชีพได้จะต้องมีสถานพยาบาลที่แน่นอน เพราะฉะนั้นคาเฟ่ที่เปิดขายช่อดอกกัญชาและจากเดิมเคยเปิดให้มีห้องสูบให้ลูกค้าสูบได้  "ต้องปิด" โดยหลังจากนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังประกาศมีผลบังคับใช้ จะมีการลงพื้นที่สุ่มตรวจสถานประกอบการที่จำหน่ายกัญชา แต่ในช่วงนี้ยังให้เวลาร้านผู้ประกอบการได้ปรับตัว

ท้ายที่สุดแล้ว กัญชาก็จะต้องมีกฎหมายควบคุม และต้องฝากความหวังไว้ที่ พระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ซึ่งอยู่ในสภา เรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาอยากจะให้มองถึงภาพรวม ถ้าหากอยากให้เรื่องของการผลักดันกัญชามีความยั่งยืน ต้องช่วยกันควบคุม ในสิ่งที่ไม่ควร จะทำให้ได้ประโยชน์ จากกัญชา

"แต่ถ้าไม่ควบคุมจนสุดท้าย ออกกฎหมายมาบังคับในภายหลัง หรือว่า หากมีปัญหามาก จนมีการเรียกร้องให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ทุกอย่างก็จะจบกลับไป เป็นเหมือนเดิม ในสิ่งที่เคยจะได้ ก็ไม่ได้ หากผู้ประกอบการคิดอยากจะใช้ประโยชน์จากกัญชาในระยะยาว ก็น่าจะต้องมีการควบคุมให้ดี"  นพ.ธงชัยกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท