‘เนวิน ชิดชอบ’ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับไทยพีบีเอส ชี้ เลิกแบ่งสีแบ่งขั้ว หลังเลือกตั้ง ทุกพรรคจับมือได้หมด หนุน ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ ย้ำ ตนไม่หวนสนามการเมือง ขอเป็นแค่ที่ปรึกษา 

26 ธ.ค. 65 เนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ในฐานะครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการชั่วโมงข่าวเสาร์-อาทิตย์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) ถึงสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 โดยเฉพาะเรื่องการจับขั้วตั้งรัฐบาล และเป้าหมายในการผลักดันอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรี

ชี้ เลิกแบ่งขั้วได้แล้ว

จับมือได้หมดทุกพรรค 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า การแบ่งขั้วทางการเมืองจะทำให้เกิดการแบ่งขั้วตั้งรัฐบาลหรือไม่

เนวินตอบว่า ควรเลิกคิดเรื่องการแบ่งขั้วได้แล้ว ถ้ายังแบ่งสีแบ่งขั้วกันอยู่เช่นนี้จะทำให้บ้านเมืองไม่ไปไหน 

“ส่วนหนึ่งที่บุรีรัมย์มาถึงวันนี้ แล้วพัฒนาแบบก้าวกระโดด ใน 10 ปี เติบโตกว่าจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย เพราะเราไม่มีขั้ว” เนวินกล่าว

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ประเด็นความสัมพันธ์กับทักษิณ ชินวัตร ในอดีต จะส่งผลต่อการร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทยหรือไม่

เนวิน ตอบว่า ตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย และทักษิณ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจการภายในของพรรคเพื่อไทย และในเมื่อต่างก็มีนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธการร่วมงานทางการเมือง หรือจับมือจัดตั้งรัฐบาล แต่หากไม่ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ว่าใครก็คงจะร่วมด้วยไม่ได้

“เนวินกับทักษิณหมดปัญหากันหรือยัง ผมก็ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย ผมไม่ใช่ผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย ท่านนายกทักษิณก็ไม่ใช่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องรัฐบาลหลังเลือกตั้งถ้าเขาจะตั้งรัฐบาลด้วยกัน ถูกไม่ถูก งั้นเท่ากับว่าวันนี้ยอมรับสิว่าการขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทยมันเกิดขึ้นโดยใครอะไรยังไง” เนวินกล่าว

สำหรับประเด็นทิศทางของพรรคภูมิใจไทย เนวินบอกว่าเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ตนเป็นสมาชิกพรรค ไม่ใช่ผู้บริหารพรรค ไม่ใช่แกนนำพรรค 

“ถ้าหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค แกนนำพรรคในปัจจุบัน เป็นผู้บริหารทั้งหมดนี่นะ แล้วมันมีความขัดแย้งอะไรกับคุณอนุทินเขาล่ะ ผมก็ไม่เห็นว่ามีความขัดแย้ง แม้กระทั่งตัวท่านนายกฯ ทักษิณ เองนี่นะ ในอดีตกับคุณอนุทิน เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน อย่าเอาตัวผมมาเป็นที่ตั้งสิ ผมไม่ได้เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยนะ ผมแค่ครูใหญ่ ผมเป็นแค่ลุงเนวิน” เนวินกล่าว

"คนที่อยู่ในพรรคภูมิใจไทยวันนี้ กับคนที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยวันนี้ คนที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ คนที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ ไม่เห็นมีใครมีความขัดแย้งกันนี่ ทำไมพวกคุณจะรวมกันไม่ได้ล่ะ" เนวินกล่าว

ประกาศหนุน อนุทิน นั่งนายกฯ 

สำหรับเรื่องการดัน อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เนวิน กล่าวว่า ในวันนี้อนุทินมีความพร้อมหมดทุกด้าน ทั้งการศึกษา ฐานะ และประสบการณ์ชีวิตในการทำธุรกิจ โดย 3 ปีของอนุทินในการเป็นหัวหน้าพรรคฯ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พิสูจน์ให้คนเห็นแล้วว่าพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ สำคัญที่สุด 

“ผมว่าเขามีความพร้อม ในการที่จะรับผิดชอบ ส่วนรวม ทำเพื่อส่วนรวมมากกว่าเดิม และเขาเข้าใจความรู้สึกของคนไทยในทุกระดับ มากกว่าเดิม อนุทิน เมื่อปี 61 อาจจะเข้าใจบริบทของคนจน คนรากหญ้า คนชนบท คนต่างจังหวัดเกือบไม่เข้าใจเลย เพราะความที่เป็นเจ้าของซิโนไทย ในอดีต แต่มาวันนี้บนบริบทที่ทำหน้าที่เป็น รัฐมนตรีสาธารณสุข ได้ลงมาเห็นปัญหาความทุกข์ยาก เศรษฐกิจ โควิด อะไรทั้งหลายแหล่ รวมไปถึงประสบการณ์ในชีวิตเขา ผมว่าเขาพร้อมแล้ว” เนวินกล่าว

ย้ำ ไม่หวนสนามการเมือง

ขอเป็นแค่ ‘ที่ปรึกษา’

ไทยพีบีเอส รายงานเพิ่มเติมระบุ เนวิน ย้ำว่าจะไม่หวนคืนสนามการเมือง ขอเป็นลุงเนวินของลูกเด็กเล็กแดง ไม่ต้องการมีตำแหน่งใดๆ แต่จะทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาเท่านั้น  พร้อมทั้งปฏิเสธการวางตัว ไชยชนก ชิดชอบ บุตรชาย เป็นทายาททางการเมืองรุ่นที่สามของตระกูลชิดชอบแต่เป็นความต้องการส่วนตัวของบุตรชายในการเข้าสู่สนามการเมืองเพื่อผลักดันนโยบายตามความสนใจ (สืบเนื่องจากในวันประชุมใหญ่พรรคภูมิใจไทยเมื่อ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไชยชนก บุตรชายของเนวิน ได้เปิดตัวว่าจะลงสมัคร ส.ส.เขต จ.บุรีรัมย์)

“ไอ้นั่นมันนรก ทุกวันพี่อยู่นี่เห็นไหมล่ะ (ชี้ไปที่สนามฟุตบอลข้างหลัง) พี่เดินไปไหนมาไหนเด็กลูกเด็กเล็กแดงเรียกลุงเนวิน ชีวิตพี่มีความสุข แต่ถ้าชีวิตพี่เป็นท่านรัฐมนตรีเนวิน วันนี้แม่งกูไม่รู้โดนคอลัมนิสต์คนไหนด่าเท่าไหร่ มีคอมเมนต์ในโซเชียลด่าเท่าไหร่ เดินไปไหนไม่รู้คนเขาจะโห่ไล่หรือเปล่า แต่นี่ชีวิตเราแบบนี้เรามีความสุข” เนวินกล่าว