Skip to main content
sharethis

ส.ว.เล็งแก้ รธน. นายกฯ ดำรงตำแหน่งวาระไม่เกิน 8 ปี เป็นไม่มีข้อจำกัด ‘เพื่อไทย’ ชี้ ส.ว.โยนหินถามทาง หวังดึงพรรคพวกประยุทธ์ กลับมาสนับสนุน 

 

17 ม.ค. 2566 ทีมสื่อเพื่อไทย รายงานต่อสื่อวันนี้ (17 ม.ค.) จิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. พยายามเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรค 4 เพื่อให้นายกรัฐมนตรีไม่มีข้อจำกัดในการดำรงตำแหน่งวาระแค่ 8 ปี 

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรค 4 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง

ประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ และทูเดย์ รายงานว่า เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ออกมาให้ความเห็นเรื่องการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ม.158 วรรค 4 ว่าการกำหนดวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปียังจำเป็นหรือไม่ เพราะบางประเทศยอมรับเสียงประชาชนเป็นผู้กำหนด ดังนั้นใครจะเป็นนานเท่าไร หรือจะเป็นนานกี่ครั้ง ไม่จำเป็นต้องกำหนดวาระ 8 ปี นอกจากนี้ เสรี มองด้วยว่า เรื่องพวกนี้ไม่ใช่กฎหมายตายตัว เพราะว่าในประเทศจีน สี จิ้นผิง ประธานาธิบดี ดำรงตำแหน่งวาระผู้นำประเทศเป็นวาระที่ 3 แล้ว จากเดิมกฎหมายจีนกำหนดให้ผู้นำประเทศเป็นได้ไม่เกิน 2 วาระ หรือ 8 ปีเท่านั้น 

เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.

ส.ว.คนเดิมระบุด้วยว่า เรื่องนี้พรรคการเมืองที่ได้ประโยชน์คือทุกพรรคการเมือง ไม่ใช่แค่ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนกล่าวตอบโต้พรรคเพื่อไทย ที่วิจารณ์ว่าการแก้มาตรานี้เพื่อเปิดทาง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งนายกฯ ได้ยาวนานขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นแค่ความกลัวกันไปเอง เพราะยังไม่ทราบว่าพรรคการเมืองไหนจะชนะการเลือกตั้ง 

นอกจากนี้ ส.ว.เสรี ระบุด้วยว่า ส่วนจะแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ม. 158 วรรค 4 ให้ได้ภายในรัฐบาลสมัยนี้ หรือรัฐบาลสมัยหน้า อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเสียงในสภาฯ จะเอาอย่างไร ถ้าสภาฯ ไม่อยากได้ ก็ล่มไปล่มมา

จิรายุ จากพรรคเพื่อไทย มองประเด็นนี้ว่า ส.ว.พยายามทำงานอย่างเป็นระบบ โดยวางเป้าลวงทำทีเหมือนกับใจดีที่พยายามพูดว่าใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีในปีนี้จะได้อยู่ในตำแหน่งได้ยาว แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการพูดต่อสาธารณชน เพื่อให้เกิดการเจรจาต่อรองอำนาจว่าถ้าเกิดใครเห็นด้วยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากได้เลือกมาเป็นนายกฯ แม้อยู่ในตำแหน่งแค่ 2 ปี แต่ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. และเสียง ส.ว.ก็จะโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญให้อยู่ยาวได้ 

"ในทางยุทธศาสตร์การเมืองถือว่าวางหมากอย่างเหนือชั้น เป็นการโยนระเบิดถล่มทางเข้าอุโมงค์ เพื่อให้ใครก็แล้วแต่ทั้งพรรคพวกของบิ๊กตู่ (ผู้สื่อข่าว - พล.อ.ประยุทธ์) ที่สละเรือไปจำเป็นต้องหันมามองถึงเรื่องนี้ในวงการการเมืองเค้ารู้ทัน ส.ว.บางคนที่อยากจะให้ตัวเองหรือคนใกล้ชิดได้กลับเข้ามาเป็นอีกมีความพยายามเช่นนั้น

"ผมคิดว่า ส.ว.จะคิดดังหรือไม่ดังก็มีความตั้งใจ ชัดเจน เราอย่าไปนับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องอยู่ครบ 8 ปี แล้วอยากจะต่อได้เท่าไหร่ยังไง ลองนับดีๆ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาปี 2557 จนถึง 2566 ผ่านมา 9 ปีแล้ว แต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าไปนับปี 2560 มันก็ต้องต่ออีก 2 ปี ไปปี 2568 หมายความว่า ลุงจะกลายเป็นปู่ อยู่ถึง 11 ปีเลยทีเดียว" จิรายุ ระบุ

จิรายุ ห่วงทรัพย์

ส.ส.เพื่อไทยคนเดิม กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมของสมาชิกวุฒิสภาในเวลาประชุมร่วมรัฐสภาฝ่ายค้านเสนอแก้ไขกฎหมายสำคัญรวมทั้งรัฐธรรมนูญ เช่น การเสนอให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ขึ้นมา หรือว่ามีการเสนอให้มีการทำประชาพิจารณ์ ก็เห็นว่าทางสมาชิกวุฒิสภาก็ตีตกคว่ำทุกที จิรายุ มองว่าคนเราอยู่ 4 ปีตามพฤติกรรมการเมืองโลก เพราะเขารู้ว่า 4 ปี สำเร็จหรือไม่ พอสำเร็จคุณก็ต่ออีกสมัยหนึ่งเป็นได้อีก 4 ปี เต็มที่ไม่เคยเกิน 8 ปี

โดยสรุปแล้วเรื่องนี้แค่โยนระเบิดถล่มทางเพื่อให้คนที่กำลังแปรพักตร์จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับไปสวามิภักดิ์ เพื่อสืบทอดอำนาจเพียงเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น จึงขอบอกประชาชนและพรรคการเมืองว่าอย่าไปสนใจ ส.ว. พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนเลือกเพื่อไทย แบบแลนด์สไลด์ต่อไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net