หญิงร่วมสอบนายสิบ ตร.เผย ได้รับติดต่อขายโพยข้อสอบ 4.2 แสน การคุมสอบหละหลวม

หญิงที่รวมสอบนายสิบตำรวจเผยการทุจริตสอบรอบล่าสุดได้รับติดต่อขายโพย 4.2 แสนบาทแต่เจ้าตัวปฏิเสธ ยืนยันโพยที่เผยแพร่ในโซเชียลเนื้อหาเหมือนข้อสอบ ชี้การคุมสอบของเจ้าหน้าที่หละหลวมเหมือนเปิดช่องทุจริต 

14 ธ.ค.2565 เชียงใหม่นิวส์ เปิดข้อมูลการทุจริตการสอบตำรวจจากพยานผู้หญิงรายหนึ่งที่เข้าร่วมสอบนายสิบตำรวจสายอำนวยการของตำรวจภูธรภาค 5 ที่สนามสอบลำปาง โดยที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยในสื่อสังคมออนไลน์ท่ามกลางกระแสข่าวการทุจริตการสอบตรำวจในพื้นที่อื่นด้วย

พยานรายดังกล่าวระบุว่า เธอได้รับการประสานจากผู้ปกครองของเพื่อนคนหนึ่งในช่วงก่อนมีการประกาศรับสมัครสอบรอบประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ปกครองของเพื่อนบอกกับเธอว่ามีทมีงานส่วนกลางพร้อมช่วยเหลือในการสอบโดยมีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 420,000 บาทเพื่อแลกกับโพยข้อสอบพร้อมคำตอบที่จะแจกให้ก่อนเข้าสอบ แต่เธอปฏิเสธเพราะอยากใช้ความสามารถของตัวเอง แต่เพื่อนของเธอจ่ายมัดจำไป 30,000 บาทและจะจ่ายส่วนที่เหลือหลังสอบติด

เธอระบุถึงสิ่งที่เธอพบในการสอบที่สนามสอบลำปางเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ว่า มีความหละหลวมในการคุมสอบของเจ้าหน้าที่หลายประการตั้งแต่การจัดโต๊ะสอบให้นั่งคู่กัน เจ้าหน้าที่ไม่อยู่คุมการสอบในห้อง อนุญาตให้ผู้เข้าสอบเข้าห้องน้ำพร้อมกัน 2-3 คนแม้จะมีเจ้าหน้าที่ตามไปคุม ซึ่งเธอเทียบกับการสอบในมหาวิทยาลัยที่มีการคุมเข้มมากกว่านี้จนเธอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ทุจริตในการสอบได้สะดวก นอกจากนั้นเพื่อนของเธอที่ได้จ่ายเงินไปยังเล่าให้เธอฟังว่าก่อนเข้าสอบได้รับโพยคำตอบมาเป็นกระดาษประมาณสลิปใบเสร็จ และหลังการประกาศผลสอบเพื่อนของเธอยังส่งตัวอย่างโพยของสนามสอบอื่นให้เธอดูด้วยแม้จะอ่านไม่รู้ว่าต้องอ่านอย่างไร แต่คาดว่าจะมีการบอกวิธีอ่านโพยก่อนเข้าสอบ

พยานหญิงรายนี้ยังกล่าวถึงเนื้อหาข้อสอบที่มีการแชร์ในสื่อออนไลน์ด้วยว่าเป็นข้อสอบชุดเดียวกับข้อสอบจริงทำให้เธอรู้ว่ามีการทุจริตแน่นอน ซึ่งเธอรู้สึกไม่เป็นธรรมที่มีการทุจริตเช่นนี้

ทุจริตเกิดในหลายพื้นที่และอาจเอี่ยวทุจริตสอบภูธรภาค 9 เมื่อ มี.ค.

กรณีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันเสาร์(10 ธ.ค.) ที่ผ่านมาเมื่อกองการสอบ กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงว่าได้รับทราบเรื่องการทุจริตดังกล่าวและไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริงหลังจากมีคำสั่งมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2565 แล้ว

มีการรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน จากกองบัญชาการศึกษากล่าวถึงการตรวจสอบการทุจริตในการสอบครั้งวันที่ 27 พ.ย.2565 ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของผู้กระทการทุจริตในการสอบนายสิบของงกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อมีนาคม 2565

พ.ต.อ.อุเทนกล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นในการสอบนายสิบตำรวจประจำสังกัดตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อ 27 มี.ค.2565 ว่าพบผู้เกี่ยวข้องระดับรองสารวัตรอำนวยการของตำรวจภูธรภาค 9 เอง เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสนามสอบ และโรงเรียนกวดวิชาที่จะทำหน้าที่ในการจัดหาโดยผู้ที่ต้องการโพยคำตอบจะต้องจ่าย 500,000 บาท ซึ่งคาดว่าข้อสอบรั่วระหว่างขนส่งข้อสอบจากสนามสอบหลักไปสนามสอบย่อย โดยกรณีนี้พบผู้ทุจริตในการสอบรวม 118 รายจึงให้นักเรียนที่ผ่านการสอบครั้งนั้นพ้นสภาพการเป็นนักเรียนโรงเรียนนายสิบแล้ว ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตมีการส่งชื่อให้หน่วยต้นสังกัดและกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติและอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย

ต่อมาไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีสอบนายสิบกองอำนวยการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ว่าจากรายงานจากกองบัญชาการศึกษาที่ได้รับเรื่องร้องเรียนและเบาะแสพบว่าโพยคำตอบมีการเฉลยตรงกับข้อสอบจริงในหลายข้อ

ผบ.ตร.ระบุอีกว่าแม้เหตุที่เกิดขึ้นจะเป็นคนละกรณีกัน แต่ทั้งกรณีที่เกิดในพื้นที่ บช.ภ.9 และบช.ภ.5 มีความใกล้เคียงกัน คือเมื่อได้ข้อสอบแล้วนำไปเฉลยก่อนแล้วอาจจะซุกซ่อนเข้าไปในห้องสอบ แต่ตนยังไม่ทราบว่าเกิดความผิดพลาดในส่วนไหน แต่จากรายงานเบื้องต้นอาจหลุดจากห้องเก็บข้อสอบตำรวจผู้รับผิดชอบน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องและมีบุคคลอื่นร่วมด้วยดำเนินการเป็นเครือข่ายเพราะต้องมีคนเก่งที่สามารถทำข้อสอบได้ด้วย

ส่วนพล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวถึงการดำเนินการสอบสวนทุจริตการสอบนายสิบตำรวจของศูนย์บังคับการฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 (ศฝร.ภ.9) พบหลักฐานน่าเชื่อว่ามีคนทุจริตสอบรวม 118 คนและให้พ้นจากสภาพนักเรียนแล้ว แต่สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหลักฐานยังไปไม่ถึงจึงยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ อีกทั้ง ผบก.ศฝร.ภ.9 ที่เป็นผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความกล่าวหาผู้ใด

อย่างไรก็ตามไทยรัฐระบุถึงรายงานผลการสอบสวนทุจริตที่เกิดขึ้นในการสอบของ ศฝร.ภ.9นั้นพบว่าเชื่อมโยงกับโรงเรียนสอนกวดวิชาแห่งหนึ่งในสงขลา และพบนายตำรวจยศพันตำรวจเอก 2 นายและยศรองลงมาอีก 4 นายเป็นผู้เกี่ยวข้องในการรักษาข้อสอบที่มีความบกพร่องหรือทุจริต และเมื่อพบการทุจริตแล้วได้ให้ผู้เข้าสอบที่ได้คะแนนสูงกว่า 90 คะแนนมาสอบใหม่กลับมีผู้ต้องสงสัยว่าทุจริตสอบถึง 72 คนที่ไม่ยอมมาสอบใหม่ และมี 11 คน ที่ได้คะแนนสอบใกล้เคียงคะแนนเดิมซึ่งเชื่อว่าไม่ได้โกง

อย่างไรก็ตามสำหรับร.ต.อ.หญิงที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องนั้นจากเส้นทางการเงินมีเงินเข้าบัญชี 10 ล้านบาท แต่เจ้ากล่าวอ้างว่าน้องสาวเป็นแฟนของติวเตอร์ที่อยู่ในขบวนการโอนเงินมาให้และตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโกงสอบ ส่วนพ.ต.อ.ที่อยู่ในข่ายการสอบส่วนมีนามสกุลเดียวกับกลุ่มติวเตอร์ที่อยู่ในขบวนการ แต่เมื่อคณะกรรมการสอบสวนเรียกมาสอบแล้วยังไม่พบพิรุธ

ส่วน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชากาตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวถึงเรื่องนี้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้วซึ่งจะต้องประสานกับกองบัญชาการศึกษาที่รับผิดชอบหลักเพื่อขยายผล ตนเชื่อว่าเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุทั้งประเทศ จะมีการสืบสวนทางลับเพื่อให้ได้ทั้งขบวนการจะได้ทราบว่าข้อสอบรั่วจากไหนและขณะนี้รู้กลุ่มที่เป็นผู้กระทำความผิดแล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท