Skip to main content
sharethis

ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. โดยไม่มีการลงมติ 'ชวน' คาดนัดได้เร็วที่สุดกลางเดือน ม.ค.66 ปธ.วิปฝ่ายค้าน ระบุเป็นการอภิปรายภาพรวมการทำงานของรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมา

 

28 ธ.ค.2565 สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่า วันนี้ (28 ธ.ค.) ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 จาก ชลน่าน  ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย และมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ และพรรคเพื่อชาติ

ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการกำหนดวันเวลาในการพิจารณาญัตติดังกล่าว ว่า ยังต้องหารือความพร้อมของฝ่ายรัฐบาลด้วยจึงจะสามารถกำหนดวันและเวลาที่ชัดเจนได้ ผ่านกลไกคณะกรรมการประสานงานทั้ง 2 ฝ่าย แต่ส่วนตัวเห็นว่าอาจจะเป็นช่วงกลางเดือน หรือปลายเดือน ม.ค.66 สำหรับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. โดยไม่มีการลงมติ นั้น เป็นการอภิปรายเพื่อสอบถาม ให้ความเห็นและข้อแนะนำ ไม่ได้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเป็นโอกาสที่ดีทั้งฝ่ายค้านจะได้เสนอแนะและฝ่ายรัฐบาลจะได้ชี้แจงด้วย

ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการกำหนดวันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. .... และ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต พ.ศ. .... และการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะมีการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษในวันศุกร์หรือไม่ เพราะหากสภาพิจารณาทั้ง 3 เรื่องแล้วเสร็จก็จะสามารถพิจารณาเรื่องอื่นต่อได้ สำหรับวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.65) ภายหลังจากพิจารณากระทู้ถามเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเป็นการพิจารณารายงานที่คณะ กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 12 เรื่อง จำเป็นต้องเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใต้เวลาของสภาที่เหลืออยู่

ปธ.วิปฝ่ายค้าน ระบุเป็นการอภิปรายภาพรวมการทำงานของรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่สุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณียื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ว่าแนวทางการอภิปรายจะมุ่งไปที่ภาพรวมการทำงานของรัฐบาลตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาว่ามีเรื่องใดที่ทำได้และไม่ได้รวมถึงแนวทางแก้ไข ตลอดจนการดำเนินการตาม 12 นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลวางไว้ ทั้งนี้มองว่ารัฐบาลควรมองว่าการอภิปรายในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการแถลงและชี้แจงผลงานไม่ต้องการให้มองการอภิปรายในเชิงลบ 

สำหรับระยะเวลาการอภิปราย ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า ต้องรอหารือกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตามมองว่าการอภิปรายไม่ควรน้อยกว่า 3 วัน จึงจะเหมาะสม ส่วนกรณีการตั้งฉายาของสื่อมวลชน ที่ตั้งให้สภาผู้แทนราษฎร ตนมองว่าต้องยอมรับเพราะภาพลักษณ์ของสภาออกมาเป็นเช่นนั้นจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า รายละเอียดญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปฯ ระบุถึงประเด็น นโยบายเร่งด่วน 12 ประการ ที่รัฐบาลประกาศว่าจะเร่งดำเนินการก็มิได้มีการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด ดังเช่น การแก้ปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน พบว่าประชาชนระดับฐานรากยังมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน มีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนในสังคมสูงมากขึ้น เกิดภาวะรวยกระจุกจนกระจาย คนไร้ที่อยู่อาศัยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ปัญหาประมงพื้นบ้านยังไม่ได้รับการแก้ไข ขณะที่ประมงระดับชาติได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการตราพระราชกำหนดของรัฐบาล กลุ่มมารดาตั้งครรภ์เด็กแรกเกิดยังไม่ได้รับสวัสดิการ การยกระดับราคาสินค้าเกษตรก็ไม่บรรลุผล ราคาสินค้าเกษตรก็ยังตกต่ำมากขึ้นตลอดมา ปัญหาการทุจริตและยาเสพติด ก็เพิ่มมากขึ้น

การดำเนินการเพื่อให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็ไม่มีการปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ โดยขาดความจริงใจ ปล่อยให้พรรคการเมืองดำเนินการกันไปและแก้ปัญหาอุปสรรคกันเอาเอง เป็นต้น การบริหารประเทศของคณะรัฐมนตรีมิได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและความผาสุกโดยรวมของประชาชนเป็นที่ตั้ง มีการใช้จ่ายงบประมาณและการก่อหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาล ส่งผลให้หนี้สินต่อครัวเรือนและต่อหัวประชากรสูงขึ้นเป็นลำดับ แต่กลับไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ ทำให้การบริหารงานด้านเศรษฐกิจล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ขณะเดียวกันก็มุ่งใช้เงินเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง ทั้งเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้กับรัฐบาล และเพื่อความมั่นคงและความอยู่รอดของตนเองทำให้การปฏิรูปการเมืองล้มเหลวจนทำให้ระบบการเมืองกลายเป็นธนกิจการเมือง (Money Politics) ที่มีการใช้เงินเพื่อให้ได้มาหรือรักษาไว้ซึ่งอำนาจทาง การเมือง โดยมิได้คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม และภาระด้านงบประมาณของประเทศการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรม

ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปฯ ยังระบุถึงปัญหา การทุจริตคอรัปชั่นอย่างกว้างขวาง ทั้งจากโครงการขนาดใหญ่จนถึงระดับท้องถิ่นจนดัชนีชี้วัดด้านทุจริตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีการ เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนและพวกพ้องตนเองให้เกิดการผูกขาดและการแสวงหาผลประโยชน์ จากโครงการของรัฐและทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยต้องปิดตัวเองลงจำนวนมาก ขณะที่การแก้ปัญหาที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกลับไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม เป็นต้น

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net