Skip to main content
sharethis

ศาล ยกฟ้อง ‘สมณะดาวดิน’ คดีแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ชี้ จำเลยเพียงแต่งกายตามลัทธิที่ตนนับถือ ไม่ได้หลอกลวงใคร ปชช.ทั่วไปสามารถแยกได้ว่าต่างจากคณะสงฆ์ทั่วไป

8 ก.พ. 66 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้ (8 ก.พ.) ศาลแขวงพระนครเหนือพิพากษายกฟ้อง สมณะดาวดิน อดีตสมณะชาวสันติอโศก หรือ ดาวดิน ชาวหินฟ้า ในคดีแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ โดยศาลชี้จำเลยเพียงแต่งกายตามลัทธิที่ตนนับถือ ใช้ชีวิตโดยเปิดเผย และไม่ได้หลอกลวงผู้อื่น ประชาชนทั่วไปสามารถแยกแยะได้ว่าต่างจากคณะสงฆ์ทั่วไป

สมณะดาวดินเป็นใคร

สมณะดาวดิน หรือ ดาวดิน ชาวหินฟ้า เป็นอดีตสมณะชาวสันติอโศก ที่มักปรากฏตัวอยู่ในการชุมนุมของกลุ่มราษฎร 63 และทะลุฟ้า เหตุผลที่เขาออกจากสันติอโศกเพราะมีทัศนคติทางการเมืองที่ต่างกัน โดยสันติอโศกสนับสนุนรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะที่เขานั้นมองว่ารัฐบาลชุดนี้มีที่มาโดยมิชอบตามระบอบประชาธิปไตย จึงไม่สนับสนุน และเข้าร่วมกิจกรรมการเมืองกับกลุ่มราษฎร 63 

สู้คดีแต่งกายเลียนแบบพระ 3 คดีรวด

นอกจากคดีนี้ สมณะดาวดินยังถูกฟ้องในคดีแต่งกายเลียนแบบพระอีก 2 คดี โดยคดีหนึ่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครเหนือนี้เช่นกัน เนื่องจากหลังได้รับการประกันตัวในคดีแรก สมณะดาวดินได้กลับไปนั่งอดอาหารที่หน้าศาลอาญาอีกครั้ง ทำให้ตำรวจเข้าจับกุมไปแจ้งข้อหาเดิมอีกครั้ง โดยคดีนี้ได้มีการสืบพยานไปเสร็จสิ้นแล้วเช่นกันในช่วงวันที่ 27-28 ม.ค. 2565 และศาลเจ้าของสำนวน ได้รับคำร้องของฝ่ายจำเลย กรณีขอให้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว เพื่อรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน

ส่วนคดีที่ 3 เป็นคดีที่ สน.นางเลิ้ง หลังสมณะดาวดินเข้ารับทราบข้อหาคดีร่วมกิจกรรมกับหมู่บ้านทะลุฟ้า แต่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาแต่งกายเลียนแบบพระอีกคดีหนึ่ง คดีนี้อยู่ระหว่างการรอการสืบพยานต่อที่ศาลแขวงดุสิต ในวันที่ 13-14 มิ.ย. นี้

การต่อสู้ในชุดคดีเหล่านี้ จึงมีประเด็นที่น่าสนใจนอกจากเพื่อชี้ให้เห็นว่าการดำรงตนในสมณะเพศ ทั้งการแต่งกายและการปฏิบัติของสมณะดาวดินนั้นสามารถกระทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายแล้ว นั่นคือ การยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 ที่เป็นข้อกล่าวหาในคดีนี้ เป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 หรือไม่ ซึ่งต้องติดตามคำวินิจฉัยในทั้งสองเรื่องต่อไป

ทั้งนี้ ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 กำหนดโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข้อต่อสู้หลักของฝ่ายจำเลย

จากข้อมูลของศูนย์ทนายฯ ระบุว่า ข้อต่อสู้หลักของฝ่ายจำเลยคือ สมณะดาวดินไม่เคยแสดงตัวเป็นภิกษุโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อเช่นนั้น โดยมีความแตกต่างในการแต่งกายและวัตรปฏิบัติของสมณะหรือนักบวชในสันติอโศก กับพระภิกษุตามแบบมหาเถรสมาคมที่เห็นได้ ทั้งสมณะดาวดินไม่ได้มีการใช้เครื่องหมายของมหาเถระ และไม่ได้มีการแต่งกายเป็นสมณะเพื่อไปเรียกผลประโยชน์ เรี่ยไร หรือประกอบพิธีให้บุคคลใด การดำรงสมณะเพศดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของเสรีภาพในการถือศาสนาตามรัฐธรรมนูญ ทั้งสมณะดาวดินบวชเป็นสมณะมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยหลบซ่อนหรือถูกดำเนินคดี จนมาอดอาหารร่วมเรียกร้องสิทธิประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมืองจึงถูกจับกุม

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net