‘เพื่อไทย’ จี้รัฐเร่งแก้ถ่ายทอดบอลโลกผ่าน IPTV ถูกปิดกั้น  หวังอุ้มประโยชน์นายทุนหรือไม่ แนะเร่งสร้างความชัดเจนด่วน

5 ธ.ค.2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ  รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่มีการปิดกั้นสัญญาณการถ่ายทอดในระบบ ไอพีทีวี (IPTV) หรือการรับชมผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต ให้ดูได้เพียงกล่องของเอกชนเจ้าเดียวนั้น มองว่า รัฐบาลต้องออกมาตอบคำถามประชาชนโดยด่วน ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ทำสัญญาถ่ายทอดสัญญาณในลักษณะผูกขาดการถ่ายทอดผ่านระบบ IPTV ไว้ที่เอกชนเพียงรายเดียว ผิดเงื่อนไขข้อตกลงที่ทำไว้ในการขอรับเงินสนับสนุนจำนวน 600 ล้านบาทจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ระบุอย่างชัดเจนว่า กกท.จะต้องดำเนินการให้เกิดการถ่ายทอดผ่านช่องทางที่ กสทช.กำกับดูแลทุกช่องทาง ซึ่งควรหมายรวมถึงการถ่ายทอดผ่านระบบ IPTV ด้วย

ชนินทร์ กล่าวว่า การที่ กกท.ให้สิทธิ์การผูกขาดการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในช่องทาง IPTV กับเอกชนเจ้านั้น เท่ากับกลืนน้ำลายตัวเองที่เคยอ้างถึงเจตนารมย์เรื่องความเท่าเทียมในการรับชมฟุตบอลโลก จนมองข้ามผลประโยชน์ที่ประชาชนควรได้รับ และถูกสังคมว่า กกท.เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายนั้นหรือไม่ หาก กสทช.ใช้เหตุผลนี้ในการระงับการสนับสนุน ซึ่งสามารถทำได้ตามข้อตกลง รัฐบาลจะหาเงินจากไหนมาร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้แทน มีหวังเคราะห์กรรมจะตกที่ประชาชนคนไทย ต้องโดนเบียดเบียนเอาภาษีประชาชนมาใช้จ่ายแทนแบบไม่สมเหตุสมผล ตอกย้ำความเป็นรัฐบาลสุรุ่ยสุร่าย เก่งใช้จ่ายโดยมองไม่เห็นความจริงในเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน

“การทำงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกตั้งคำถามเรื่องการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่มาหลายครั้งหลายครา กรณีการถ่ายทอดฟุตบอลโลกครั้งนี้หวังจะสร้างภาพสวย ให้การชมฟุตบอลโลกได้ฟรีเป็นของขวัญประชาชนช่วงใกล้เลือกตั้ง แต่สุดท้ายโป๊ะแตก ได้แต่ภาพเสีย หนีไม่พ้นพฤติกรรมเอื้อรายใหญ่จนคนไทยรู้ทันหมดแล้ว” ชนินทร์กล่าว

ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า  ตามที่บริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด (SBN) ผู้ให้บริการ AIS PLAYBOX ได้ยื่นขอให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญายกเลิกคำสั่งห้ามแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก (World Cup 2022) ผ่านโครงข่าย IPTV โดยอ้างถึงกฎ Must Carry ของ กสทช.นั้น 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานจากศาลทรัพย์สินฯ ถึงกรณีดังกล่าวว่า ศาลได้ยกคำขอของ SBN และยืนยันคำสั่งเดิม ห้าม SBN ผู้ให้บริการ AIS PLAYBOX แพร่เสียงและแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ บนโครงข่าย IPTV เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการละเมิดสิทธิตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งนี้ คนไทยยังสามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทุกแมตช์ได้ผ่านดิจิทัลทีวีตามปกติ