'ชัยวุฒิ' ขอบคุณ 'ชูวิทย์' เห็นด้วยให้ 'บุหรี่ไฟฟ้า' ถูกต้องตามกฎหมาย

'ชัยวุฒิ' ขอบคุณ 'ชูวิทย์' เห็นด้วยให้ 'บุหรี่ไฟฟ้า' ถูกต้องตามกฎหมาย เตรียมผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นนโยบายเลือกตั้ง ชี้อย่าดัดจริต บางเรื่องขัดอารมณ์ประชาชนและสังคมแต่ควรผลักดันให้ถูกกฎหมายเหมือนต่างประเทศ

5 ก.พ. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวขอบคุณนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกความเห็นสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตนเองก็คิดเช่นนั้น เนื่องจากอะไรที่ไม่เหมาะสม และขัดความรู้สึกประชาชน จำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไข เช่นเดียวกับปัญหาเรื่องเก็บส่วย เรื่องคอร์รัปชัน อย่างที่ควรแก้ไข อย่าไปดัดจริต หากปล่อยแล้วก็มีเรื่องของการเรียกรับผลประโยชน์กัน ดังนั้นจึงเห็นว่าเรื่องแบบนี้ต้องแก้ไขได้ โดยการแก้ไขกฎหมาย แก้ที่ระเบียบให้ถูกต้อง ซึ่งฝ่ายการเมืองจะผลักดันร่วมกันต่อไป และตนเองจะทำเป็นนโยบายเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ด้วย 

นายชัยวุฒิยังระบุว่า ตนเองได้พูดเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว จึงขอบคุณนายชูวิทย์ ที่จุดประเด็นนี้อีกครั้ง แล้วก็คิดว่าภาคประชาสังคม ดารา นักแสดง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายก็ต้องมาช่วยกันทำให้ประเทศดีขึ้น พร้อมระบุว่า สังคมไทยไม่ได้มีแค่เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ที่มันเป็นเรื่องดัดจริต เรื่องที่กฎหมายล้าสมัยและทําให้ประชาชนใช้ชีวิตลําบาก เป็นกฎหมายที่ขัดกับวิถีชีวิตประชาชน ประชาชนอยากจะใช้ชีวิตแบบนี้ คนกลุ่มอื่นที่ไม่เห็นด้วยก็ไปออกกฎหมาย ไปบังคับชีวิตเขา เรื่องแบบนี้ไม่ถูกต้อง ควรจะให้สิทธิเสรีภาพกับประชาชน แล้วให้ทุกคนได้มีโอกาสทําในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสม ไม่ใช่มาจํากัดสิทธิเสรีภาพ ดังนั้น ตนเองจะขับเคลื่อนต่อไป ซึ่งหลายประเทศมีการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศในยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ก็ให้สูบกันได้หมดแล้ว จึงเห็นว่าจะผลักดันกฎหมายเรื่องนี้ให้ถูกต้อง จะได้ไม่ต้องขัดอารมณ์ของประชาชน

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด รายงานเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2566 ว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง กล่าวถึงต้นต่อที่ทำให้เกิดช่องว่างการหากินของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีรีดไถเงินจากนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ กับดาราสาวชาวไต้หวัน ว่า เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าที่ยังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทยอยู่ แม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นผลพวงมาจากบุหรี่ไฟฟ้าก็จริง แต่พฤติการณ์ที่แท้จริงเกิดจากการรีดไถ มาจากการตั้งด่านของตำรวจ ที่มีการกำหนดราคา ด่านละ 1 แสนบาท อยากจะรู้เหมือนกันว่า ใครเป็นผู้ตั้งกฎนี้ขึ้นมา ซึ่งหากจะเปิดด่านได้ต้องด่านละ 1 แสนบาท พวกตำรวจก็ต้องไปรีดไถมาให้ได้ ได้ครบแล้วก็ไปแบ่งสรรปันส่วนกัน วัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง ส่งให้นาย นายก็รวม ๆ นำไปส่งให้ข้างบน เกิดระบบแบบนี้ซ้ำซาก ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้แก้ไข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ไม่แก้

“ควรจะเลือกเอาสักอย่าง จับแล้วมาแจก จับไม่จริง จับแล้วก็ปล่อย ตีกินกัน บริหารไม่ได้ก็เอาขึ้นมาบนโต๊ะเลย แล้วก็จัดการกำหนด ว่า บุหรี่ไฟฟ้าจะต้องมีสเปคแบบไหนอย่างไร น้ำยาที่ใช้จะต้องเป็นแบบไหน ต้องผ่าน อย.ไหม จะเสียภาษีให้กับรัฐเท่าไหรก็ว่าไป เมื่อปราบไม่ได้แล้ว เหมือนกับหวย ก็เอาขึ้นมาบนโต๊ะเลย แต่กลับไม่ทำ ปล่อยเป็นช่องว่างให้ตำรวจเอาไปรีดไถหากิน บุหรี่ไฟฟ้าคนสูบกันทั่วบ้านทั่วเมือง ใครๆก็สูบ แม้แต่ตำรวจ นักการเมืองเองก็ยังสูบ ร้านขายมีทุกที่ คิดจะจับกันไปตลอดปีตลอดชาติเลยหรืออย่างไร”

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ในความเป็นจริง สามารถทำได้ ติดสแตมป์เสียภาษีนำเข้าให้ถูกต้อง กลัวแต่ว่าจะไปเป็นการเสียผลประโยชน์ของนายทุน โรงงานผลิตยาสูบ แม้แต่กัญชาทุกวันนี้ยังเปิดขายกันได้อย่างเสรีได้

จึงขอย้ำเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อให้บุหรีไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย เพราะตอนนี้กลายเป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจนำไปหากิน

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดที่สุด คือ การให้สังคมมีสำนึก ว่าการให้เงิน เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ตนเองทำได้เพียงการเปิดโปงความจริงออกมา ยอมรับว่าเหนื่อยกับสังคมแบบนี้ อยากจะพักบ้าง แต่ก็ทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยทุกวันนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท