Skip to main content
sharethis

จากกรณี ‘ลุงบุญชู’ ผีน้อยในฟาร์มหมูเกาหลีใต้เสียชีวิต กต.แจง 3 ข้อ ‘รมว.แรงงาน’ สั่งทูตเร่งประสานญาติบินจัดงานศพ

9 มี.ค. 66 เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของบุญชู ชายชาวไทยที่ทำงานในฟาร์มหมูเกาหลีใต้ ตามที่ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ดังนี้

1. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ประสานกับตำรวจเมืองโพชอน และรับทราบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2566 ภรรยาของผู้เสียชีวิตที่ไทยไม่สามารถติดต่อผู้เสียชีวิตได้ จึงแจ้งตำรวจเมืองโพชอนให้ช่วยค้นหาผู้เสียชีวิต ต่อมาเมื่อ 4 มี.ค. ตำรวจเมืองโพชอนพบร่างของผู้เสียชีวิตที่เมืองโพชอน จังหวัดคยองกี ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต

2. สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อภรรยาของผู้เสียชีวิตได้แล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างประสานกับภรรยาของผู้เสียชีวิต เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือตามความเหมาะสม และจะติดตามคดีของผู้ที่เสียชีวิตอย่างใกล้ชิดกับทางการเกาหลีใต้ต่อไป

3. กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้ที่เสียชีวิต และขอให้แรงงานไทยที่สนใจจะมาทำงานในเกาหลีใต้ปฏิบัติตามกฎและระเบียบการจ้างงานที่ถูกต้อง เพื่อจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายในกรณีที่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิต

‘สุชาติ’ สั่งทูตเร่งประสานภรรยา-ลูกบินจัดงานศพ

สยามรัฐรายงานความเคลื่อนไหวของสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายลักลอบทำงานเสียชีวิตในเล้าหมูที่เกาหลีใต้ว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบประสานความช่วยเหลือ ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ตนได้สั่งการให้ทูตแรงงานที่เกาหลีใต้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจากรายงานของนิธิพัฒน์ วัฒนสุวกุล อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ที่ได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ทราบว่า แรงงานที่เสียชีวิตรายนี้ชื่อบุญชู ประวะเสนัง อายุ 67 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนขอนแก่น ไม่ได้แจ้งการเดินทางผ่านกรมการจัดหางานและไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เสียชีวิตใกล้เคียงสถานที่ทำงานในฟาร์มหมู เขตเมืองโพชอน ของเกาหลีใต้ โดยพบศพบริเวณร่องน้ำระหว่างเขากับสวนด้านหลัง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตและอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรพลิกศพอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตามเบื้องต้น สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตอาจเสียชีวิตเพราะปัญหาสุขภาพหรือเพราะสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขอนามัยหรือเพราะอากาศ แต่เนื่องจากนายจ้าง ชื่อคิม เป็นผู้จ้างงานบุญชูแบบผิดกฎหมาย เมื่อพบว่าเสียชีวิตจึงไม่กล้าแจ้งความ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายจ้าง พร้อมตั้งข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ และกำลังสอบสวนลูกชายของนายจ้างว่ามีส่วนร่วมหรือไม่ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต้องรอผลชันสูตรศพประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ การเสียชีวิตของบุญชู สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ประสานงานในเรื่องคดีกับทางการสาธารณรัฐเกาหลีแล้ว และฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีอยู่ระหว่างประสานสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เพื่อตรวจสอบติดตามสิทธิประโยชน์ที่พึงมีของบุญชู อาทิ ค่าจ้างค้างจ่าย เป็นต้น

ด้านบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทย ได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตนำทีมหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ร่วมกับทางจังหวัดขอนแก่นไปเยี่ยมบ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ครอบครัว ซึ่งได้ไปพบกับมะลิ ภรรยาของผู้เสียชีวิตเป็นอาสาสมัครแรงงาน ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น จากการพูดคุย ทราบว่ามะลิ มีบุตรชาย 1 คน อายุ 34 ปี ขณะนี้บุตรชายเรียนจบและทำงานที่บริษัท อิตาเลียนไทย ที่จังหวัดสระบุรี และมะลิจะเดินทางพร้อมบุตรชายไปจัดการศพบุญชูที่เกาหลีด้วยตัวเองโดยจะเดินทางไปในวันศุกร์ที่ 10 มี.ค.นี้ โดยไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มอบเงินจำนวน 10,000 บาทให้แก่ภรรยาของผู้เสียชีวิตด้วย

ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดขอนแก่นยังได้แจ้งสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 มีเงินบำเหน็จชราภาพอยู่ประมาณ 1,700 บาท เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ทายาทตามกฎหมายต่อไป

เดลินิวส์รายงานคำพูดของปลัดกระทรวงแรงงานเพิ่มเติม กล่าวว่า ขอเตือนแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ ขอให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมายจะไม่ได้รับการดูแลตามสิทธิที่พึงมี หากเจ็บป่วยในต่างประเทศค่าใช้จ่ายจะสูงมาก และยังมีโอกาสถูกนายจ้างเอาเปรียบได้ ทั้งนี้ การไปทำงานต่างประเทศถูกกฎหมายมี 5 วิธี ได้แก่

1.กรมการจัดหางานจัดส่ง

2.บริษัทจัดหางานจัดส่ง

3.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ

4.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ

5.คนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง

นอกจากนี้ยังขอให้สมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการจัดหางาน หรือ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 กด 2

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net