เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2565 สื่อธุรกิจ Business Insider รายงานว่าราคาของนาฬิกาหรู เช่น ยี่ห้อ Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ ด้านผู้สันกัดกรณีวิเคราะห์ว่าความต้องการในตลาดมือสองจะยังคงพุ่งสูงขึ้นในปีหน้า และนาฬิกาหรูจะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนในระยะยาว
เมื่อ มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา ราคาของนาฬิกา Rolex Daytona มือสองพุ่งสูงถึง 48,500 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท ก่อนจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 30,000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 1 ล้านบาท ข้อมูลตัวเลขนี้มาจากรายงานของ WatchCharts เว็บไซต์ตลาดซื้อขายนาฬิกา
ราคาของนาฬิกา Rolex ในตลาดมือสองพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนกับนาฬิกา Rolex ยังคงโตเร็วกว่าการลงทุนกับทรัพย์สินประเภทอื่น เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ และการเล่นหุ้น
ใน Chrono24 เว็บไซต์ตลาดซื้อขายนาฬิกาชั้นนำอีกแห่งหนึ่ง พบว่าประมาณ 25% ของยอดการค้นหาทั้งหมดเกี่ยวข้องกับนาฬิกา Rolex สำหรับ Chrono24 นั้นมีชื่อผู้ร่วมลงทุนอย่าง แบร์นาร์ อาร์โน มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสที่เพิ่งขึ้นแท่นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แทนที่ อีลอน มัสก์ ด้วย
ในเว็บไซต์เดียวกันพบว่าประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย มาจากนาฬิกา Rolex และ 80 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายนี้มาจากนาฬิกาที่เคยผ่านเจ้าของมาก่อน "เรายังคงเห็นว่า สำหรับนาฬิกาส่วนใหญ่แล้ว ราคายังคงสูงกว่าช่วงมกราคม" ทิม สแตรกค์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Chrono24 กล่าว "แต่ไม่ได้สูงมากเหมือนช่วงมีนาคมและเมษายน"
จากข้อมูลของ Chrono24 พบว่าแบรนด์นาฬิกาที่ราคาสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมีอยู่ 3 ยี่ห้อ ได้แก่ Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet อย่างไรก็ตาม นาฬิกายี่ห้ออื่นๆ ก็ "ค่อยๆ สูงขึ้นอย่างช้าๆ อย่างมั่นคงและสม่ำเสมอมากในระยะยาว"
ทำไม Rolex ถึงพิเศษกว่ายี่ห้ออื่น
เมื่อ ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา พอล อัลทีรี ซีอีโอของตลาดนาฬิกามือสองออนไลน์ Bob's Watches ให้สัมภาษณ์ว่า "นาฬิกา Rolex เป็นการลงทุนที่ดีตลอดช่วงหลายปี แต่ดีขึ้นอีกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา"
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา Bob's Watches ได้ทำการซื้อขายนาฬิกานาฬิกา โดยใช้ยุทธศาสตร์การตั้งราคา ซึ่งทำให้บริษัทเข้าใจถึงมูลค่าที่แท้จริงตามท้องตลอดของนาฬิกา Rolex ทุกรุ่นเป็นอย่างดี พบว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้นาฬิกา Rolex สูงขึ้นอย่างฉับพลันในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะปัจจัยฝั่งอุปทาน (supply)
ตามรายงานระบุว่านาฬิกา Rolex จะผลิตปีละประมาณ 800,000 เรือน แต่ความนิยมของแบรนด์ทำให้ความต้องการสูงกว่าจำนวนที่ผลิตขายในแต่ละปี ดังนั้น ความต้องการนาฬิกาในตลาดมือสองจึงมีมาอย่างสม่ำเสมอ ยอดขายโดยเฉลี่ยของนาฬิกา Rolex สูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 60 และสูงขึ้นอีกในปี 63
ข้อมูลล่าสุดเมื่อ ก.พ. 2565 พบว่ายอดขายเฉลี่ยของนาฬิกา Rolex สูงกว่า 13,000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 450,000 บาท สูงกว่ายอดขายเฉลี่ยเมื่อปี 2554 เกือบ 3 เท่า (5,000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 170,000 บาท) การซื้อนาฬิกา Rolex เป็นการตอบแทนที่คุ้มค่าอย่างมาก แต่ปัญหาคือการหาซื้อนาฬิกายี่ห้อนี้ก็ทำได้ยากมากเช่นกัน
แม้ว่าผู้ตอบแทนการลงทูนจะสูงได้ถึง 2-3 เท่าตัว แต่อุปสรรคใหญ่คือผู้ซื้อจะต้องหาตัวแทนจัดจำหน่ายนาฬิกา Rolex อย่างเป็นทางการให้ได้ก่อน ปกติแล้วผู้ซื้อจะต้องรอถึง 1-2 ปีเพื่อให้ได้ติดอยู่ในรายชื่อผู้ซื้อ เมื่อเวลานั้นมาถึงแล้ว ผู้ซื้อจะไม่ปล่อยโอกาสไปง่ายๆ
เนื่องจากสามารถผลิตได้จำกัด Rolex จึงเปิดตัวโครงการสำหรับนาฬิกามือสองเมื่อ ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถซื้อนาฬิกามือสองที่ได้รับการรับรองและรับประทานจากศูนย์ได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าในการขายนาฬิกา Rolex มือสอง
"เป้าหมายของโครงการนี้คือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุปทานของนาฬิกา Rolex มือสองที่มีอยู่ เพราะเมื่อนาฬิกาเหล่านี้เปลี่ยนมือ ความเป็นของแท้ต้องสามารถพิสูจน์ได้โดยร้านค้าอย่างเป็นทางการในเวลาที่ถูกนำไปขายซ้ำ" Rolex ระบุในจดหมายแจ้งข่าวสารการเปิดตัวของโครงการ"
จากรายงานของแม็กคินซี บริษัทให้คำปรึกษาธุรกิจชื่อดัง พบว่าปัจจุบันมูลค่าของตลาดนาฬิกาหรูมือสองทั้งหมดคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 20 พันล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 694,600 ล้านบาท และจะสูงขึ้นถึง 29 พันล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 1,007,170 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า
ทิม สแตรกค์ คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะยังคงทำให้ความต้องการสินค้าและราคาของนาฬิกายี่ห้อ Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet เพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า เขาอยากให้ลองคิดว่าผู้ซื้อนาฬิกาเหล่านี้ไม่ได้มองเฉพาะความสมบูรณ์แบบของงานฝืมือ หรือสถานะของแบรนด์เท่านั้น แต่เป็นการลงทุนที่ผลตอบแทนคุ้มค่าด้วย
"ผู้ใช้จำนวนมากซื้อนาฬิกาไม่ใช่แค่เพื่อความพึงพอใจกับงานฝีมือที่ไร้ที่ติ และความสวยของนาฬิกา และสถานะของแบรนด์เท่านั้น แต่เพื่อความมั่นคงของมูลค่าด้วย เราต้องเรียกว่ามันไม่ใช่แค่เพียงอัญมณีชิ้นหนึ่ง หรือสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งอย่างแท้จริง"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)