ตะวันฝากทนายบอกว่ายังไหวและจะรอจนกว่าศาลจะให้ประกันเพื่อน ถ้าไม่ไหวก็จะหลับไปเลย

“หนูยังอยู่ไหวถ้าไม่ไหวหนูจะหลับไปเลย แต่หนูจะรอว่าศาลจะให้ประกันเพื่อนหนูที่หนูเรียกร้องหรือเปล่า” ข้อความที่ "ตะวัน" ฝากทนายมาหลังแจ้งให้ทราบเรื่องการยื่นประกันตัวกลุ่มทะลุแก๊สวันนี้

6 ก.พ.2566 ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และอรวรรณ ภู่พงษ์ ให้สัมภาษณ์หลังจากเยี่ยมทั้งสองคนว่า จากการพูดคุยมีอาการวิงเวียนอยู่คาดว่าคงเป็นไปตามที่แพทย์แถลงว่าเกิดจากน้ำตาลตก เขาก็ขอนอนตอนที่ปรึกษาคดีกันแล้วก้พูดช้า แต่ยังปฏิเสธไม่รับอาหารและยาใดๆ ไม่รับน้ำเกลือและวิตามินแม้ว่าทางโรงพยาบาลจะเตรียมไว้ให้ตลอด ส่วนการใช้ชีวิตก็ปลี่ยนไปเดินลำบากและนอนไม่หลับ เจ็บหน้าอก แสบท้อง

ทนายความกล่าวอีกว่าจากที่เขาเห็นก็อาการทรุดลงไปมากกว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเยอะน่าจะเป้นช่วงเวลาที่เหลือไม่มากนัก

กฤษฎางค์กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการยื่นประกันตัวผู้ต้องขังที่เหลืออยู่ว่า เมื่อเช้านี้ได้เข้าไปพบกับผู้บริหารของศาลอาญาแล้วก็ขอความกรุณาผู้บริหารศาลว่าข้อเรียกร้องที่จะขอให้ประกันตัวกลุ่มทะลุแก๊สที่ถูกขังอยู่ 8 ราย และมีการยื่นประกันในวันนี้ และได้อธิบายข้อเรียกร้องของทั้งสองคนให้ผู้บริหารศาลว่าทั้งสองคนไม่ได้ทำเพื่อประกันตัวเองเพราะพวกเธอถอนประกันตัวเองมาแต่อยากให้ศาลพิจารณาการประกันเพื่อนของพวกเธอ บางคนติดมาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน คนที่ติดคุกอยู่สูงที่สุดคือ 300 กว่าวันแล้วโดยไม่ได้รับการประกันตัวเลย

“ข้อหามันดูน่ากลัว ผมอธิบายกับผู้บริหารศาลอาญาว่า จริงๆ มันไม่ใช่เรื่อวัตถุระเบิดประเภทร้ายแรงระเบิดสังหารแบบลูกเกลี้ยงหรือปืน M16 แต่มันเป็นกรณีกล่าวหาเขาว่ามีระเบิดปิงปองกับประทัดยักษ์แล้วมีสะเก็ดตะปู ซึ่งเขาก้ติดคุกมานานแล้วและเขาก้ปฏิเสธมาตลอดเวลาที่ได้ถูกจับกุมคุมขังมานานเกินกว่าคาดหมายแล้ว เพราะคดีของพวกเขาทุกคนยังไม่มีการพิจารณาคดีซึ่งเราคาดการณ์ไม่ได้ว่าเด็กพวกนั้นจะถูกพิจารณาคดีกี่เดือนกี่ปีแล้วจะต้องติดคุกอีกนานมั้ย อันนี้คือข้อเรียกร้องของน้อง” ทนายความกล่าวถึงคดีที่ทางกลุ่มทะลุแก๊สเองก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหามาตลอดเช่นเดียวกับคดีอื่นและคดีของกลุ่มนี้ก็โทษน้อยกว่าคดีที่ศาลเคยให้ประกันตัวไป เมื่อได้อธิบายให้ศาลฟังศาลก็รับไว้พิจารณา

กฤษฎางค์กล่าวถึงเรื่องที่คนกังวลและมีกระแสเรียกร้องให้ทั้งสองคนรับอาหารว่า ทั้งทนายความเองก็อยากให้ทั้งสองคนรับอาหารและเวลาที่มีอยู่ก็อาจจะไม่พอจนเกิดความสูญเสียถึงชีวิตหรือร่างกายบางส่วน แต่เขาได้เล่าถึงคำพูดของทานตะวันที่ฝากออกมาด้วย

“หนูยังอยู่ไหวถ้าไม่ไหวหนูจะหลับไปเลย แต่หนูจะรอว่าศาลจะให้ประกันเพื่อนหนูที่หนูเรียกร้องหรือเปล่า” กฤษฎางก์กล่าวว่าแม้เขาจะบอกว่าศาลอาจจะมีคำสั่งในวันนี้แต่ว่ามันเป็นเวลาหลายชั่วโมงและอาจจะสั่งตอนเย็นก็ได้ แต่ทานตะวันก็ยังยืนยันว่าจะรอจนกว่าศาลจะมีคำสั่งมาและหากเธอต้องสูญเสียก็ขอให้ทุกคนต่อสู้ให้ได้สิ่งที่เขาต้องการที่เขาเสนอ

ทนายความตอบคำถามนักข่าวเรื่องทั้งสองคนจะเปลี่ยนวิธีการต่อสู้หากศาลให้ประกันตัวทั้ง 8 คน เขาเองก็เข้าใจแบบนั้นและกล่าวแทนทั้งสองคนว่าหากปล่อยก็จะเลิกอดอาหาร แต่พูดแบบนี้ก็เหมือนการกดดันสถาบันตุลาการที่สูงส่ง ทั้งนี้วันนี้ก็ได้บอกกับผู้บริหารศาลว่าทั้งสองคนไม่ได้กดดัน แต่ทรมานร่างกายเพื่อเรียกร้องถึงสังคมและศาล อัยการ ตำรวจว่าสิ่งที่เรียกร้องเป็นเรื่องจริงจังไม่ใช่แค่การยื่นหนังสือแล้วจบแต่เอาชีวิตมาเป็นเดิมพัน ถ้าหากศาลให้ประกันทั้งสองคนก็ต้องทำตามที่รับปากกับสังคมไว้

“แต่ผมพูดแทนเขาว่ามันไม่ใช่ชัยชนะเหนือศาล หรือบีบบังคับศาลอยากให้ผู้พิพากษาเข้าใจตรงนี้ แต่อยากให้สังคมเปลี่ยนแปลงไปมีหลักเกณฑ์มีกติกาที่คุ้มครองสิทธิของทุกคนรวมทั้งลูกหลายผู้พิพากษา ลูกหลานของสื่อมวลชนว่าวันนึงจะไม่ถูกจับกุมคุมขังโดยไม่ได้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้งๆ ที่ ยังปฏิเสธ(ข้อกล่าวหา) อยู่ นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ เพราะข้อเรียกร้องอื่นๆ อย่างการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งกระทรวงยุติธรรมหรือ กส.เองก็รับว่าจะดำเนินการต่อ ซึ่งเขาก็เข้าใจไม่ใช่เด็กไม่มีเหตุผลว่าจะต้องให้เสร็จในวันนี้พรุ่งนี้ ผมเห็นว่าสังคมกำลังเปลี่ยนแปลงแล้ว”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท