Skip to main content
sharethis

ศาลแขวงนนทบุรีลงโทษปรับคนละ 6,000 บาท จำเลย 7 คนคดีคาร์ม็อบที่ศูนย์ราชการนนทบุรีเมื่อ 1 ส.ค.64 ศาลยกเหตุรัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปกป้องสิทธิและความปลอดภัยของประชาชน ไม่ใช่เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

20 ธ.ค.2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าที่ศาลแขวงนนทบุรีอ่านคำพิพากษาคดีคาร์ม็อบ 1 ส.ค.2564 ที่มีประชาชน 7 คนจากเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีบริเวณหน้าทางเข้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรีถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ส่งเสียงอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตและอัยการฟ้องต่อศาลในเวลาต่อมา

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าศาลพิพากษาลงโทษทั้ง 7 คน ปรับเป็นเป็นเงินคนละ 5,000 บาท ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และปรับอีก 1,000 บาทข้อหาใช้เครื่องขยายเสียง รวมเป็นเงิน 42,000 บาท

ศาลให้เหตุผลว่าแม้ฝ่ายจำเลยจะยืนยันว่าการร่วมชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการประกาศพื้นที่เข็มงวดของจังหวัดนนทบุรีเป็นการใช้กฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิและความปลอดภัยของประชาชนไม่ใช่เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และยังปรากฏว่าจำเลยบางคนถอดหน้ากากระหว่างพูดคุยกันเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อบุคคลรอบข้างและผู้ร่วมชุมนุม

คดีนี้เดิมทีมีผู้ถูกจับกุมรวมทั้งหมด 9 คนแต่มีการดำเนินคดีกับบุคคล 7 คน ได้แก่วิชญ์ (นามสมมติ), มนทิรา ทุมาภา, ชัชชัย เบียดกลาง, ภควัต รุธีรยุทธ, ปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์, กนกพร วิทยเวชอมรชัย และญาชนา โนนเทา

สถิติของศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าคดีการชุมนุมทางการเมืองยังคงมีคำพิพากษายกฟ้องเป็นส่วนใหญ่คือ 44 คดี และมีคดีที่จบในชั้นอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องมีอย่างน้อย 33 คดี ส่วนคดีที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษ 18 คดี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net