Skip to main content
sharethis

ศาลลำปางสั่งรอกำหนดโทษ "โจ" ช่างซ่อมรถ 2 ปี คดีม.112 จากเหตุแชร์โพสต์ของเยาวชนปลดแอกเรื่องครบรอบ 7 ปี รัฐประหารเมื่อปี 64 

29 พ.ย. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดลำปางนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “โจ” (สงวนชื่อสกุลจริง) ช่างประจำอู่รถวัย 26 ปี ที่ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีการแชร์โพสต์ 1 ข้อความ จากเพจเยาวชนปลดแอกเมื่อช่วงปี 2564 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการครบรอบ 7 ปี รัฐประหารพร้อมเขียนข้อความ

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าเนื่องจากโจให้การรับสารภาพในการสอบคำให้การของศาลเมื่อนัดที่แล้วศาลจึงได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้และมีคำสั่งให้สืบเสาะประวัติของโจและพินิจพฤติการณ์จำเลยเพิ่มเติม

จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 9.50 น. ศาลอ่านคำพิพากษาโดยไม่ได้อ่านเนื้อหารายละเอียดคดีแต่ระบุว่าโจมีความผิดตามฟ้องทั้งสองข้อหาเป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษตามบทที่หนักที่สูง คือตามมาตรา 112 แต่จำเลยให้การรับสารภาพและเมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์ของจำเลย ประวัติส่วนตัวและข้อมูลของครอบครัวจำเลยแล้ว จำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อนจึงเห็นควรให้รอการกำหนดโทษไว้ 2 ปี

ศาลได้ชี้แจงว่าการรอกำหนดโทษ คือในระยะ 2 ปี นับแต่วันฟังคำพิพากษานี้ หากจำเลยไปกระทำความผิดอีก ศาลอาจจะพิจารณากำหนดโทษจำเลยต่อไปได้ จึงขอให้ระมัดระวังในเรื่องการแสดงออกต่อไป โดยทางครอบครัวจำเลยได้กล่าวขอบคุณศาล และเดินทางไปยื่นเรื่องขอคืนหลักทรัพย์การประกันตัว

ศูนย์ทนายความระบุรายละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ว่า โจเป็นคนจังหวัดลำปางแต่ไปทำงานที่อู่รถในจังหวัดปทุมธานี โดยเขาไม่เคยเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองมาก่อนแม้จะติดตามข่าวสารอยู่บ้าง คดีนี้เขาถูกแจ้งความดำเนินคดีโดย กรพัชร์ สุนทรพิธที่ สภ.เมืองลำปาง โดยที่เขาเองไม่เคยรู้จักบุคคลนี้มาก่อน ต่อมาเขาได้รับหมายเรียกจากตำรวจให้ไปรับทราบข้อหาเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2564 ทำให้เขามีภาระต้องเดินทางจากปุทมธานีมารายงานตัวที่ลำปางเป็นระยะและเมื่อเดือนกันยายน 2565 อัยการจึงมีคำสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดลำปางและเขาถูกสั่งขัระหว่างพิจารณาคดี ครอบครัวของเขาจึงต้องนำโฉนดที่ดินมูลค่า 300,000 บาทมาประกันตัว

นอกจากนั้นศูนย์ทนายความฯ ยังระบุอีกว่าข้อความที่โจเขียนไม่ได้เข้าข่ายความผิดแต่อย่างใด ส่วนเนื้อหาตัวข้อความที่แชร์มา เขาไม่ได้อ่านอย่างละเอียด จึงไม่ได้ระมัดระวังพอ ทั้งเขาไม่ทราบว่าเหตุใดผู้กล่าวหารายนี้จึงเจาะจงมากล่าวหาเขา เพราะไม่เคยพบกันมาก่อน และไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคือง แต่ทราบจากทางตำรวจว่าบุคคลนี้มาแจ้งความคดีลักษณะนี้ไว้อีกหลายคดี แต่อาจจะไม่ได้มีการดำเนินคดีทั้งหมด

ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เท่าที่ทราบข้อมูลคดีมาตรา 112 ที่เกิดขึ้นหลังปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วนั้น คดีนี้นับเป็นคดีที่ 2 ที่ศาลมีคำพิพากษาในลักษณะให้รอการกำหนดโทษ หลังจากก่อนหน้านี้มีคดีของ “โอม” ชลสิทธิ์ หนุ่มสวนยางวัย 21 ปี ที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งถูกกล่าวหาจากการแชร์ภาพวาดลงในสตอรี่เฟซบุ๊ก หลังให้การรับสารภาพ ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ได้มีคำพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำเลยไว้ มีกำหนด 2 ปี เช่นกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net