Skip to main content
sharethis
  • ศาลฎีกาให้ประกัน “สมบัติ ทองย้อย” ในคดี ม.112 แต่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันคดีหมิ่นประยุทธ์ เกรงว่าจะหลบหนี ทนายยื่นคำร้องอีกรอบ รอผล 2-3 วัน ทำให้อดีตการ์ดเสื้อแดงต้องอยู่ในเรือนจำต่อ ปัจจุบัน ถูกจำคุกร่วม 287 วันแล้ว 
  • ทัตพงศ์ เขียวขาว หรือแน็ก ได้รับการปล่อยตัวแล้ว เนื่องจากครบกำหนดฝากขัง และอัยการไม่ยื่นฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ แน็กถูกคุมขังตั้งแต่ 21 พ.ย. 2564 จนถึงวันนี้ (8 ก.พ.) รวม 84 วัน 
  • สิทธิโชค เศรษฐเศวต ไรเดอร์อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังจากคดีมาตรา 112 ประกาศยกระดับการประท้วงเป็น อดอาหาร อดน้ำ และอดนอน เพื่อประท้วงกระบวนการยุติธรรม

 

หลังจากเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ทนายความเข้ายื่นขอประกันตัว “สมบัติ ทองย้อย” อดีตการ์ดเสื้อแดง อายุ 52 ปี ใน 2 คดี ได้แก่ คดีที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ม. 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากกรณีโพสต์ข้อความ "กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจนะ" และคดีหมิ่นประยุทธ์ ซึ่งถูกศาลพิพากษาคดีในระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ โดยตัดสินให้จำคุก 1 ปี 1 เดือน (ลดโทษเหลือจำคุก 8 เดือน 20 วัน) จากการโพสต์ข้อความวิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ สมบัติถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่ 28 เม.ย. 2565 แล้วในคดีมาตรา 112

สมบัติ ทองย้อย อายุ 52 ปี

8 ก.พ. 2566 เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (8 ก.พ.) ศาลฎีกาให้ประกันตัวสมบัติ ในคดีมาตรา 112 ระบุไม่มีพฤติการณ์หลบหนี  แต่ให้ติดกำไล EM ตีหลักทรัพย์ประกัน 3 แสนบาท

สำหรับคดี ม.112 หลังจากเมื่อ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวสมบัติ โดยระบุคำสั่งไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ทนายได้ยื่นคำร้องฎีกาคำสั่งดังกล่าวต่อศาลฎีกา โดยยืนยันว่าจำเลยในคดีนี้ไม่เคยถูกยื่นคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัวมาก่อน และได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดให้เป็นอย่างดีตลอดที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

นอกจากนี้ ทนายความเปรียบเทียบคดีลักษณะเดียวกันก่อนหน้านี้ เช่น คดีมาตรา 112 ของศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำพิพากษา 'ภัคพิญญา' ข้อกล่าวหาที่คล้ายกัน คือลงโทษจำคุก 9 ปี อีกกรณีคือศา่ลจังหวัดเชียงรายมีคำพิพากษาคดีของ 'บาส' มงคล ถิระโคตร สั่งลงโทษจำคุก 28 ปี โดยทั้งสองคดีดังกล่าว ศาลก็ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์ทั้งที่มีโทษสูงกว่าคดีของสมบัติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สมบัติเองยังประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อ และคดีของจำเลยก็มีน้ำหนักเพียงพอที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ตลอดทั้งในคดีนี้สมบัติ ถูกคุมขังมาเป็นระยะเวลานานกว่า 9 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นผลเสีย ทำให้จำเลยในฐานะเสาหลักของครอบครัวไม่สามารถดูแลครอบครัวได้

ต่อมา ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ส่งสำนวนคดีต่อศาลฎีกา เพื่อพิจารณาการประกันตัว ก่อนในวันที่ 8 ก.พ. 2566 ศาลฎีกาจะมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวสมบัติ ระบุคำสั่ง “พิเคราะห์แล้วจำเลยเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ตีราคาประกัน 300,000 บาท ร่วมกับใช้อุปกรณ์กำไล EM และห้ามจำเลยกระทำหรือห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่จะกระทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในคดีนี้ ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น แจ้งสำนักงาน ตรวจคนเข้าเมืองก่อนปล่อยตัว ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและดำเนินต่อไป”

ไม่ให้ประกันคดีหมิ่น ‘ประยุทธ์’ เกรงหลบหนี

คดีที่สมบัติ ถูกกล่าวหาว่าโพสต์หมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จำนวน 2 โพสต์ ในช่วงเดือน มิ.ย. 2562 และ ส.ค. 2563 ซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2566 ลงโทษจำคุก 1 ปี 1 เดือน โดยลดโทษเหลือ 8 เดือน 20 วัน เพราะให้การเป็นประโยชน์ ทนายความก็ได้ยื่นประกันตัวในคดีนี้ด้วย และศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา

วันที่ 8 ก.พ. 2566 เวลา 12.29 น. ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งเห็นว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก นอกจากนี้จำเลยยังเป็นบุคคลเดียวกันกับคดีมาตรา 112 ของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์มาหลายครั้งแล้ว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง

ต่อมาในเวลา 13.00 น. ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่อีกครั้ง โดยอ้างเหตุการที่ศาลฎีกาอนุญาตให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112 แล้วเพิ่มเติม ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าต้องรอฟังผลของคำสั่งในอีก 2-3 วัน

น่าสังเกตว่าในคดีมาตรา 112 ที่มีความร้ายแรงกว่า ตลอดจนศาลฎีกาได้ระบุในคำสั่งว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่ในคดีหมิ่นประมาท พล.อ.ประยุทธ์ ศาลอุทธรณ์กลับระบุว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยมีพฤติการณ์จะหลบหนี

ผลดังกล่าว ทำให้สมบัติยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่ง โดยจนถึงวันนี้ (8 ก.พ.) เขาถูกคุมขังมาเป็นระยะเวลากว่า 287 วัน หรือจวนครบ 10 เดือนแล้ว โดยยังไม่มีคดีใดที่เป็นคำพิพากษาที่ถึงที่สุด

สิทธิโชค ยกระดับการประท้วง อดอาหาร-น้ำ และอดนอน

ในวันเดียวกันนี้ (8 ก.พ.) ศูนย์ทนายความฯ โพสต์เฟซบุ๊ก รายงานว่า ทนายความเดินทางไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเข้าเยี่ยม "สิทธิโชค เศรษฐเศวต" หลังทนายความแจ้งข่าวเรื่องที่ศาลยังคงไม่ให้ประกันตัวสิทธิโชครวมถึงผู้ต้องขังกลุ่มคดีทะลุแก๊สคนอื่นๆ สิทธิโชคจึงแจ้งให้ทราบว่า เขาจะยกระดับการประท้วงด้วยการกลับมา "อดอาหารและน้ำประท้วง" อีกครั้ง พร้อมทั้งจะฝืนตื่นประท้วง (ไม่นอนหลับ) อีกด้วย 

ทั้งนี้ สิทธิโชค เคยกล่าวว่า เหตุที่เขาเริ่มอดอาหาร อดน้ำประท้วง เนื่องจากต้องการประจานปัญหาของกระบวนการยุติธรรม และเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้นักโทษทางความคิด

ปชช.-ผู้ต้องขังทางการเมืองร่วมประท้วงอดอาหาร-น้ำ อดนอน ดัน 3 ข้อเรียกร้องทะลุวัง

สิทธิโชค เศรษฐเศวต อายุ 26 ปี ถ่ายโดย iLaw

สิทธิโชค อดอาหารประท้วงมาตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 2566 ซึ่งเป็นวันแรกของการถูกคุมขัง และต่อมาได้ยกระดับอดน้ำร่วมด้วยในวันที่ 26 ม.ค. 2566 จึงทำให้ร่างกายของเขาไม่สู้ดีเรื่อยมา โดยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้พาตัวสิทธิโชคนำส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนจะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติในวันถัดมา (1 ก.พ.)

ตั้งแต่สิทธิโชค อยู่ใต้การดูแลของ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เขาได้ยินยอมจิบน้ำ ดื่มนม รับวิตามินทั้งการกินและให้ทางหลอดเลือด เพื่อรักษาชีวิตไว้ตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ยังคงอดอาหารประท้วงต่อไปเรื่อยมา กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ก.พ. สิทธิโชคได้ตัดสินใจหยุดรับวิตามินอและยาไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ก่อนจะตัดสินใจยกระดับด้วยการกลับมาอดน้ำอีกครั้ง พร้อมทั้งจะอดนอนประท้วงร่วมด้วยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
.
ทั้งนี้ สิทธิโชคถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี 4 เดือน ในคดีข้อหามาตรา 112 จากการถูกกล่าวหานำของเหลวคล้ายว่าเป็นน้ำมันไปฉีดพ่นใส่กองเพลิงที่ลุกไหม้อยู่บริเวณฐานพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 และพระราชินี บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนินนอก แยกผ่านฟ้าลีลาศ ระหว่างการชุมนุม #ม็อบ18กรกฎา2564 และถูกคุมขังเรื่อยมาโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว 

'ทัตพงศ์' ได้รับการปล่อยตัว

สำนักข่าว วอยซ์ทีวี รายงานวันนี้ (8 ก.พ.) ระบุว่าเมื่อเวลา 20.00 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 'แน็ก' ทัตพงศ์ เขียวขาว วัย 25 ปี ได้รับการปล่อยตัวแล้ว เนื่องจากครบกำหนดฝากขัง และอัยการไม่ยื่นฟ้องคดีต่อศาล 

สำหรับแน็ก ถูกจับกุมตามหมายจับเหตุถูกกล่าวหาว่าครอบครองวัตถุระเบิด ระหว่างการชุมนุมการเมืองเมื่อ 21 พ.ย. 2564 และถูกฝากขังชั้นสอบสวนตั้งแต่ 17 พ.ย. 2565 จนถึงวันนี้ (8 ก.พ.) รวมระยะเวลา 84 วัน

ทัตพงศ์ ถูกจับกุมเนื่องจากเดินทางผ่านด่านเช็กประวัติก่อนเข้าเส้นทางรักษาความปลอดภัยของการประชุม APEC ประจำปี 2022 ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี 

ปัจจุบัน ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ถูกคุมขังระหว่างต่อสู้คดีอย่างน้อย 11 ราย ได้แก่ คทาธร, คงเพชร, พรพจน์ แจ้วกระจ่าง, สมบัติ ทองย้อย, ณัฐพล, พลพล, วัชรพล, จตุพล, สิทธิโชค เศรษฐเศวต, "เก็ท" โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง และ "ใบปอ" ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net