ตำรวจแจงในที่ประชุม กมธ.ของสภาผู้แทนราษฎรว่าการสลายชุมนุมของ “ราษฎรหยุด APEC2022” ไม่ได้ขอคำสั่งจากศาลแพ่งก่อนใช้กำลังสลายเพราะศาลหยุดราชการแต่ทำจากเบาไปหนัก ฝ่ายผู้ชุมนุมยันถูกตีฝ่ายเดียว ส่วนสื่อมองว่าอาจคัดคำสั่งศาลแพ่งกรณีใช้กระสุนยาง

14 ธ.ค.2565 เว็บไซต์รัฐสภาเผยแพร่เอกสารสรุปผลการประชุมคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กรณีสลายการชุมนุมของ “ราษฎรหยุด APEC2022” เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2565 ที่ถนนดินสอบริเวณลานคนเมือง

สำหรับกรณีสลายการชุมนุมวันที่ 18 พ.ย. เอกสารระบุคำชี้แจงของผู้แทนแต่ละฝ่ายทั้งผู้ได้รับผลกระทบ ฝ่ายสื่อมวลชน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผู้แทนฝ่ายผู้ชุมนุมชี้แจงว่าผู้จัดได้จัดชุมนุมตามกฎหมาย ตำรวจไม่มีอำนาขัดขวางไม่ให้ผู้ชุมนุมเดินไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและเรียกร้องให้ตำรวจถอนกำลังออกไปอีกทั้งยังยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่การปะทะแต่เป็นเจ้าหน้าที่ทุบตีอยู่ฝ่ายเดียว แล้วยังมีการเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาในเหตุชุลมุนครั้งที่สามด้วย

ผู้แทนฝ่ายสื่อชี้แจงว่าการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2565 นั้นค่อนข้างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศได้เคยหารือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและโฆษกสำนักงานตรวจแห่งชาติเพื่อหาข้อตกลงในการทำงานร่วมกัน และที่ผ่านมาเคยมีคำสั่งศาลแพ่งที่การสลายชุมนุมต้องทำไปโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของสื่อมวลชน แต่การสลายชุมนุมครั้งนี้สื่อหลายสำนักบาดเจ็บ จึงมีข้อสงสัยว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลแพ่งหรือไม่

ฝ่ายสื่อมีข้อเรียกร้องให้ กมธ.ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุใดตำรวจควบคุมฝูงชนจึงสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุให้ประชาชนและสื่อมวลชนบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งอาจขัดกับคำสั่งศาลแพ่งและผู้ใดจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณครั้งนี้

ทางด้านผู้แทนฝ่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงว่า การสลายชุมนุมเมื่อ 18 พ.ย.2565 ตำรวจนครบาลได้รับมอบหมายให้ดูแลการประชุมเอเปคมีการวางแผนและออกคำสั่งปฏิบัติการ ฝ่ายตำรวจได้เจรจาอย่างเต็มที่โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแล้ว

ผู้แทนจาก สตช.ระบุว่าการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะจะมีการยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อให้มีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมเลิกชุมนุม แต่เมื่อ 18 พ.ย.เป็นวันหยุดราชการของศาลแพ่งทำให้ไม่มีการขอคำสั่งศาลให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมุนุมสาธารณะ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก อย่างไรก็ตาม สตช.ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการสลายชุมนุมครั้งนี้แล้ว

ทางด้าน กมธ.มีความเห็นว่าขอเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้บัญชาากรตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตรำวจนครบาล และผู้บัญชาการเหตุการณ์ในวันดังกล่าวมาชี้จงรายละเอียดการปฏิบัติและวิธีป้องกันเกิดเหตุซ้ำในอนาคตในการประชุมครั้งต่อไป

ทั้งนี้จากการแถลงข่าวของตัวแทนเครือข่ายต่างๆ ที่เข้าร่วมเป็นราษฎรหยุด APEC2022 ระบุว่าจากการสลายชุมนุมครั้งนี้ผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 21 คน โดยมีพายุ บุญโสภณที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นสูญเสียดวงตาข้างขวาไปจากการถูกกระสุนยางของตำรวจยิงใส่

นอกจากนั้นยังปรากฏข่าวว่ามีสื่อมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 4 สำนักที่ได้รับบาดเจ็บคือ The Matter ประชาไท รอยเตอร์ และ Top News โดยกรณีของผู้สื่อข่าวจาก The Matter ที่ปรากฏภาพวิดีโอขณะตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเดินเข้าหาและรุมทำร้ายนักข่าวจากสำนักข่าวดังกล่าว และยังปรากฏภาพขณะช่างภาพจากรอยเตอร์ถูกขวดแก้วที่ขว้างมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่แตกกระเด็นใส่บริเวณใบหน้าทำให้ตาขวาได้รับบาดเจ็บด้วย