'ประยุทธ์' ปราศรัย จ.ชุมพร ลั่นขอพลิกโฉมประเทศไทยใน 2 ปี

'ประยุทธ์' ปราศรัย จ.ชุมพร ลั่นขอทำต่อ พลิกโฉมประเทศไทยใน 2 ปี สานต่อรถไฟรางคู่ถึงปาดังเบซาร์ - รับตื่นเต้นขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก​ในนามนักการเมืองรวมไทยสร้างชาติ​ โอดถูกคนจับจ้อง​ แต่ต้องระวัง เหตุ​มีหลายบทบาท​ ปัดประเมินกระแส​ โยนพรรคเคาะคิวเวทีต่อไป - 'นิด้าโพล' เผย พปชร.-รทสช. สูสี ได้ ส.ส.ไม่ห่างกัน เชื่อ 2ป. จับมือร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะนักการเมืองครั้งแรก ที่ จ.ชุมพร โดยเริ่มประโยคแรกของการปราศรัยว่า “รักคนชุมพร” ยืนยันหัวใจอยู่กับประชาชนทุกคน วันนี้มาเยี่ยมชุมพร เพราะชุมพรคือประตูสู่ภาคใต้ และวันนี้มีรถไฟรางคู่เชื่อมมาสู่ภาคใต้ ปีนี้เสร็จแน่นอน มาชุมพรและทำไว้ล่วงหน้าจากชุมพรไปสงขลา ไปปาดังเบซาร์ ยืนยันหัวใจร่างกายนายกฯ อยู่กับพวกเราทุกคน และทำเพื่อคนทั้งประเทศ หลายเรื่องที่ทำยังไม่เสร็จ จึงขอทำต่อ ทั้งนี้ ตนทราบดีถึงปัญหาของประชาชน ทำงานมาหลายปีแล้ว ไม่ลืมคำสัญญาว่าจะพลิกประเทศไทยให้ดีขึ้นให้ได้โดยเร็วภายใน 2 ปี อย่างที่ตนบอก ถ้ามองด้วยความเป็นธรรม หลายอย่างเกิดขึ้นแล้ว และตนจะเป็นคนทำต่อให้ดีที่สุด ถ้ามีโอกาส

“นี่คำสัญญาของผมลูกผู้ชายคนหนึ่งที่จะทำให้คนไทยทั้งชาติดีขึ้น และใน 2 ปีข้างหน้า ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นไปอีก วันนี้ผมมาในฐานะนักการเมือง ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมรักคนชุมพร ทุกช่วงทุกวัย เด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ คนชรา ตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานที่นี่ก่อนหน้านี้จนถึงวันนี้ ผมไม่เคยลืมคำสัญญาที่สัญญาไว้ว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อจะเปลี่ยนแปลงประเทศของเราไปในวันข้างหน้าให้เร็วที่สุด เพื่อประชาชน อนาคตของประเทศไทย และลูกหลานของท่าน ถ้าเราไม่ทำให้ต่อเนื่อง มันก็ไปไม่ได้ เหมือนเราทำถนนเส้นทางไปเส้นหนึ่ง ถ้าทำไม่ต่อเนื่องก็ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางสุดท้าย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่อาสาสมัครเข้ามาในวันนี้ เพราะเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และขีดความสามารถของหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ตลอดจน ส.ส.ทุกคนที่ลงเลือกตั้ง ตนเชื่อมั่นว่า เราจะทำการเมืองของเราให้ดีที่สุด หลายปีที่ผ่านมาได้พยายามทำหลายอย่าง ต้องยอมรับว่ามากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายพรรคหลายปีได้หลายเท่าด้วยซ้ำไป ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง แก้ปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้ง ทำต่อมาเรื่อยๆ แต่มันยังไม่สิ้นสุด ต้องอาศัยการทำงานสานต่อสืบต่อไปให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนทำงานทุกอย่างทุกด้านอย่างละเอียดถี่ถ้วนในการกำหนดนโยบายต่างๆ และดูแลทั้งในส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น ตนพูดในนามของนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่สังเกตเห็นว่าหลายอย่างดีขึ้น หลายอย่างพอใจมากขึ้น แต่เราหยุดไม่ได้ หลายอย่างที่ทำมาแล้วต้องทำต่อ ทำใหม่ แก้ไข นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องการความต่อเนื่องในการทำงานในรัฐบาลต่อไป ซึ่งจะเป็นใครผมไม่ทราบ ระวังต่อจิ๊กซอว์ของเรา ภาพใหญ่ของประเทศ มีคน มีพื้นดิน ฟ้า อากาศ อะไรก็แล้วแต่ นี่คือประเทศไทย และที่นั่งอยู่ตรงนี้ ถ้ามองภาพรวมประเทศไทยเป็นขวาน 1 เล่ม ชุมพรคือด้ามขวาน หากไม่มีด้ามก็คือสากกะเบือนั่นเอง ขณะนี้โครงการสนามบิน ถนน ท่าเรือ ทุกอย่างเกิดแล้ว แต่ยังไม่เสร็จ 100% ถ้าตนได้อยู่ก็จะทำต่อให้ ซึ่งความต้องการของประชาชนมีมากมาย ทั้งในส่วนที่โดยตรง โดยอ้อม โดยตรงคือความเดือดร้อนที่รายได้ไม่เพียงพอ จึงจะพัฒนาไปสู่การมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ลดช่องว่างตรงกลาง ลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำไว้ให้ ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้คือโอกาสที่เท่าเทียม

“ที่นี่น่าจะมีผู้ได้รับบัตรประชารัฐ 80,000 กว่าคน เราทำต่อ โครงการคนละครึ่ง โครงการบัตรสวัสดิการฯ โครงการที่ทำไว้แล้วในวันนี้ ผมจะสานต่อ ถ้าผมได้อยู่ต่อ และจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเราต้องร่วมมือร่วมใจกันในการทำให้ภาพใหญ่ของประเทศ ผมรู้ทุกคนทนผมอยู่มา 8 ปี ถ้าได้อยู่ก็จะทำของเก่าที่ค้างต่อ ถ้าเราไม่วางพื้นฐานไว้ ก็จะกลับไปอยู่ที่เดิม จะสร้างรถไฟฟ้า 1 ล้านคัน/ปี ไม่ใช่เพราะประกอบอย่างเดียว ต้องสร้างระบบในประเทศด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหาเสียงวันนี้ไม่ใช่เกทับบลัฟแหลกแจกของกันเยอะแยะไปหมด ขอให้เชื่อมั่นความบริสุทธิ์ใจ ตนจะทำให้ดีที่สุด ประเทศไทยประกอบด้วยแผ่นดิน ผืนน้ำ อากาศ และคน ซึ่งคนถือว่าสำคัญที่สุด ต้องให้ตั้งแต่เด็ก การศึกษา การเรียนรู้ ซึ่งเราเริ่มระบบการศึกษาไว้หมดแล้ว ตนไม่ใช่ให้พรรคนี้อยู่ 2 ปี ทำดีก็ให้ทำต่อ ไม่ใช่ตั้งมาแล้วก็เลิก

ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีพยายามพูดภาษาใต้ว่า “รักคนใต้จังฮู้ รักชาวชุมพรจังฮู้ อาหารใต้ชอบกิน แต่เผ็ดจังเลย ผมรักคนชุมพรนะครับ ผมรักคนชุมพรนะครับ คนชุมพรรักลุงตู่ ตั้งแต่พรุ่งนี้จะไปเรียนภาษาใต้แล้ว และวันนี้ก็ฝากความรักไว้กับพวกเรา ความปรารถนาดีไว้กับพวกเรา ฝากหัวใจไว้กับพวกเรา จะดูแลหัวใจนายกฯ ได้ไหม” ชาวชุมพรตะโกนตอบว่าได้ นายกฯ ยังย้ำว่า ขอฝากหัวใจไว้กับพวกเรา หัวใจสมาชิกคนนี้ และปิดท้ายเวทีด้วยเพลงศรัทธา และเพลงสรรเสริญพระบารมี

ก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงต้นกำเนิดของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เป็นจริงขึ้นมาได้ในวันนี้เพราะชาวชุมพร ซึ่งตอนนี้ความฝันอยากทำพรรคที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ร่วมกันสู้ทุกปัญหาเพื่อประชาชนทั้งประเทศ และเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักสู้ทุกปัญหา ที่มาร่วมทำงาน พร้อมประกาศว่า ต่อไปรวมไทยสร้างชาติจะเป็นหลักของประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ไม่ต้องการตำแหน่งในพรรค แต่สำหรับตนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็น Super หัวหน้าพรรค ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ นำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง มีแนวนโยบายว่า รื้ออะไรที่ไม่ดี ให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี ความเหลื่อมล้ำให้หมดไป ลดภาระหนี้สินค่าใช้จ่าย สร้างบ้านเมืองที่ดี มีความเท่าเทียมเสมอภาค มีความเป็นธรรม ยืนยันจะซื่อสัตย์ ไม่โกง ไม่กิน ตั้งใจทำงานให้ชาติบ้านเมือง

ทั้งนี้ บรรยากาศที่เวทีเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนมาเต็มพื้นที่ลานเทศบาลเมืองชุมพร จนทะลักไปถึงหน้าศาลาเมืองชุมพร และก่อนขึ้นเวที พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินฝ่าประชาชนมาตั้งแต่ด้านหลัง เพื่อทักทายพี่น้องประชาชน โดยตลอดทางที่เดิน มีประชาชนชูป้าย “ลุงตู่ สู้ๆ” “ลุงตู่ไปต่อ” พร้อมขอถ่ายรูปและสวมกอดจำนวนมาก แถมยังบอกด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ หล่อกว่าที่เห็นในทีวี

รับตื่นเต้นขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก​ในนามนักการเมืองรวมไทยสร้างชาติ​

พล.อ.ประยุทธ์​ เปิดเผยภายหลังการขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ​ ที่ จ.ชุมพร​ โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกในการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นอย่างไร​ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ดีใจ ประชาชนก็น่ารักเนอะ​ อยู่ที่ประชาชนนะจ๊ะ​ ส่วนเวทีต่อไปจะเป็นที่ใดนั้น ทางพรรคจะเป็นผู้เตรียมเอง

ส่วนกระแสการเมืองครั้งแรกเป็นเช่นไรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะเราก็มีบทบาทอื่นอยู่ด้วย ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหา เพราะหลายคนจับตาดูพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ก่อนเขาก็ไม่เห็นให้ความสำคัญอะไรเลย แต่วันนี้เขามาจับจ้องเรามากขึ้น​ ไม่รู้ว่าเหตุใด เพราะอะไร ซึ่งประชาชนเห็นถึงความจริงจัง​ จริงใจ ไม่ใช่เพราะตนดี​ ตนเก่ง แต่ตนซาบซึ้งในสิ่งที่ประชาชนแสดงออกมาด้วย ทุกคนน่ารักหมด​ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ตนนั้นมีกำลังใจ​ ถ้าทำต่อได้ก็จะทำ​ แต่สุดท้ายก็อยู่ที่เขาจะเลือกหรือไม่เลือกใช่หรือ​ไม่ บังคับเขาไม่ได้

ส่วนประเมินจากเวทีแรกเป็นเช่นไรนั้น​ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องให้ทางพรรควิเคราะห์ เพราะตนมาในฐานะสมาชิกพรรค​ ต้องให้พรรคเป็นผู้ประเมิน หากว่าจะต้องลงพื้นที่อื่น จะต้องทำอย่างไรต่อไป​ ในทำนองนี้​ ขอบคุณทุกคนอุตส่าห์มา

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการโปรดเกล้าฯ กฎหมาย 2 ฉบับแล้ว จะยุบสภาเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ยังหรอก ให้เวลาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำงานไปก่อน”

ทั้งนี้ หลังจากที่เคลื่อนรถออก พล.อ.ประยุทธ์ ได้โบกมือทักทายประชาชน และส่งสัญลักษณ์ I love you

'นิด้าโพล' เผย พปชร.-รทสช. สูสี ได้ ส.ส.ไม่ห่างกัน เชื่อ 2ป. จับมือร่วมรัฐบาล

29 ม.ค. 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง พรรคพลังประชารัฐ ปะทะ พรรครวมไทยสร้างชาติ เกี่ยวกับการแข่งขันทางการเมืองระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จากพรรคพลังประชารัฐ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากพรรครวมไทยสร้างชาติ จากการสำรวจเมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชน

การแข่งขันทางการเมืองระหว่างพล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ พบว่า 

ร้อยละ 46.56  ระบุว่า ไม่ได้แตกกัน เป็นเพียงแค่การแข่งขันทางการเมือง 

ร้อยละ 28.93 ระบุว่า การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร 

ร้อยละ 20.53 ระบุว่า เป็นสีสันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย 

ร้อยละ 12.52 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอิสระมากขึ้นในการตัดสินใจทางการเมืองและการบริหารประเทศ 

ร้อยละ 10.76 ระบุว่า การแข่งขันกันจะทำให้ทั้งสองพรรคได้ ส.ส. รวมกันแล้วน้อยกว่าจำนวนส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 2562 

ร้อยละ 9.01 ระบุว่า พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ แตกกันอย่างแน่นอน 

ร้อยละ 8.78 ระบุว่า พล.อ.ประวิตร และ พรรคพลังประชารัฐ เป็นอิสระมากขึ้น สามารถร่วมรัฐบาลกับฝั่งไหนก็ได้ หลังการเลือกตั้ง 

ร้อยละ 6.56 ระบุว่า การแข่งขันกันจะทำให้ทั้งสองพรรคได้ ส.ส. รวมกันแล้วมากกว่าจำนวนส.ส. พรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งปี 2562 

ร้อยละ 6.34 ระบุว่า ผู้ที่เคยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่ชอบพรรคพลังประชารัฐ จะกลับมาสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์มากขึ้น 

จำนวน ส.ส. ระหว่าง พรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า

ร้อยละ 42.75 ระบุว่า ทั้งสองพรรค จะได้จำนวน ส.ส. เท่าๆ กัน 

ร้อยละ 25.73 ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐของพล.อ.ประวิตร จะได้จำนวน ส.ส. มากกว่า 

ร้อยละ 24.73 ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ของพล.อ.ประยุทธ์ จะได้จำนวน ส.ส. มากกว่า 

ความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ จะจับมือกันในการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่า

ร้อยละ 38.40 ระบุว่า เป็นไปได้มาก 

ร้อยละ 30.07 ระบุว่า ค่อนข้างเป็นไปได้ 

ร้อยละ 18.32 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย 

ร้อยละ 11.76 ระบุว่า ไม่ค่อยเป็นไปได้ 

ที่มาเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย [1] [2] | กรุงเทพธุรกิจ
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท