Skip to main content
sharethis

'เพื่อไทย' แนะ กกต.จับตา 'ประยุทธ์' ลงพื้นที่หาเสียงเสี่ยงผิด กม. ชี้ต้องแยกเส้นแบ่งระหว่างการลงพื้นที่ติดตามนโยบายรัฐบาลกับการลงพื้นที่ไปหาเสียง ต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ ไม่ใช้เวลาของทางราชการไปหาเสียงที่เป็นการเสี่ยงผิดกฎหมายและเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น


อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)

24 ธ.ค. 2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย แจ้งข่าวว่าอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศความชัดเจนจะไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยยกข้ออ้างว่าพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้วนั้น

การลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ ในช่วงที่ผ่านมา และหลังจากนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะต้องจับตาดูให้ดี ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่สองมาตรฐาน กฎเหล็กคุมเข้มหาเสียง 180 วันก่อนสภาฯครบวาระของ กกต. ต้องไม่ให้นักการเมือง พรรคการเมืองหาประโยชน์

“ต้องแยกเส้นแบ่งระหว่างการลงพื้นที่ติดตามนโยบายรัฐบาลกับการลงพื้นที่ไปหาเสียงให้ออก พลเอกประยุทธ์ ต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ ไม่ใช้เวลาของทางราชการไปหาเสียงที่เป็นการเสี่ยงผิดกฎหมายและเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น”

หากพลเอกประยุทธ์พยายามอาศัยช่องโหว่ลงพื้นที่ตีกินหาเสียงแบบคาบลูกคาบดอก กกต.ต้องไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ต้องไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าพลเอกประยุทธ์ ลงพื้นที่หาเสียงแล้วอ้างว่าไปติดตามนโยบายรัฐบาลก็อ้างไป แต่วันนี้หลายหน่วยงานเกียร์ว่าง แทบไม่รับคำสั่งรัฐบาล เพราะอ่านสัญญาณออกชัดว่า พลเอกประยุทธ์จะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว ดังนั้น จึงไม่น่าจะมีงานอะไรให้ต้องไปติดตามได้แล้ว

“กกต. จะต้องไม่เกรงใจรัฐบาล ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม” รองเลขาธิการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ กล่าว

จี้ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ อย่าเงียบ ปม กกท.ทำสัญญาบอลโลกผิดเงื่อนไข ประชาชนถูกรอนสิทธิ์ เอื้อประโยชน์นายทุน ต้องมีคนรับผิดชอบ

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เร่งสะสางปมปัญหาการถ่ายทอดสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลโลก แม้การถ่ายทอดสดจะจบสิ้นลงไปแล้ว แต่ปัญหาเรื่องการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ยังไม่จบ เพราะการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของรัฐ มีการทำสัญญาให้สิทธิ์ขาดในการถ่ายทอดแก่เอกชนรายหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎ must carry ของ กสทช. เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยถูกริดรอนสิทธิ์ในการรับชมอย่างไม่เป็นธรรม จนสังคมตั้งคำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเอื้อประโยชน์นายทุนหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ อย่าแกล้งปล่อยให้เงียบหายโดยไร้ข้อสรุป

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า สำหร้บเงินสนับสนุนจำนวน 600 ล้านบาทที่ได้รับผ่านกองทุน กทปส. นี้ มีที่มามาจากรายได้การบริหารสัมปทานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของชาติ ของประชาชนทุกคน เงินสนับสนุนในส่วนนี้จึงไม่ควรนำไปใช้แบบไม่คุ้มค่า โดยขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน หรือขาดกำกับดูแลที่ดี

“การใช้จ่ายของภาครัฐทุกวันนี้ไร้ประสิทธิภาพมาก รัฐบาลนี้เข้ามามุ่งใช้แต่งบประมาณ หลายครั้งเป็นไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ บริหารจัดการกิจการใดๆไม่เป็น งบประมาณใช้ผิดที่ผิดทาง ไม่มีคนรับผิดชอบ พรรคเพื่อไทยจะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

การทำสัญญาเอื้อประโยชน์นายทุนโดยหน่วยงานของรัฐในครั้งนี้ต้องเร่งสะสาง อย่าให้ชาวบ้านครหาว่าพวกท่านเป็นรัฐบาลของเจ้าสัว แต่ไม่เห็นหัวประชาชน” นายชนินทร์กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net