ส.ว. อุปกิต ส่งทนายยื่นฟ้อง “โรม” อภิปรายหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน จากกรณีอภิปราย ส.ว. ทรงเอ เอี่ยวขบวนการฟอกเงิน ค้ายาเสพติด ทุนจีนสีเทา พาดพิง ส.ว. อุปกิต ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 1 พ.ค. นี้

17 ก.พ. 2566 เวลา 15.00 น. ที่ศาลอาญารัชดา เรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของ ส.ว. อุปกิต ปาจรียางกูร ยื่นฟ้อง รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล ข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีการอภิปรายทั่วไป เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา ในหัวข้อ ‘เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา’ ที่โรมได้อภิปราย ส.ว. ทรงเอ เอี่ยวขบวนการฟอกเงิน ค้ายาเสพติด ทุนจีนสีเทา พาดพิง ส.ว. อุปกิต

ส.ว. อุปกิต ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 100 ล้านบาท โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 1 พ.ค. 2566 ก่อนหน้านี้ ส.ว. อุปกิต ได้ยื่นฟ้อง อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาทเช่นกัน หลังอัจฉริยะกล่าวหา ส.ว. อุปกิตเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด

ในอภิปรายทั่วไป เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2566 โรม อภิปรายกรณีการจับกุม ทุนมินลัต นักธุรกิจคนสนิทของ มินอ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ ส.ว. “อ.” ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. โดยกล่าวว่า เมื่อเดือนกันยายน 2565 ตำรวจกองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส. บช.น.) จับกุมขบวนการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องเครือข่ายค้ายาในประเทศเมียนมา หนึ่งในนั้นคือ 'ทุนมินลัต' ต่อมาเมื่อมีการเชื่อมโยงกับ ส.ว. “อ.” เจ้าตัวก็อ้างว่าไม่รู้เรื่องยาเสพติด ไม่ได้ยุ่งธุรกิจชายแดนนานแล้ว แต่ในความเป็นจริงยังใช้เลขาส่วนตัวไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่มีส่วนในการฟอกเงิน

ต่อมา 3 ตุลาคม 2565 ตำรวจ บก.สส. บช.น. จึงขอหมายจับส.ว. “อ.” ในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและการฟอกเงิน โทษจำคุกเกิน 3 ปี ศาลก็อนุมัติแล้ว แต่ปรากฏว่าในบ่ายวันเดียวกัน มีการเรียกให้ไปถอนหมายจับ

รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล

โรม กล่าวต่อว่า ทุนมินลัต ชายชาวเมียนมาที่ถูกจับนั้นมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจมาอย่างยาวนานกับชาวไทยคนหนึ่งชื่อ อุปกิต ปาจรียางกูร 1 ใน 250 ส.ว. และเป็นผู้ก่อตั้งและเคยถือหุ้นใหญ่ในบริษัท Allure Group และเคยร่วมกับทุนมินลัตก่อตั้ง Myanmar Allure เป็น 2 บริษัทที่พัวพันกับคดีฟอกเงินที่ได้กล่าวไปข้างต้น