Skip to main content
sharethis

วีระ สมความคิด แทคทีม สมชัย ศรีสุทธิยากร ร้อง กกต. ไต่สวน 'รวมไทยสร้างชาติ' 5 ข้อกล่าวหา รวมขนคนฟังปราศรัย แจกเสื้อ-หมวกให้คน ไตรรงค์ปราศรัยพาดพิงสถาบันกษัตริย์ และอื่นๆ หากผิดจริงคุก 1-10 ปี ตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง 20 ปี 

 

19 ม.ค. 2566 สื่อ 'The Reporters' รายงานวันนี้ (19 ม.ค.) สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายพรรคเสรีรวมไทย และ วีระ สมความคิด เดินทางมายื่นคำร้องที่สำรักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้มีการไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กรณีเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สำหรับ 5 ข้อกล่าวหาที่นายสมชัย และ วีระ ต้องการให้ กกต.มีคำวินิจฉัย ประกอบด้วย

วีระ สมความคิด และ สมชัย ศรีสุทธิยากร ร้อง กกต. สอบ รทสช. (ที่มา: The Reporters)

1. ใช้รถบัสมากกว่า 100 คัน ขนคนข้ามจังหวัด มาฟังคำปราศรัยในวันที่ 9 ม.ค. 2566 เป็นประเด็นก้ำกึ้งว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ แต่การขนคนถือเป็นประโยชน์ที่ตีมูลค่าเป็นเงินได้ พร้อมทั้งขอให้ กกต.ไต่สวนเรื่องการจัดเลี้ยง ค่ายานพาหนะ และค่าเสียเวลา สำหรับผู้ร่วมฟังปราศรัยด้วย

2. การแจกเสื้อ และหมวก มากกว่า 4,000 ชุด มูลค่ามากกว่า 1,000,000 บาท แม้ซองที่เสื้อเขียนว่า ทรัพย์สินของพรรคการเมือง ใช้ในการประชุมเท่านั้น แต่หลังการประชุมไม่มีการเรียกคืน ทุกใส่เสื้อและหมวกกลับบ้าน ซึ่งมีพยานบุคคลที่ยืนยันว่า เขาไม่ใช่สมาชิกพรรค แต่ได้รับการแจกเสื้อแลเละหมวก โดยไม่มีการเรียกคืน 

3. การจัดมหรสพโดยศิลปินระดับชาติ "หรั่ง ร็อกเครสตรา"  ร้องเพลงที่พรรคการเมืองดังกล่าวแต่งมา จำนวน 3 เพลง 

4. การปราศรัยของ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ไม่เหมาะสม กล่าวถ้อยคำหรือหยาบคาย กร้าวร้าว และรุนแรง 

5. การจัดประชุมใหญ่วิสามัญพรรค แต่ไม่มีการเซ็นชื่อของผู้เข้าร่วม ไม่มีการประชุมตามวาระ ไม่มีการลงมติเลือกกรรมหารสรรหาผู้สมัคร เป็นการใช้ชื่อประชุมเพื่อบังหน้าหาเสียง

สมชัย เปิดเผยว่า กกต.ควรมีคำวินิจฉัย เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้ทุกพรรคการเมืองว่าสามารถดำเนินการดังกล่าวได้หรือไม่ หากไม่สามารถทำได้ กกต.ต้องมีมติส่งต่อไปยังศาลฎีกา ให้มีคำพิพากษา ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 73(1)-73(5) ฐานความผิดต่อผู้สมัคร พรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรค มีบทลงโทษ จำคุก 10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และตัดสิทธิในการสมัครเลือกตั้ง 20 ปี ส่วนหากว่ามีการยุบสภา คดีดังกล่าวจะหายไปหรือไม่นั้น  ตามกฎหมายการนับค่าใช้จ่ายในการหาเสียงจะเริ่มนับตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา ส่วนคดีความ กกต.ต้องวินิจฉัยว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ หาก กกต.มีคำวินิจฉัยไม่เดินหน้าต่อ กกต.จะเกิดปัญหาตัดสินเอื้อประโยชน์พรรคการเมือง มีบทเรียนมาแล้วใน กกต.ชุดที่ 2 ติดคุกติดตาราง พ้น กกต.ยกชุด กกต.ต้องคิดให้ดี  ยุบสภาคดีต้องไม่สิ้นสุดลง

"ฝากเป็นบทเรียนให้ กกต.ชุดนี้ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส อะไรผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก พูดให้สังคมชัดเจน อะไรทำได้ ทำไม่ได้ หลักฐานที่เรามอบให้เพียงพอ เป็นอาหารที่ปรุงเสร็จพร้อมให้ท่านเคี้ยว หากวางเฉยอยู่บนโต๊ะอาจมีปัญหา" สมชัย กล่าว 

วีระ กล่าวว่า เราให้เวลา กกต.พิจารณาเพียง 1 เดือน หากไม่ดำเนินการอะไร จะดำเนินการตามกฎหมายกับกรรมการ กกต. ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม. 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

สื่อ The Reporters รายงานด้วยว่า มีผู้สื่อข่าวถาม ‘ไตรรงค์ สุวรรณคีรี’ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และสมาชิก รทสช. ถึงกรณีที่วีระ และสมชัย ร้อง กกต. โดยระบุว่าเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง ช่างหัวมันปะไร และย้ำว่านี่คือคำตอบของตัวเอง 

ไตรรงค์ สุวรรณคีรี

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หาก กกต. เรียกเข้าไปตรวจสอบจะเข้าไปหรือไม่ ไตรรงค์ กล่าวว่า ต้องดูกฎหมายก่อนว่าหากไม่ไปจะผิดหรือไม่ ถ้าไม่ผิดก็ไม่ไป 

เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากถึงคนที่ไปร้องหรือไม่  ไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่ฝาก ไม่อยากพูดด้วย หมั่นไส้ ก่อนจะเดินขึ้นรถ และเดินทางออกจากพรรคไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net