Skip to main content
sharethis

'พระพยอม' ขอบิณฑบาตชีวิต 'แบม-ตะวัน' แนะเลิกอดอาหาร ถอยเพื่อก้าวต่อไป ขอบิณฑบาตไปทางผู้ใหญ่ด้วยให้ช่วยถนอมชีวิตเด็กๆ อย่าปล่อยเขาไปตามยถากรรม 'ราชทัณฑ์' แจงระเบียบการเยี่ยมเฉพาะวันเวลาราชการตามปกติ ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกรายโดยเท่าเทียมกัน

4 ก.พ. 2566 เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่าจากกรณีที่ 2 นักกิจกรรมหญิง คือ น.ส.ทานตะวัน หรือ ตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 21 ปี และ น.ส.อรวรรณ หรือ แบม ภู่พงษ์ อายุ 23 ปี ขอยื่นถอนประกันตัวเองเพื่อกลับเข้าเรือนจำ และแสดงเจตจำนงค์ด้วยการต่อสู้แบบอดอาหาร อดน้ำ พร้อมกับไม่ขอรับการรักษา เพื่อประท้วงเรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังในคดีทางการเมืองนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับทางพระราชธรรมนิเทศน์ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แสดงความคิดเห็นว่า ” ที่ผ่านมาอาตมาได้เคยบิณฑบาตขอชีวิตใครไปก็เยอะ ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลย้งปะปนกันไปเพราะอาจจะจี้ไปไม่ตรงจุด แต่เมื่อไม่นานมานี้อาตมาได้พบกับเพนกวินที่วัด ทำให้อาตมาเห็นสภาพร่างกายเขาดูทรุดโทรมไปเยอะ เหมือนกับว่าสารอาหารไม่ได้เข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกายเลย

แม้ว่าเขาจะใช้เวลารักษาตัวมาเกือบปีก็ตาม ทำให้อาตมาคิดได้ว่าระหว่างอุดมการณ์กับชีวิตที่น้อง 2 คนกำลังทำอยู่ ควรจะหาวิธีการต่อสู้ใหม่เหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้าเคยทดลองมาแล้ว ว่าการอดอาหารไม่ได้ช่วยให้บรรลุ ท่านจึงเปลี่ยนความคิดกลับมาเสวยอาหารตามเดิมเพื่อให้ร่างกายมีเรี่ยวแรงจากนั้นก็ตั้งใจเดินหน้าใหม่จนประสบความสำเร็จพบอริยสัจ 4

อาตมาจึงคิดว่าถ้าน้องทั้ง 2 คน ยอมถอยออกมาเสียหน่อยเพื่อที่จะก้าวต่อไปใหม่ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้เห็นหน้าพ่อแม่ ครอบครัวและเพื่อนต่อ แต่ถ้าจะเอาแต่เดินหน้าต่อโดยไม่ยอมถอยเลยแต่ร่างกายไม่เอาด้วย แม้ว่าใจกับอุดมคติจะเดินต่อ มันก็กลายเป็นว่า อุดมคติกัดกินชีวิต กัดกินร่างกายให้หมดสภาพลง

พระพยอม กล่าวอีกว่า เรื่องนี้อาตมาต้องขอบิณฑบาตไปทางผู้ใหญ่ด้วยว่า ช่วยถนอมชีวิตของเด็กๆที่มีความคิดโลดแล่นด้วย อย่าปล่อยเขาไปตามยถากรรม ช่วยประคับประคองผ่อนหนักเบาให้กับเขา ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคถณธรรม 4 ประการ คือมีเมตา กรุณา มุทิตตา และข้ออุเบกขาข้อให้เป็นข้อสุดท้ายสุดที่ผู้ใหญ่ควรจะมี ส่วนทางน้อง 2 คน อาตมาอยากให้ฉุกคิดว่าระหว่าง อุดมคติกับชีวิต ควรเลือกอะไรไว้ก่อน

อาตมาขอให้น้องทั้ง 2 คนปลอดภัย เพราะอย่าลืมว่าอาหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์แม้แต่พระพุทธเจ้าท่านก็ตรงตรัสไว้ ชีวิตประกอบได้ธาตุทั้ง 4 ธาตุ ซึ่งอาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญของธาตุทั้ง 4 ดังนั้นถ้าหากน้องทั้ง 2 คน อยากอยู่เพื่อดูความสำเร็จในวันข้างก็ไม่ควรเอาชีวิตมาทุ่มกับเหตุการณ์ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเพราะมันยังมีหนทางอื่นๆให้ต่อสู้ การทรมานร่างกายตนเองแบบนี้ เป็นการทรมานวิถีชีวิต ถ้าถึงแก่ชีวิตก็เป็นบาปในรูปแบบหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจใช้อาวุธทิ่ม แทง หรือฟันร่างกายตนเอง แต่ก็ทำให้สิ้นชีวิตลงด้วยวิถีของตัวเอง ถือเป็นบาปเช่นกัน และนอกจากนี้เหตุการณ์อาจลุกลามกลายเป็นน้ำผึ้งเพียงหยดเดียวที่ทำให้ประเทศชาติ ลุกเป็นไฟขึ้นมาอีกครั้ง

'ราชทัณฑ์' แจงระเบียบการเยี่ยมเฉพาะวันเวลาราชการตามปกติ ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกรายโดยเท่าเทียมกัน

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่านางสาวจุฑารัตน์ จินตกานนท์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่มีประเด็นข่าวบิดเบือนว่า นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ห้ามไม่ให้เยี่ยมแบมและตะวัน ทั้งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอนุญาตแล้ว นั้น

กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนชี้แจงว่า ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการเยี่ยม การติดต่อ ของบุคคลภายนอกกับผู้ต้องขัง และการเข้าดูกิจการหรือติดต่อการงานกับเรือนจำ พ.ศ. 2561 กำหนดไว้อย่างชัดเจนในเรื่องของการเยี่ยม หมวด 4 ข้อ 24 ระบุว่า “…ให้มีการเยี่ยมผู้ต้องขังป่วยในระหว่างวันเวลาราชการตามปกติ โดยให้จัดเยี่ยมในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือ สถานพยาบาลของเรือนจำหรือสถานที่อื่นใด อันสมควรแต่ต้องเป็นสถานที่ ที่ญาติและผู้ต้องขังได้สนทนากันอย่างใกล้ชิดและเยี่ยมได้ ครั้งละไม่เกิน 30 นาที..”

ระเบียบปฏิบัติดังกล่าวได้ยึดถือในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกรายโดยเท่าเทียมกัน ในวันศุกร์ที่  3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บุคคลที่มีรายชื่อตามที่แบมและตะวัน ได้แจ้งความประสงค์ให้เข้าเยี่ยมไว้  ทั้งบิดามารดา ทนายความ และเพื่อนที่มีรายชื่อก็ได้เข้าเยี่ยมตามปกติ ดังนั้นตลอดระยะเวลาของการเข้ามาอยู่ในความดูแลของทัณฑสถานหญิงกลาง ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และหลังจากส่งตัวไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2566 เป็นต้นมา ทางทนายความ ญาติหรือบุคคลที่มีรายชื่อให้เยี่ยมของทั้งสองราย ไม่เคยได้เข้าเยี่ยมในวันหยุด จึงเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปอยู่แล้วในเรื่องระเบียบดังกล่าว

ดังนั้น จึงขอสร้างความเข้าใจต่อสังคมว่า กรมราชทัณฑ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เรือนจำและทัณฑสถานปฏิบัติหน้าที่กับบุคคลที่อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ทุกคน โดยยึดถือกฎ ระเบียบ และมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรือนจำ (SOPs) อย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกันในทุกเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ตามสิทธิที่ผู้ต้องขังทุกคนได้รับอย่างเท่าเทียมกัน และไม่มีการให้อภิสิทธิ์กับใครเป็นพิเศษ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวบิดเบือน หรือ ข่าวปลอมที่อาจสร้างกระแสเพื่อสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม

‘ลุงศักดิ์’ ลั่น มันเกินไป อะไรหนักหนาไม่ให้ประกัน ไม่แฟร์กับคนเห็นต่าง – ทีดาราได้อภิสิทธิ์

มติชนออนไลน์ รายงานว่าสืบเนื่องกรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ผู้ต้องหาคดี ม.112 ซึ่งอยู่ระหว่างการอดอาหารและน้ำ เข้าสู่วันที่ 17 โดยเริ่มมีอาการวิกฤต แพทย์จึงสอดเข็มคามือเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นนั้น

4 ก.พ. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำกิจกรรม “ยืนหยุดขัง 1 ชั่วโมง 12 นาที” โดยกลุ่มทะลุแก๊ซ ทะลุวัง และมวลชนอิสระ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนข้อเรียกร้องของตะวันและแบม และเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้เพื่อนในเรือนจำ

โดยเวลา 17.00 น. ที่เกาะพญาไท มีการติดตั้งป้ายผ้า ขนาดใหญ่ พร้อมความว่า “ปล่อยตะวัน-แบม ไทยเฉยเราตะตายกันหมด ปฏิรูปไม่ใช่ล้มล้าง ปล่อยตะวัน เก็ท ใบปอ สิทธิโชค และนักโทษการเมือง” โดยมีนักกิจกรรมกลุ่มทะลุแก๊ซ ร่วมถือป้าย “ปล่อยเพื่อนกู” คืนสิทธิการประกันตัว”

มานี นักกิจกรรมอิสระ กล่าวปราศรัย โดยยืนยันว่าสิทธิการประกันตัว เป็นสิทธิที่พึงมี

“น้องๆ ทะลุแก๊ซ ถูกใส่กำไลอีเอ็ม ให้ประกันตัวอย่างมีเงื่อนไข คดีฆ่าคนกลับได้อภิสิทธิ์ ได้รับการประกันตัวไม่มีเงื่อนไข เด็กที่กล้าตั้งคำถาม เขาไม่ได้ฆ่าใครตาย ก็เอาไปคุมขัง ตะวัน-แบม อดข้าวน้ำครบ 16 วัน ยังอยู่ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ อีกคนคือสิทธิโชค ก็ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว” มานีกล่าว

มานีกล่าวต่อว่า นายเวหา แสนชนชนะศึก ได้ยื่นขอถอดกำไลอีเอ็ม ถึง 3-4 ครั้ง ก็ไม่ได้รับอนุญาต จนกระทั่งมีดาราคนหนึ่ง โดนคดีฉ้อโกง ยื่นข้อเสนอ กลับได้ปลด แต่ทำไมกับน้องเราเป็นคนละมาตรฐาน

จากนั้น นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ เสื้อแดง กล่าวว่า ตนเจ็บปวดกับที่โฆษกศาลพูด ซึ่งตะวันโดนคดีจากการทำโพล

“คุณไม่แฟร์ มีอคติกับพี่น้องประชานที่เห็นต่าง ต้องเปลี่ยนแปลง ด้วยความเคารพ คุณก็มีลูก มีตามีจมูก มีจิตใจ ประชาชนก็มีพ่อแม่ มีคนรักเหมือนกัน มองให้ลึกซึ้ง ประเทศนี้เป็นของคุณหรือของคนรุ่นใหม่ ไม่ช้าคุณก็ต้องไปหาเมรุเผาตัวเองเหมือนผม ผมบอกเลย ถ้า 2 คนเป็นอะไร คุณรับผิดชอบไหม ผู้มีอำนาจไม่ให้สิทธิประกันตัว ต้องการให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟใช่ไหม อะไรกันนักหนา ขนาดหมา 2- 3 วันไม่ได้ออกจากบ้านยังร้อง แต่นี่ขัง 24.ชั่วโมง ไม่ใช่สัตว์ นี่คือมนุษย์” นายวีรวิชญ์กล่าว

เมื่อเจ๊ ป็อกกี้ หนึ่งในนักเคลื่อนไหวการเมือง ถามว่า คนบางส่วนมองว่าที่เด็กถอนประกัน ทำตัวเอง จะชี้แจงอย่างไร ?

นายวีรวิชญ์กล่าวว่า พวกสลิ่ม อ้างว่าเด็กถอนประกัน แต่เด็กต้องการตบหน้ากฎหมายแบบนี้

“ผิดก็พิจารณา เหมาะสมจะดำเนินคดีหรือไม่ ไม่ใช่ใครก็ได้แจ้งความยัดคดี สำคัญที่สุด คือคุณธรรม จริยธรรม รู้จักคำว่าอายย้อนหลัง รู้จักคำว่าให้อภัย ถ้าเขาเป็นกองโจร จะไม่ว่าอะไรเลย มันเกินไป” นายวีรวิชญ์กล่าว

จากนั้น เวลา 17.23 น. เจ๊ป๊อกกี้ รายงานสถานการณ์คดีการเมือง ก่อนเชิญชวนร่วมยืน ไว้อาลัยกระบวนการยุติธรรม 1 ชั่วโมง 12 นาที ตั้งแต่เวลา 18.00-19.12 น. พร้อมกล่าวถึงอาการตะวันและแบมว่า ถ้าเพื่อนยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัว ทั้ง 2 ยืนยัน จะอดอาหารและน้ำประท้วงต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net