ใบตองแห้ง: โลกหมุนด้วย Extreme

การลุกฮือของคนรุ่นใหม่ “แผ่นดินไหวทางวัฒนธรรม” ม็อบราษฎรชูสามนิ้ว ทะลุฟ้า ทะลุแก๊ซ ทะลุวัง ฯลฯ มีแนวโน้มจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ แต่ทดแทนด้วยความหวัง “แลนด์สไลด์” ในการเลือกตั้งของ “ฝ่ายประชาธิปไตย”

ข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่ Extreme เกินไป? ไม่มีใครเอาด้วย พวกอยู่ในโลกเสมือน ไม่เดินออกไปดูชีวิตคนจริงๆ คน 90% ของประเทศไม่ได้สนใจ เค้าทำมาหากิน มีความสุขมีความทุกข์เรื่องอื่นๆ กัน จัดม็อบมากี่ครั้ง มีคนตายกี่คน ไม่มีประโยชน์เลย นอกจากทำให้ชาวบ้านรำคาญเบื่อหน่าย ฯลฯ

หรือไม่ก็ “นักสู้โรแมนติก” อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วดังใจ เอาเป้าหมายของการเมืองบนท้องถนนมาตัดสินการเมืองระบบเลือกตั้ง

พูดอีกก็ถูกอีก การเมืองในระบอบประชาธิปไตยต้องอาศัยการโน้มน้าวจูงใจคนส่วนใหญ่ ซึ่งสนใจทำมาหากินเป็นหลัก ไม่สนใจการเมืองมากนัก แต่เดือดร้อนหนักๆ ก็ด่ารัฐบาล ถ้ามีเลือกตั้งก็อยากเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ เลือกพรรคที่นโยบายดีกว่า

แต่อีกด้าน การเมืองระบอบประชาธิปไตยก็ต้องการพลเมืองแถวหน้า ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ยกระดับการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ทั้งความเสมอภาค เป็นธรรม คุณภาพชีวิต รัฐสวัสดิการ ไปจนกระทั่งปฏิรูปโครงสร้างปฏิรูปการเมือง

คุณจะรอให้คน 90% เห็นพ้องจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง ตายแล้วเกิดกี่ชาติก็ไม่ได้เปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงในโลกล้วนเริ่มจากคนแถวหน้า 10% หรือ “นักสู้โรแมนติก” 1% ด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น ระบอบประชาธิปไตยไทยในปัจจุบันก็อยู่ในสภาพพิกลพิการ เพราะถูกฆ่าตัดตอนจากรัฐประหาร 49 บั่นคอซ้ำด้วยรัฐประหาร 57 รัฐธรรมนูญ 60 งอกใหม่เป็นประชาธิปไตยปลอม เป็นระบอบถอยหลังไปกึ่งๆ ก่อน 2475

สี่ปีผ่านไป แก้รัฐธรรมนูญได้แค่ประเด็นเดียว ระบบเลือกตั้งบัตรสองใบ “หารร้อย” จะยกเลิกอำนาจ 250 ส.ว.โหวตนายกฯ ก็ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ แก้กี่ครั้งก็ไม่ผ่าน ม็อบกี่ครั้ง คน 90% ก็ไม่เอาด้วย เขาอยากทำมาหากิน คงต้องรอให้ครบวาระไปเอง

แล้วจะดีใจอะไรนักหนาแค่ชนะเลือกตั้ง แลนด์สไลด์แค่ไหนก็อยู่ใต้อำนาจเบ็ดเสร็จรัฐอนุรักษนิยม

แน่ละว่า คะแนนเสียงล้นหลามสามารถสร้างอำนาจต่อรอง แต่ต่อรองได้แค่ไหน ต่อรองเพื่ออะไร เพื่อเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาปากท้อง หรือเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ รื้อโครงสร้างกลับสู่ประชาธิปไตย รื้อได้แค่ไหน

อำนาจต่อรองจากฐานเสียงเพื่อปากท้องจึงไม่เพียงพอ อำนาจต่อรองจากแถวหน้าที่ต้องการรื้อโครงสร้างต่างหาก ที่จะมีผลกดดัน แม้ยอมรับว่าอาจไม่ได้ตามข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่ทุกอย่าง

รัฐประหารคือ Extreme คือการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเผด็จการอำมหิตหมุนประเทศถอยหลังเกือบ 180 องศา แล้วให้ฝ่ายประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง ผ่านการเมืองระบบตัวแทนกะด่างกะดำไปเจรจาต่อรอง ขอประนีประนอม Compromise

คุณจะต่อรองได้สักเท่าไหร่ ถ้าไม่มีพลัง Extreme กดดัน ถ้าพลังคนรุ่นใหม่ถูกทำลายไปก่อน

“แรงมาก็แรงไป” เป็นสัจธรรม แม้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก แต่เพราะความรุนแรงของระบอบอำนาจรัฐประหาร จึงเกิดการตอบโต้รุนแรงในเชิงเนื้อหาถึงรื้อโครงสร้าง ถ้าไม่มีแรงโต้อย่างนี้ คิดหรือว่าอีกฝ่ายจะประนีประนอม

การเลือกตั้งอย่างเดียวจึงไม่พอสำหรับฝ่ายประชาธิปไตย อย่ามัวดีใจและตั้งความหวังเพียงชนะเลือกตั้ง ใช่เลยต้องชนะ แต่ชัยชนะเป็นแค่พื้นฐานของการรื้ออำนาจกลับสู่ประชาธิปไตย ถ้าชนะแล้วทำอะไรไม่ได้เลยก็ไม่มีความหมาย สุดท้ายก็ซ้ำรอยโดนรัฐประหาร

รัฐประหารแล้วคนส่วนใหญ่คงไม่ชอบ แต่คน 90% หรือ 99% ก็ไม่ต่อต้าน เขาอยากทำมาหากิน เผลอๆ มีม็อบต้าน พวกภาคธุรกิจกูรูโคชชิ่งก็จะก่นด่าว่าทำบ้านเมืองไม่สงบ เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุน (แต่ตอนนี้พวกนี้ก็ลุ้นให้ตู่แพ้เลือกตั้ง ไม่ใช่อยากได้ประชาธิปไตยหรอก อยากให้หุ้นขึ้น)

พลังประชาธิปไตยในปัจจุบันจึงไม่สามารถมีแค่ “ประชาธิปไตยกินได้” ประชาธิปไตยปากท้อง ซึ่งทำให้ชนะเลือกตั้ง แต่พลังประชาธิปไตยอุดมการณ์ ซึ่งปะทุจากคนชั้นกลางในเมืองรุ่นใหม่ จะเป็นแรงผลักดันไปสู่การเปลี่ยนแปลง อย่าทำลายกันเองเสียก่อน

คนรุ่นใหม่อาจจะไม่มีประสบการณ์ “อาบน้ำร้อนมาก่อน” ต้องรู้จักประเมินสถานการณ์ ประเมินกระแสสังคม เข้าใจความต้องการคนวงกว้าง ฯลฯ ก็จริง แต่อย่าอาบน้ำร้อนมากไปจนสูญเสียพลังทะลุทะลวงของคนหนุ่มสาวแถวหน้า เหลือแต่ความคิดประนีประนอมลูบหน้าลูบหลัง

การเมืองระบบเลือกตั้งอย่างเดียวเปลี่ยนอะไรไม่ได้มาก ถ้าปราศจากการเมืองบนท้องถนนแบบแอ๊กติวิสต์ ทั้งสองด้านต้องไปคู่กันในการต่อสู้กับรัฐอนุรักษนิยม

ถ้าไม่มีพลัง Extreme ทะลุทะลวง ประชาธิปไตยเลือกตั้งที่สู้กันในอ่าง ที่รัฐอนุรักษนิยมจัดให้ ป้อมปราบตู่ Vs แลนด์สไลด์ ภูมิใจดอย ดูดกันไปดูดกันมา ชนะเลือกตั้งแล้วสลายขั้ว เจรจา 250 ส.ว.ตั้งรัฐบาล จัดสรรเก้าอี้ ชนะเลือกตั้งแล้วแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้เลย ปฏิรูปไม่ได้เลย

มันก็จะเป็นแค่ประชาธิปไตยดาดๆ ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่เหมาะสม

 

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7491729

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท