ฝุ่น PM2.5 เข้าขั้นวิกฤต กรุงเทพฯ ติดท็อป 5 ‘เมืองอากาศแย่สุดในโลก’ กรมควบคุมมลพิษเผยฝุ่นจิ๋วอยู่ยาวไปถึงวันที่ 7 กพ. หมอศิริราช เสนอ ‘ปิดเรียน-WFH’ ได้แล้ว
2 ก.พ. 66 สำนักข่าวทูเดย์รายงานตรงถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ เข้าขั้นวิกฤต ระบุข้อมูลจากเว็บไซต์ IQAir เผยรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลกพบ กทม.ติดอันดับ 5 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของโลก
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 62 - 139 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3)
ระบุค่าฝุ่นจิ๋ว PM2.5 เกินมาตรฐานที่บริเวณ:
- แขวงบางนา เขตบางนา จ.กรุงเทพฯ
- ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี
- ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
- ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
- ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
- ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
- ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม
กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 3 - 9 ก.พ. 66
วันที่ 3-4 ก.พ. 66 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และใต้ (พื้นที่ท้ายลม)
พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานช่วง 6-8 ก.พ. 66 แต่ควรเฝ้าระวังบริเวณภาคเหนือตอนบนและล่าง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. 66
ก.ควบคุมมลพิษ ยอมรับฝุ่นจิ๋วอยู่ยาวถึงวันที่ 7 กพ.
สำนักข่าวพีพีทีวีรายงานว่า ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เปิดเผย ถึง "การยกระดับมาตรการเพื่อลดแหล่งกำเนิด PM2.5 และป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย" ระบุว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีจุดความร้อน 1,200 จุด เป็นส่วนสำคัญทำให้ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ซึ่งในกรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม มีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยสาเหตุสำคัญมาจาก สภาพอากาศปิดในฤดูหนาว รวมถึงแหล่งกำเนิดของฝุ่น ทั้งการจราจร รถดีเซลเก่า และการเผาพื้นที่เกษตรที่มากขึ้น ทำให้ฝุ่นเกินค่ามาตรฐานขึ้นมา
ซึ่งคาดการ์ณว่าสถานการณ์ฝุ่นจะคงอยู่ไปกระทั่งวันที่ 5 กุมภาพันธ์ จะกลับไปเป็นสีเหลือง
จากนั้นวันที่ 7 ก.พ. จะค่อยๆ กลับไปสู่ระดับสีเขียว โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคเหนือ ด้วยสภาพอากาศปิด
ล่าสุด วันนี้จึงมีการใช้มาตรการระดับ 3 คือ ขอความร่วมมือเวิร์คฟอร์มโฮมในระดับพื้นที่นั้นๆ รวมถึงให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย ดูแลตัวเอง แต่ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการในวงกว้าง หัวใจสำคัญคือการบริหารจัดการเชื้อเพลิง การมีข้อห้ามการไม่ให้เผาในบางช่วงเวลา ส่งผลให้เกษตรกรเร่งเผาพร้อมๆ กัน ยิ่งเกิดจุดความร้อน จนสร้างความเดือดร้อนเหมือนปัจจุบัน จึงต้องปรับแผนบริหารการเผาไม่ให้เกิดขึ้นพร้อมกัน เชื่อว่าหากควบคุมการเผาได้จะไม่ต้องยกระดับมาตรการไปถึงระดับ 4
พร้อมให้คำแนะนำว่า ประชาชน นักท่องเที่ยว ต้องระมัดระวังเรื่องค่าฝุ่น ขอให้เช็คค่าฝุ่นในแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ และสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง
หมอศิริราช เสนอ ‘ปิดเรียน-WFH’ ได้แล้ว
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัมหิดล โพสต์เฟซบุ๊ก เตือนภัยวิกฤตฝุ่น PM2.5 สำหรับคนกรุงเทพสรุปใจความได้ว่า ฝุ่น PM2.5 เป็นอันตรายต่อประชาชนทุกคน นอกจากแค่ให้ประชาชนปฏิบัติตัวแล้ว หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบทั้งหลาย ต้องบอกด้วยว่าตัวเองพยายามทำการแก้ไขเชิงระบบและมาตรการประทังปัญหาอะไรอยู่บ้าง มีปัญหาและอุปสรรคอะไรที่ขัดขวางอยู่ และต้องการการบูรณการร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนอย่างไร โดยนพ.นิธิพัฒน์ เสนอว่าควรประกาศปิดสถานศึกษาและให้เรียนออนไลน์ได้แล้ว หน่วยงานรัฐ work from home ให้มากที่สุด หน่วยงานเอกชนขอความร่วมมือ ห้ามใช้ยานพาหนะส่วนตัวในบางพื้นที่ ในบางช่วงเวลา ห้ามจอดรถโดยไม่ดับเครื่องยนต์ ระงับการก่อสร้างชั่วคราวในทุกพื้นที่ ห้ามการเผา ปิ้ง ย่าง หรือการทำให้เกิดควันทุกชนิด ในที่โล่งแจ้ง