เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ร่วมสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง ‘ตะวัน-แบม’

เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ 6 พื้นที่ ร่วมสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง ‘ตะวัน-แบม’ ชี้ควรสนับสนุนข้อเรียกร้องของน้องๆ ศาลควรให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เพราะทุกคนต้องมีเสรีภาพ ในความคิด ในการแสดงออกแต่ละเรื่องของแต่ละคน


กลุมฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองทองคำ จังหวัดเลย

28 ม.ค. 2566 เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่แจ้งข่าวว่า ทางเครือข่ายฯ ทั้ง 6 พื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จ.หนองบัวลำภู กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส จ.สกลนคร กลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย จ.มุกดาหาร กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองแร่ทองคำ จ.เลย และกลุ่มรักษ์บ้านแหง จ.ลำปาง ร่วมสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง ของ “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ “แบม” อรวรรณ ภู่พงศ์ นักกิจกรรมรุ่นใหม่ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งถูกคุมขังในคดีมาตรา 112  เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2566 จากการยื่นขอเพิกถอนประกันตัวเอง เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน


กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา


กลุ่มรักษ์บ้านแหง จังหวัดลำปาง


กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร


กลุ่มอนรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย จังหวัดมุกดาหาร


กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จังหวัดหนองบัวลำภู

โดย 3 ข้อเรียกร้อง คือ

1. ต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงออกเป็นอย่างแรกมาก่อนสิ่งอื่นใด ต้องเป็นอิสระ ปราศจากอำนาจนำ ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน และผู้บริหารศาลต้องไม่แทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี

2. ยุติการดำเนินความกับประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม และการแสดงออกทางการเมือง

3. พรรคการเมืองทุกๆ พรรคต้องเสนอนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพ การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยการยกเลิกมาตรา 112 และ 116

ซึ่งตัวแทนชาวบ้านแต่ละพื้นที่ก็ได้แสดงความเห็นต่อข้อเรียกร้องทั้งสามข้อไว้ในหลายแง่มุม

ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได  กล่าวว่า การออกมาสนับสนุนข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ พร้อมการยืนชูสามนิ้วของกลุ่มอนุรักษ์ฯเป็นกิจกรรมแสดงถึงการไม่เห็นด้วยกับรัฐที่ปฏิบัติต่อนักเคลื่อนไหว ที่แสดงออกทางความคิดด้วยมือเปล่า แล้วถูกรังแกด้วยการกักขังยัดคดี เป็นการกระทำของรัฐที่ไร้ซึ่งความเป็นรัฐประชาธิปไตย

ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ได้กล่าวว่า “สิ่งที่น้องๆ ออกมาสู้ เขาแค่อยากให้ประเทศมันดีขึ้น มันเป็นธรรมสำหรับพวกเขาเลย กลุ่มยืนยันสนับสนุนข้อเรียกร้องทั้งสามข้อ ทั้งสามข้อไม่มีอะไรเสียหาย และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยน”

ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองแร่ทองคำ กล่าวว่า “เราสมควรสนับสนุนข้อเรียกร้องของน้องๆ ศาลควรให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เพราะทุกคนต้องมีเสรีภาพ ในความคิด ในการแสดงออกแต่ละเรื่องของแต่ละคนอยู่แล้ว ซึ่งทั้งสามข้อ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรได้รับ กลุ่มจึงพร้อมสนับสนุนต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องของศาลนั้น เป็นเรื่องพื้นฐานเช่นกันที่ต้องไม่ถูกแทรกแซง ไม่ว่าจะจากอำนาจใดก็ตาม และทุกกระบวนการขั้นตอนก็ต้องเคารพต่อหลักการสิทธิมนุษยชน”

และตัวแทนกลุ่มรักษ์บ้านแหง กล่าวว่า “อยากให้ยกเลิก 112 เพราะไม่ควรมีใครควรถูกจองจำ ถูกกักขังเพราะแค่ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียม ให้คนเท่ากัน ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เราจะเห็นว่าทั้งสามข้อเรียกร้อง ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยาก แต่เป็นเรื่องที่สมควรต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วในสถานการณ์ปกติ”

คำถามสำคัญคือเราจะอยู่กันอย่างไรหากศาลไม่เคารพสิทธิมนุษยชน และยอมให้ถูกแทรกแซงได้ เราจะอยู่กันอย่างไรหากประชาชนไร้ซึ่งสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิด และการแสดงออก และเราจะอยู่กันอย่างไรหากปล่อยให้มีการใช้กฎหมายปิดปากประชาชนได้โดยเปิดเผย และไม่มีความละอายใจใดๆ เพราะไม่อยากเห็นสังคมเสื่อมถอยไปมากว่านี้ ผู้คนจากหลากหลายกลุ่มจึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนต่อข้อเรียกร้องของตะวันและแบม และยืนยันว่าประเทศนี้ต้องการความเท่าเทียม ต้องการให้คนเท่ากัน

ทั้งนี้การออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้หลายคนนอกจาก “ตะวัน” และ “แบม” ต้องถูกพรากอิสระภาพ ด้วยการกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก และการแสดงความคิดเห็น แต่สิ่งที่เลวร้ายไปมากกว่านั้นคือ หลายคนที่ถูกกล่าวหา โดยที่ไม่อาจใช้สิทธิในการประกันตัว ซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานที่สำคัญอีกประการหนึ่งเพื่อออกมาต่อสู้คดีอย่างยุติธรรมได้ ดังนั้นการถูกพรากเสรีภาพในการแสดงออก การแสดงความคิดเห็น และการกลั่นแกล้งโดยไม่ให้สิทธิในการประกันตัว และบังคับให้ถูกกักขังทั้งที่ยังไม่มีความผิด สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่หน้าที่ของใคร หรือคนกลุ่มใด ที่จะออกมาเรียกร้อง แต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ออกมาเพื่อเรียกร้องสิทธิดังกล่าวกลับคืนมา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท