'เศรษฐา' ไม่หวั่น 'ชูวิทย์' ระบุเป็นหน้าที่ของท่าน ยันรับไม้ต่อ ‘แพทองธาร’ ลงหาเสียงในทุกเวที

'เศรษฐา’ พร้อมลุยรับไม้ต่อ ‘แพทองธาร’ ลงหาเสียงในทุกเวที ยันรับฟังเสียงคนชุมชนคลองเตยไปนำไปแก้ปัญหาให้ เดินหน้านำเสนอนโยบายให้คนกรุงเทพฯ เลือก ‘เพื่อไทย’ แลนด์สไลด์  ไม่หวั่น ‘ชูวิทย์’ พาดพิงคู่เขย ‘แสนสิริ’ มั่นใจไม่กระทบแคนดิเดตนายกฯ ฝากสื่อช่วยดูมีตรงไหนไม่เหมาะสม ปัดเป็นศัตรูกับใคร ขอเป็นศัตรูกับความเหลื่อมล้ำ

8 มี.ค.2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยรายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (8 มี.ค.) เวลา 17.10 น. ที่ชุมชนคลองเตย เขตคลองเตย เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังรับฟังปัญหาจากผู้นำชุมชนเขตคลองเตยและลงพื้นที่พบปะประชาชนในชุมชน 70 ไร่ ล็อก1-3 เขตคลองเตย ว่า เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรก และขอบคุณทีมงานที่ทำให้ตนได้มาลงพื้นที่และรับฟังปัญหา พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้นำชุมชนที่มีความคับแค้นใจในท้องที่ ยอมรับว่าพื้นที่คลองเตยเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและหลายมิติ โดยจะนำปัญหาทั้งหมดเนี่ยไปหาคำตอบ และสัญญากับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวนี้ว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกครั้ง

เศรษฐา กล่าวว่า หาปัญหาของคนชุมชนคลองเตยมีทั้งเรื่องที่อยู่อาศัยปัญหายาเสพติด ปัญหาเรื่องสุขภาพ ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายสูงซึ่งเป็นปัญหาที่เยอะแยะไปหมด ซึ่งปัญหาใดที่สามารถทำได้ก็จะทำไปก่อน ปัญหาที่จำเป็นของคนคลองเตยได้สะท้อนกลับมานั้นเป็นปัญหาใหญ่ที่จะต้องมีการแก้ไขไปพร้อมกัน 

ต่อประเด็นคำถามที่กว่าพื้นที่เขตคลองเตยมีหลายพรรคการเมืองได้ส่งผู้สมัครลงแข่งกันซึ่งพรรคเพื่อไทยจะมี จุดเด่นเรื่องใดนั้น เศรษฐา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล (บิ๊กเบญ) ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตคลองเตย เขตวัฒนา พรรคเพื่อไทย อยู่ในพื้นที่มา 17 ปีและไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องประชาชน และยังเป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย นโยบายพรรคเป็นเรื่องหลัก โดยนโยบายคิดใหญ่ ทำเป็น เราเคยทำมาก่อน หวังว่า จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้กลับมาทำอีกครั้ง

ต่อคำถามที่ว่าหลังจากนี้จะลงพื้นที่หาเสียงกับพรรคเพื่อไทยในทุกจังหวัดทุกพื้นที่หรือไม่นั้น เศรษฐา ระบุว่า จะพยายามไปให้ครบทุกพื้นที่ ทุกเวทีทุกจังหวัด ในขั้นตอนแรกขอลงพื้นที่ไปฟังปัญหาเพื่อที่จะได้รวบรวมข้อมูลมาถกกันในพรรคหาทางแก้ไข นโยบายจะทยอยคลอดออกมาเรื่อยๆ

ต่อคำถามที่ว่าภาพลักษณ์ที่เป็นนักธุรกิจ จะขายภาพของตนเองอย่างไรให้เข้าถึงชาวบ้านนั้น เศรษฐา ระบุว่า ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องของการขายแต่เป็นเรื่องของการเก็บข้อมูล เป็นเรื่องการ เข้าใจชาวไร่ชาวนาชาวสวนมีความต้องการอะไร หน้าที่ของตนคือการไปขยายนโยบายของพรรค เอาตัวตนตัวเองลงไปเพื่อแสดงความจริงใจอยากแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนยกระดับความเป็นอยู่

“ในส่วนผมและพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าทำเต็มที่ เพราะช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ประสบปัญหาเยอะเหลือเกินทั้งเศรษฐกิจสังคมหลายๆมิติ” เศรษฐากล่าว

ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ยังระบุกรณี แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้กำลังใจในการลงพื้นที่ว่า ขอบคุณมากก็เป็นกำลังใจ ทีมงานก็ทำงานทำการบ้านที่ดี มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยเป็นพี่เลี้ยง เชื่อว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีและจะมีก้าวต่อๆไป 

ถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์กวาที่นั่ง ส.ส.ได้มากที่สุดในกรุงเทพฯ หรือไม่นั้น เศรษฐา ระบุว่า ตนคิดว่าต้องฝากไว้เป็นคำตอบที่ประชาชนต้องให้ หน้าที่ของตนคือนำเสนอนโยบายที่เรามั่นใจจะโดนใจประชาชน

ส่วนกรณีที่ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ให้กำลังใจด้วยนั้น เศรษฐา กล่าวยอมรับว่า รู้จักกับชูวิทย์ แต่ไม่ใช่แค่ชูวิทย์คนเดียว เพื่อนฝูงคนที่รู้จักก็ให้กำลังใจ และหวังว่าจะเป้นตัวของตัวเอง รักษามาตรฐานที่ตัวเองทำไว้ ก็ต้องคอยดูกันต่อ

เมื่อถามว่า กังวลกับบทบาทนักแฉของชูวิทย์ หรือไม่นั้น เศรษฐากล่าวว่า เป็นหน้าที่ของท่าน แต่ละคนก็มีหน้าที่ต่างกันไป ณ วันนี้ตนมีหน้าที่ในฐษนะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มาช่วยให้คำแนะนำ แพทองธาร และมาช่วยด้านนโยบาย ซึ่ง แพทองธาร ตั้งครรภ์มา 7 เดือนและจะเข้าเดือนที่ 8 แล้ว ตนคงลงพื้นที่มากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการกวดวิชาในระยะเวลาที่สั้นแต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

“ผมเป็นนักธุรกิจมาก่อน การเข้ามาสู่มิติใหม่ในช่วงชีวิตนี้ ถ้าผมจะบอกว่าไม่กลัวเลยคงเป็นการโกหก แต่ผมว่าถึงเวลาแล้ว หน้าที่ที่ผู้ชายคนหนึ่งสะสมประสบการณ์มา 30 กว่าปี อยากที่จะนำเสนอตัวเองในพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่มีนโยบายตรงใจประชาชนมาโดยตลอด ผมก็มั่นใจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ก็ขอโอกาสแล้วกัน” เศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า มั่นใจจะชี้แจงได้ทุกคำถามหรือไม่นั้น เศษฐา กล่าวว่า “ก็จะพยายาม”

เมื่อถามถึงกรณีที่ชูวิทย์ เปิดชื่อ “เบ้ง” (ทศพงศ์ จารุทวี) อยู่เบื้องหลังแสนสิรินั้น เศรษฐา กล่าวว่า “คุณเบ้งไม่ได้เกี่ยวกับแสนสิริครับ คุณทศพงศ์เป็นคู่เขยผมครับ รู้จักกันมานาน 30 กว่าปี ผมเป็นนักธุรกิจมานาน 30 กว่าปี รู้จักคนเยอะครับ” 

เมื่อถามว่าจะกระทบกับแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย หรือไม่นั้น เศรษฐา กล่าวว่า “มันขึ้นอยู่กับการวางตัวของผม ฝากดูช่วยความเป็นธรรมแล้วกัน ว่า ตรงไหนมีความไม่เหมาะสมหรือเปล่า”

ต่อคำถามที่ว่าหากไม่เป็นความจริงจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ ไม่ได้มาค้าความ ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ศัตรูกับผมคือความยากจน ความเหลื่อมล้ำ อย่างที่เคยบอกไปแล้ว วันนี้ก็จะทำให้ดีที่สุด ยืนยันจะพยายามทำงานให้หนัก รวบรวมให้เพียงพอ ตอบโจทย์ของประชาชน” 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท