ศาลขอนแก่นพิพากษา ‘บอส อิศเรษฐ์’ จำคุก 6 ด. ปรับ 10,000 คดีพยายามทำร้ายจพง. หลังรอง ผบช.ภ.4 ปิดลำโพง-แย่งไมค์ผู้ชุมนุม

ศาลแขวงขอนแก่น พิพากษาลงโทษ ‘บอส อิศเรษฐ์’ นักกิจกรรมขอนแก่น จำคุก 6 ด. ปรับ 10,000 โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี คดีพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานที่ปิดลำโพง-แย่งไมค์ผู้ชุมนุม ศาลเห็นว่าคำให้การพยานโจทย์น่าเชื่อถือ แม้ตามคลิปไม่ปรากฏอิศเรษฐ์ ชก รอง ผบช.ภ.4 

31 ม.ค. 66 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลแขวงขอนแก่นพิพากษาคดี บอส อิศเรษฐ์ เจริญคง นักกิจกรรมขอนแก่น ซึ่งถูกฟ้องพยายามทำร้ายเจ้าพนักงาน หลังรอง ผบช.ภ.4 แย่งไมค์ผู้ชุมนุมเมื่อ 14 ต.ค. 64 ขณะ “ราษฎรขอนแก่น” จัดกิจกรรมต่อต้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น  ศาลเห็นว่าคำให้การพยานโจทก์น่าเชื่อถือ จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี

 

ด้านเดอะอีสานเรคคอร์ดรายงานคำพูดของ พัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความระบุว่า โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี ส่วนค่าปรับมีการชำระเรียบร้อยแล้วในวันนี้ ตามกฎหมายถ้าหากจำเลยยังไม่พอใจคำพิพากษาก็สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ มีกำหนดภายใน 1 เดือน แต่ว่าต้องไปปรึกษากันก่อน

 

 

ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า คดีนี้อิศเรษฐ์ถูกผู้บังคับกองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ซึ่งควบคุมดูแลกำลัง คฝ.ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุเข้าแจ้งความกล่าวหาว่า อิศเรษฐ์ใช้กำปั้นชก พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบช.ภ.4) และ พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา สารวัตรป้องกันและปราบปราม (สวป.) สภ.เมืองขอนแก่น หลัง รอง ผบช.ภ.4 เข้าปิดลำโพงและแย่งไมค์จาก “ไนซ์ ดาวดิน” หรือ ภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ ที่กำลังเริ่มปราศรัย แม้ว่าหลังเกิดเหตุบอสจะถูก คฝ.ใช้กำลังเข้าควบคุมตัวและส่งตัวให้ สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีฐาน ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตและขัดคำสั่งเจ้าพนักงานโดยบอสให้การรับสารภาพในชั้นตำรวจ และเสียค่าปรับไปแล้วรวม 700 บาท

ฐานความผิดที่อัยการฟ้องอิศเรษฐ์เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, มาตรา 296 ประกอบมาตรา 289(2), 80 และมาตรา 391 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยอิศเรษฐ์ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ยืนยันตามหลักสากลว่า บุคคลไม่อาจถูกลงโทษหลายครั้งสำหรับการกระทำความผิดครั้งเดียวได้ (Not Twice for the Same) อีกทั้งเขาไม่ได้ชก พล.ต.ต.ไพศาล ตามที่ถูกกล่าวหา แค่ใช้มือผลักเพื่อป้องกันไนซ์ ที่ถูก พล.ต.ต.ไพศาล เข้าแย่งไมค์ อันเป็นการขัดขวางการใช้เสรีภาพการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งการกระทำของเขาเป็นการใช้สิทธิป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

นักวิชาการชี้ ตร.ใช้อำนาจโดยมิชอบละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานถึง รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เบิกความเป็นพยานจำเลยอีกปากในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมวิทยาการเมืองว่า การกระทำที่ตำรวจเข้าปิดลำโพงและแย่งไมค์ ในทางวิชาการถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบและใช้อำนาจล้นเกินของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา 34 ระบุว่า บุคคลมีเสรีภาพในการแสดงออก การจำกัดจะกระทำมิได้ เป็นหลักการสากลที่ทั่วโลกยอมรับ การมาแย่งไมค์ถือว่าเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก

ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน การแสดงออกของจำเลยถือว่าเป็นการมีส่วนร่วมทางการเมือง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานซึ่งจะถูกละเมิดมิได้เลยในสังคมประชาธิปไตย

พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ ถือเป็นกฎหมายที่มีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ ในทางปฏิบัติถ้าประชาชนใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้ขออนุญาตก็ไปดำเนินคดีในภายหลัง แต่จะห้ามใช้เครื่องขยายเสียงหรือห้ามพูดไม่ได้ เป็นการใช้กฎหมายโดยมิชอบและล้นเกิน ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท