Skip to main content
sharethis

สหภาพลูกจ้างของรัฐฯ ประชุมหารือก่อนขอเข้าพบ “อนุทิน” วันที่ 6 ก.พ.นี้ ร้องความเป็นธรรมสิทธิสวัสดิการลูกจ้างชั่วคราว 56 สายงานปฏิบัติใน สธ. ปรับการจ้างให้มั่นคง เพิ่มค่าเสี่ยงภัย 3 จ.ชายแดนใต้ และแก้ค่าตอบแทนต่ำกว่ามาตรฐาน เงินเสี่ยงภัยโควิดล่าช้า 

 

17 ม.ค. 2566 เว็บไซต์สื่อ ‘Hfocus’ รายงานวันนี้ (17 ม.ค.) โอสถ สุวรรณ์เศวต ประธานสหภาพลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย (สลท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามขวัญกำลังใจแก่เครือข่ายพนักงานและลูกจ้างสายสนับสนุนบริการ หรือแบ็กออฟฟิศ ว่าตัวแทนสหภาพลูกจ้างของรัฐฯ หรือ สลท. ทุกเขตสุขภาพทั่วประเทศ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ จ.ลำปาง เพื่อสรุปข้อเรียกร้องก่อนเข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในช่วงเช้าวันที่ 6 ก.พ. 2566 โดยจะมีตัวแทนจากทั้ง 13 เขตสุขภาพทั่วประเทศเดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุขในวันดังกล่าว

ไม่กระทบบริการประชาชนแน่นอน

“การเดินทางมาครั้งนี้ขอยืนยันจะไม่กระทบต่อการให้บริการประชาชนอย่างแน่นอน เนื่องจากพวกเราส่งตัวแทนมาหารือและขอความช่วยเหลือท่านอนุทิน โดยมีอีกส่วนที่ให้บริการอยู่ ซึ่งลูกจ้างสายสนับสนุนบริการ จะมีทั้งลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างเหมาบริการ (รายวัน-รายเดือน) มีทั้งหมด 56 สายงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขกว่า 1.4 แสนคน  เช่น พนักงานขับรถยนต์ พนักงานผู้ป่วยเหลือคนไข้ ผู้ช่วยพยาบาล พนักงานเปล พนักงานบัตรรายงานโรค พนักงานห้องเอกซเรย์ พนักงานวิทยาศาสตร์ (ห้องปฏิบัติการ) พนักงานประจำห้องยา พนักงานช่าง เป็นต้น ซึ่งหากลูกจ้างที่จะเข้าร่วมเรียกร้องขอให้มาร่วมได้ในวันเวลาดังกล่าว หรือติดต่อมาที่สหภาพฯได้” โอสถ กล่าว

ยืนยัน 4 ข้อเรียกร้องเดิม เพิ่ม 2 ข้อใหม่

ประธาน สลท. กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องยังเป็น 4 ข้อเรียกร้องเดิม และ 2 ข้อเรียกร้องเพิ่มเติม  ประกอบด้วย 4 ข้อเรียกร้องเดิม คือ

ขอให้พนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) สายสนับสนุนบริการ เข้าสู่ระบบการจ้างด้วยเงินงบประมาณจากการกระทรวงการคลังโดยตรง ไม่ใช่เงินบำรุงของโรงพยาบาล (รพ.) ทำให้ไม่มั่นคงในการจ้างงาน ถูกกดขี่ค่าจ้าง ไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องปรับเงินเดือนประจำปี

ขอให้ สธ.ยกเลิกสัญญาการจ้างระยะสั้น 4 ปีของ พกส.ที่ไม่มีความมั่นคง ให้ปรับระบบสัญญาจ้างงานจนถึงอายุ 60 ปี เช่นเดียวกับลูกจ้างประจำ โดยรอบปีที่ผ่านมามีการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมที่ให้ปรับลดสัญญาจ้างจาก 4 ปีเหลือ 1 ปี ทั้งที่มีระเบียบ พกส.รองรับ อาจมีการกระทำซ้ำในอนาคต 

ขอให้ยกเลิกการจ้างงานที่ไม่มีความมั่นคงแบบลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างเหมาบริการของ สธ.ทั้งหมด ขอให้ปรับเข้าสู่ระบบการจ้างงานเป็น พกส.ทั้งหมดทั่วประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำการทำงานและสวัสดิการให้มีลูกจ้าง สธ.เพียงสายงานเดียว คือ พกส.

ขอให้ พกส. และลูกจ้างฯ ที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้รับค่าเสี่ยงภัยเหมือนข้าราชการ เพราะมีความเสี่ยงเหมือนเจ้าหน้าที่อื่นๆ เช่นกัน

ส่วนข้อเสนอเพิ่มเติมมี 2 ข้อ ได้แก่ 1.ค่าตอบแทนและค่าล่วงเวลาของเจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ซึ่งปัจจุบันได้รับน้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ อย่างค่าจ้างขั้นต่ำเฉลี่ยวันละ 332 บาท ได้ค่าจ้างล่วงเวลาน้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ เฉลี่ย 300 บาท ซึ่งควรได้ขั้นต่ำเท่าค่าแรงขั้นต่ำ และ 2.ค่าเสี่ยงภัยโควิดของสายสนับสนุน ปัจจุบันได้กันแค่ 1 เดือน แต่สายวิชาชีพกลับได้กันครบ เหตุเพราะทางกระทรวงสาธารณสุขบอกว่า เป็นเงินคนละงบประมาณ โดยค่าเสี่ยงภัยของสายวิชาชีพได้จากงบเงินกู้ แต่สายสนับสนุนเป็นงบประมาณ ซึ่งไม่เพียงพอ ตรงนี้เป็นการแบ่งแยกหรือไม่

“ลูกจ้างสายสนับสนุน เราได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยช้ามาก ทั้งๆ ที่อีกกลุ่มได้รับเงินกันแล้ว โดยได้เหตุผลว่า เงินคนละงบประมาณ เรื่องนี้จึงต้องร้อนถึงท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีฯ ให้รับทราบและช่วยเหลือพวกเรา แม้พวกเราจะเป็นลูกจ้าง แต่เราก็ปฏิบัติงานช่วงโควิดไม่แตกต่างจากวิชาชีพอื่นเลย” ประธานสหภาพฯ กล่าว

ประธาน สลท. กล่าวว่า ในวันที่ 6 ก.พ.นี้ การเดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุขช่วงเช้า อาจกระทบการจราจรต่อข้าราชการ บุคลากร และผู้สัญจรไปมาในกระทรวงฯ ต้องขออภัย ถ้าไม่ลำบากจริงๆ เราไม่ได้ต้องการให้กระทบการจราจร หากได้เข้าพบโดยเร็ว และมีการหารือผ่านไปได้ พวกตนก็จะไม่อยู่นาน เพื่อลดผลกระทบต่อการเดินทางภายในกระทรวงฯ ให้มากที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net