Skip to main content
sharethis
  • ศาลสั่งปล่อยชั่วคราว “ตะวัน” เป็นระยะเวลา 1 เดือน  และ ‘แบม’ โดยไม่มีเงื่อนไข-กรอบเวลา หลัง ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เหตุสุขภาพทั้งคู่อยู่ในขั้นวิกฤต แต่ศาลยกคำร้องประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง 4 ราย สืบเสาะเพิ่ม 4 ราย และยื่นเอกสารเพิ่ม 1 ราย
  • ล่าสุด เพจทะลุวัง เผยแพร่คำชี้แจง 'แบม-ตะวัน' จะอดน้ำ-อาหารต่อ ยืนยันไม่รับรู้และไม่รับทราบใดๆ กับการที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ และศาลสั่งถอนหมายขัง และจะขอไม่ลงลายมือชื่อในเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยตัว

ให้ประกัน ‘ตะวัน’ 1 เดือน

เมื่อ 7 ก.พ. 2566 สื่อ The Reporters รายงานวันนี้ (7 ก.พ.) พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอปล่อยตัวชั่วคราวในคดี หมายเลข อ.1237/2565 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องทานตะวัน เป็นจำเลย โดยผู้อำนวยการ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ อ้างถึงสถานะอ้างถึงสถานะในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐในสถานพยาบาลที่ได้รับมอบตัวผู้ต้องควบคุมอำนาจศาลไว้ดูแลและได้รับมอบหมายจากกรมราชทัณฑ์ ขอปล่อยชั่วคราวจำเลย ซึ่งได้รายงานถึงสุขภาพของจำเลย ที่ได้อดข้าว และน้ำเพื่อเรียกร้องตามข้อเรียกร้อง ตั้งแต่เย็นวันที่ 18 ม.ค.2566 โดยระบุถึงอาการล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 6 ก.พ.2566 ด้วยว่า

อาการโดยรวมของผู้ถูกควบคุมตัวมีภาวะคีโตนในเลือดสูงมากขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานกรองของเสียของไตลดลงอย่างมาก อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งโรงพยาบาลเห็นว่าจำเลยอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะแก่การควบคุมตัวระหว่างพิจารณา และสุขภาพร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤติอย่างยิ่ง 

จึงขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนหมายขังและให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีโดยไม่มีเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในเรื่องการสันนิษฐานจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา และหลักการการควบคุมผู้ต้องหาหรือจำเลยให้ทำได้เท่าที่จำเป็นเพื่อมิให้มีการหลบหนีซึ่งจะทำให้การรักษาตัวและฟื้นฟูสภาพร่างกายของจำเลยทำได้สะดวกและลดเงื่อนไขที่อาจจะเป็นอันตรายแก่ชีวิต

ศาลอาญา พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าจำเลยอยู่ในความดูแลรักษาของโรงพยาบาลที่ผู้ร้องเป็นผู้ควบคุมดูแลอยู่ เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นนายแพทย์รายงานมาว่าจำเลยอยู่ในภาวะวิกฤติอาจเสียชีวิตได้ ประกอบกับการเข้าเยี่ยมจำเลยจากบุคคลใกล้ชิดในกรณีที่จำเลยยังอยู่ในความควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องเป็นไปตามระเบียบซึ่งอาจจะเป็นปัญหาในการเยียวยาจิตใจของจำเลยขณะอยู่ในภาวะวิกฤติ กรณีมีเหตุสมควรให้ออกหมายปล่อยจำเลยชั่วคราว มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 71 วรรคสาม เมื่อครบเวลาปล่อยชั่วคราวแล้วให้จำเลยมารายงานตัวต่อศาล โดยให้ออกหมายปล่อยจำเลยวันนี้ และแจ้งผู้ร้องทราบด้วย

‘แบม’ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีเงื่อนไข-กรอบเวลา

ข่าวแจกสื่อมวลชน จากศาลอาญากรุงเทพใต้ ระบุว่าวันนี้ (7 ก.พ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว อรวรรณ ภู่พงษ์ จำเลยคดีที่ 7 ในคดีหมายเลขดำ อ765/2565 ของศาลอาญากรุงเทพใต้  เมื่อ 7 ก.พ. 2566 เนื่องด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพเข้าสู่วิกฤต

(ขวา) 'ตะวัน' ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ (ซ้าย) 'แบม' อรวรรณ ภู่พงษ์

ผู้ร้องขอ หรือ ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ ขอปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 7 หรือแบม อยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมแก่การควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดี และสุขภาพร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤต หากควบคุมตัวต่อไปจำเลยอาจเสียชีวิตได้ จึงขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี เพื่อให้ทำการรักษาตัว และฟื้นฟูร่างกายได้ง่ายกว่า และทำให้สะดวกและทำให้ลดเงื่อนไขที่อาจจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตของจำเลยลงได้เมื่อจำเลยมิได้อยู่ในสถานะผู้ถูกควบคุมตัวภายใต้อำนาจศาลแล้วนั้น  

วันนี้ 7 ก.พ. 2566 ศาลอาญากรุงเทพใต้ จึงมีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ร้องเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ทำการรักษาจำเลยที่ 7 ผู้ร้องจึงมิใช่ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 106 แต่เมื่อความปรากฏตามคำร้องทำนองว่า จำเลยยืนยันปฏิเสธการรักษาและแจ้งความประสงค์ที่รับการรักษาจากโรงพยาบาลภายนอก โดยยังคงไม่รับประทานอาหาร อาการโดยรวมของจำเลยที่ 7 เลวร้ายลงมากจนอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากมีภาวะคีโตนในเลือดสูงมากขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานกรองของเสียของไตลดลงอย่างมาก จำเลยอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะแก่การควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดี และสุขภาพร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง หากยังคงควบคุมตัวจำเลยเอาไว้ มีโอกาสที่จำเลยอาจเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวได้ สอดคล้องกับรายงานการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และหนังสือของทัณฑสถานหญิงกลางที่อ้างถึงแถลงการณ์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จึงน่าเชื่อว่า อาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 7 อยู่ในขั้นวิกฤต

ศาลเห็นด้วยว่า หากขังจำเลยต่อไป อาจอันตรายถึงชีวิต การกำหนดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราวในการปล่อยชั่วคราวใด ๆ ในช่วงเวลานี้ จึงมิใช่สาระอันสำคัญและจำเป็นยิ่งไปกว่าการคุ้มครองดูแลชีวิตของจำเลย ทั้งจำเลยทึ่ 7 เจ็บป่วยถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิตโอกาสที่จำเลยจะก่อภัยอันตรายหรือสร้างความเสียหาย หลังจากปล่อยตัวชั่วคราวจึงเป็นไปได้ยากมาก อีกทั้ง จำเลยที่ 7 เคยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมาแล้วช่วงเวลาหนึ่ง และไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี เมื่อความปรากฏต่อศาลเช่นนี้ อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 71 วรรค 3 และมาตรา 108 วรรคสอง จึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 7 ชั่วคราวโดยไม่มีประกัน หมายแจ้งคำสั่งให้จำเลยที่ 7 

ศาลยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว 4 ผู้ต้องขังทางการเมือง-สืบเสาะเพิ่ม 4 ราย ยื่นเอกสาร 1 ราย

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (7 ก.พ.) บนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ แอ็กเคานต์ ‘TLHR2014’ ระบุว่า ศาลอาญายกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว สิทธิโชค เศรษฐเศวต ไรเดอร์ วัย 26 ปี ยกคำร้องไม่ให้ประกันตัวเลย ทัตพงศ์ เขียวขาว พรพจน์ แจ้งกระจ่าง และคทาธร 

ขณะที่ 4 ทะลุแก๊ส  ศาลสั่งสืบเสาะพินิจให้เจ้าหน้าที่คุมประพฤติรายงานสืบเสาะภายใน 15 วันนับจากนี้ ส่วนคงเพชร สมาชิกกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ศาลขอเอกสารประวัติการศึกษา และการประกอบอาชีพเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว

เหตุที่ไม่ให้ประกันตัว

ทัตพงศ์ เขียวขาว หนุ่มวัย 25 ปี ซึ่งถูกจับกุมคดีครอบครองวัตถุระเบิดช่วงการชุมนุมของทะลุแก๊ส บริเวณถนนราชปรารภ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2564 

ศาลไม่ให้ประกันตัวและปรึกษาอธิบดีแล้ว ข้อหาหนัก พยานชั้นสอบสวนมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พนักงานสอบสวนคัดค้านประกันตัว โดยพฤติการณ์ร้ายแรงเกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด เป็นอันตรายต่อสังคม ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตมาโดยตลอด เพราะเกรงว่าจะหลบหนี และก่อเหตุร้ายประการอื่นทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข

พรพจน์ แจ้งกระจ่าง หรือเพชร สมาชิกทะลุแก๊ส อายุ 50 ปี ถูกจับกุม เหตุถูกกล่าวหาจากคดีปาระเบิดหน้า กรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดี เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 

ศาลไม่ให้ประกันตัว และมีการปรึกษาอธิบดีแล้ว คดีมีข้อหาหนัก พฤติการณ์ร้านแรงเกี่ยวกับวัตถุระเบิดเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคม หลักประกันเพียงคนรู้จักกับจำเลย ซึ่งง่ายต่อการละทิ้ง ทั้งศาลเคยไม่ให้ประกันมาหลายครั้งแล้ว จึงเกรงว่าจะหลบหนี หรืออาจจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น

พรพจน์ แจ้งกระจ่าง อายุ 50 ปี ภาพถ่ายโดย iLaw

สิทธิโชค เศรษฐเศวต ไรเดอร์ อายุ 26 ปี จากคดีมาตรา 112 ถูกกล่าวหาว่าพยายามเผาพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10 และพระราชินี #ม็อบ18กรกฎา2564 ศาลไม่ให้ประกันตัว โดยศาลอุทธรณ์ระบุว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

คดีครอบครองวัตถุระเบิด เมื่อ 10 เม.ย. 2565 

คทาธร จำเลยที่ 1 สมาชิกกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนฯ ไม่ให้ประกันและปรึกษาอธิบดีแล้วคดีมีข้อหาหนักพฤติการณ์ร้ายแรงเกี่ยวกับวัตถุระเบิดเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคมหลักประกันเพียงคนรู้จักกับจำเลย ศาลเคยไม่ให้ประกันมาหลายครั้งแล้วจึงเกรงว่าจะหลบหนีหรือจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น

คงเพชร จำเลยที่ 2 สมาชิกกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนฯ สั่งสืบเสาะ พิเคราะห์แล้วสำหรับจำเลยที่สอง ให้เสนอหลักฐานประวัติการศึกษาและการประกอบอาชีพของจำเลยที่สอง เพื่อประกอบการพิจารณาสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้วจึงจะพิจารณาคำสั่งประกันต่อไป

4 สมาชิกทะลุแก๊ส คดีเกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้รถกระบะตำรวจ แยกดินแดง

วัชรพล ณัฐพล จตุพล และพลพล ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าควรให้สืบเสาะและพินิจจำเลยทั้งสี่ ก่อนมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานคุมประพฤติรายงายสืบเสาะและพินิจต่อศาลภายใน 15 วัน โดยให้สืบเสาะ ในประเด็นการศึกษา การประกอบอาชีพของจำเลยทั้งสี่ก่อนเกิดเหตุ และพฤติการณ์แห่งคดีโดยรวม

ทะลุวัง เผยแพร่แถลงการณ์ ‘แบม-ตะวัน’ อดอาหาร และน้ำ ต่อ-ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ รพ.ยื่นขอประกัน

หลังศาลมีคำสั่งประกันตัวทั้ง แบม และตะวัน เพจเฟซบุ๊ก ทะลุวัง เผยแพร่ภาพคำชี้แจง กรณี นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม)

คำชี้แจงตอนหนึ่งระบุว่า ทนายความได้นำความที่ทั้งแบม และตะวัน ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ขณะที่ ผู้ถูกคุมขังทางการเมืองจำนวน 8 ราย รวมถึงสิทธิโชค เศรษฐเศวต ไรเดอร์อายุ 26 ปี กลับไม่ได้รับการประกันตัว ทำให้ทั้งแบม และตะวัน เกิดความประหลาดใจโดยกล่าวว่า เธอทั้งสองคนไม่ได้ต้องการขออิสรภาพให้ตัวเธอเอง เพราะที่จริงแล้ว พวกเธอก็เป็นคนไปขอถอนประกันตัวเอง และเรียกร้องให้ศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหาทางการเมืองทุกคน

คำชี้แจงระบุต่อวา ทางแบม และตะวัน แจ้งกับทนายความว่า ขอให้ทนายความนำรายละเอียดคำสั่งศาลในเรื่องดังกล่าวทั้งหมด มาแจ้งให้พวกเธอทราบโดยด่วนภายในพรุ่งนี้ (8 ก.พ.) เพื่อให้เธอตัดสินใจว่าจะสู้ต่อไปอย่างไร 

อย่างไรก็ตาม ทางแบม และตะวัน ยืนยันว่าจะยังคงอดน้ำและอาหารต่อไป จนกว่าทนายความจะมาแจ้งรายละเอียดดังกล่าว 

นอกจากนั้นยืนยันว่า ทั้งสองคนไม่รับรู้และไม่รับทราบใดๆ กับการที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และศาลดำเนินการสั่งถอนหมายขังครั้งนี้แต่อย่างใด และเธอทั้งสองจะไม่รับรู้ ไม่ลงลายมือชื่อในเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยตัวเธอในครั้งนี้โดยเด็ดขาด 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net