Skip to main content
sharethis

บอร์ด สปสช.เห็นชอบสิทธิประโยชน์บัตรทอง 5 รายการ ขยายการตรวจสุขภาพช่องปาก การตรวจหาเชื้อ HIV ด้วยตนเอง ตรวจโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรงในทารกแรกเกิด ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ B และ C ในประชาชนที่เกิดก่อนปี'35 และจัดหาวัคซีนป้องกันมะเร็งปากในเด็ก นร.หญิง ป.5

 

17 มี.ค. 2566 ทีมสื่อ สปสช. รายงานวานนี้ (16 มี.ค.) ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2566 มีมติเพิ่มสิทธิประโยชน์ขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท จำนวน 4 รายการ และปรับแผนการจัดหายา เวชภัณฑ์ฯ ตามโครงการพิเศษปี 2566 โดยเพิ่มปริมาณการจัดหาวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก อีก 1 รายการ

(ซ้าย) อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ. และ (ขวา) นพ.จเด็ด ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.

รายการสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น 4 รายการ ประกอบด้วย 1.บริการตรวจสุขภาพช่องปาก และบริการขัดและทำความสะอาดฟัน สำหรับกลุ่มอายุ 25-59 ปี และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 2.บริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง (HIV Self test) 3.บริการตรวจคัดกรองโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรงในทารกแรกเกิดด้วยเครื่องเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Pulse oximeter) 4.บริการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี และซี ในประชาชนทั่วไปที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535

ขณะที่การปรับแผนการจัดหายา เวชภัณฑ์ฯ ตามโครงการพิเศษ ปี 2566 เป็นการดำเนินการในส่วนบริการวัคซีนเอชพีวีเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2562-2564 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจากปีก่อนหน้านี้ 

รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร กรรมการบอร์ด สปสช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข กล่าวว่า บริการตรวจสุขภาพช่องปากและบริการขัดและทำความสะอาดฟัน เป็นบริการพื้นฐานที่เดิมมีอยู่แล้ว ไม่ใช่บริการใหม่ แต่ไม่ครอบคลุมประชากรกลุ่มอายุ 25-59 ปี และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งจากข้อมูลปี 2566 ประชากรทั้ง 2 กลุ่มนี้ มี 47.26 ล้านคน ใน 6 เดือนนี้ตั้งเป้ากลุ่มเป้าหมายรับบริการที่ร้อยละ 10 หรือ 4.73 ล้านคน โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณสิทธิประโยชน์บริการสร้าเสริมสุขภาพและป้องกันโรค รูปแบบเหมาจ่ายกรณีทันตกรรมที่มีรองรับไว้เพียงพออยู่แล้ว

เช่นเดียวกับ บริการชุดตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง ที่แหล่งงบประมาณมีงบสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแบบเหมาจ่ายเอชไอวีรองรับไว้อยู่แล้ว โดยบริการนี้เป็นมาตรการเพิ่มเติมให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง เพื่อเข้าสู่ระบบบริการป้องกันและรักษาเร็วขึ้น ทั้งนี้หากพบผลตรวจเป็นบวก จะต้องตรวจยืนยันซ้ำอีกครั้ง เบื้องต้นได้ต่อรองราคาชุดตรวจที่ผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว ซึ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่คาดว่าจะได้รับการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจะมีเพิ่มขึ้น 238,900 ราย บวกกับกลุ่มเป้าหมายเดิม 660,200 ราย รวมเป็น 899,100 ราย  

รศ.พญ.ประสบศรี กล่าวต่อว่า สำหรับบริการตรวจคัดกรองโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรงในทารกแรกเกิดด้วยเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว มีกลุ่มเป้าหมาย 271,800 ราย แต่เนื่องจากปัจจุบันทารกแรกเกิดร้อยละ 50 ได้รับการตรวจด้วยเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วอยู่แล้ว ซึ่งมีกลุ่มที่ยังไม่ได้ตรวจ 135,900 ราย ขณะที่บริการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี ในประชาชนทั่วไปที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 จะเป็นการตรวจ 1 ครั้งตลอดชีวิต มีกลุ่มเป้าหมาย 20-30 ล้านคน แต่ในระยะ 6 เดือนนี้ ตั้งเป้าตรวจคัดกรองให้ได้ 1 ล้านคน โดยทั้ง 2 รายการนี้ดำเนินการโดยใช้งบประมาณจากเงินรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสมปี 2565 ในรายการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 

รศ.พญ.ประสบศรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในส่วนของการปรับแผนการจัดหายา เวชภัณฑ์ฯ ตามโครงการพิเศษ ปี 2566 จะเป็นส่วนของบริการวัคซีนเอชพีวีเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2562-2564 เนื่องจากปี 2562-2564 มีวัคซีนเอชพีวีไม่เพียงพอให้จัดซื้อ ทำให้มีนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ตกค้างยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 1.2 ล้านคน ทำให้มีส่วนที่ต้องจัดซื้อเพิ่มเติมอีก โดยใช้งบประมาณจากเงินรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสมปี 2565 รายการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 

"ภารกิจสำคัญของบอร์ด สปสช. คือการดูแลและคุ้มครองผู้มีสิทธิบัตรทอง ให้เข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น ซึ่งในวันนี้นอกจากได้ขยายการดูแลกลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังได้เพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ใหม่ เพิ่มการเข้าถึงบริการ ซึ่งภายหลังจากนี้ ทาง สปสช. จะได้เร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดการดูแลตามมติที่ บอร์ด สปสช. ได้อนุมัติครั้งนี้" รศ.พญ.ประสบศรี กล่าว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net