Skip to main content
sharethis

Patani NOTES รายงานมีการออกหมายเรียกนักกิจกรรมชุมชนกับ 4 เยาวชนบ้านดาฮง นราธิวาส ไปเป็น 'พยาน' โดยไม่แจ้งรายละเอียดอื่นใด คาดเกี่ยวข้องกรณีเจ้าตัวรายงานสดกลุ่มชาวบ้านขึ้นเขาติดตามกรณีวิสามัญฆาตกรรมเมื่อกลางเดือนมกราคม

21 มี.ค.2566 วานนี้ (20 มี.ค.) Patani NOTES รายงานว่า ไฟซู มามะ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมบ้านดาฮง นราธิวาสเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกตนเองรวมทั้งกลุ่มเยาวชนบ้านดาฮงอีก 4 คนเพื่อให้ไปเป็น "พยาน" โดยไม่แจ้งรายละเอียดอื่นใด โดยให้ไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจภูธรศรีสาคร นราธิวาสวันที่ 24 มี.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ไฟซูระบุว่าตนเข้าใจว่า การออกหมายหนนี้เป็นผลมาจากการที่ตนเองได้ไปไลฟ์หรือรายงานสดเหตุการณ์ที่กลุ่มชาวบ้านจากบ้านดาฮงได้พากันขึ้นสู่ภูเขาอันเป็นพื้นที่ที่มีการปะทะและวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มบีอาร์เอ็นเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา อันเป็นการไปเพื่อขอรับศพผู้เสียชีวิต

ไฟซู มามะซึ่งเป็นที่ปรึกษากลุ่มเยาวชนบ้านดาฮงเปิดเผยว่า ตนเองยังไม่เห็นหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ แต่วันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปหาตนที่บ้าน ขณะที่ตนไปทำงานอยู่ในตัวเมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่ได้พบกับครอบครัวและครอบครัวได้รับการบอกเล่าว่า เจ้าหน้าที่สงสัยว่าไฟซูมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเหตุการณ์ในวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา

ไฟซูระบุว่า ตนยังได้เห็นหมายเรียกที่ไปถึงมือเยาวชนคนที่ถูกเรียกในกรณีเดียวกัน ในทุกหมายปรากฎชื่อว่า "ไฟซู มามะและพวก" จึงตระหนักว่า ตนเองถูกหมายเรียกร่วมกับกลุ่มบุคคลอีก 4 คนดังกล่าวด้วย และถึงแม้ในหมายเรียกไม่ได้ระบุข้อกล่าวหา แต่ข้อความที่เจ้าหน้าที่แจ้งกับครอบครัวทำให้เป็นที่ชัดเจนสำหรับตนเองว่า เจ้าหน้าที่สงสัยว่าตนและคนอื่นๆมีส่วนในการทำไลฟ์รายงานเหตุการณ์ในวันนั้น และเจ้าหน้าที่น่าจะเห็นว่าการเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้รู้สึกสับสนอย่างมากเพราะขัดกับเจตนาของตนเอง

อนึ่ง การออกหมายเรียกผู้ที่ดำเนินการรายงานสดหรือถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กไลฟ์ในพื้นที่ชายแดนใต้นั้น เพิ่งมีกรณีสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานีตำรวจภูธรธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา ส่งหมายเรียก ผู้สื่อข่าวภาคสนามและบรรณาธิการข่าวภาคสนาม สำนักสื่อวาร์ตานี (Wartani) ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติอันไม่ชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่และขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่” จากการรายงานสถานการณ์สดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ เหตุการณ์วิสามัญฆาตกรรมสมาชิก BRN เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 ทั้งนี้ต่อมา 15 มี.ค. นักข่าวทั้งสองเดินทางมารับทราบตามหมายเรียกที่สถานีตำรวจภูธรธารโต พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และตามหมายเรียกในครั้งนี้มีประชาชนรวมกับนักข่าวที่โดนหมายเรียกในข้อหาเดียวกัน จำนวน 8 คน อย่างไรก็ตาม สำนักสื่อวาร์ตานี ยืนยันที่จะสู้ต่อไปเพื่อเป็นกระบอกเสียงของประชาชนเเละจะเคียงข้างประชาชนต่อไป 

ด้าน เพจศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า - เพจใหม่ ออกมาโพสต์โต้แย้งสำนักสื่อวาร์ตานี เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า การไลฟ์สดผ่านเพจดังกล่าว มีลักษณะปลุกระดมมวลชนจากภายนอกพื้นที่ให้เข้ามา และได้ทำการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดกระทบกระทั่งกับมวลชนที่ถูกปลุกระดมเข้ามา และพบว่าได้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเผยแพร่ข้อมูลที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง โดยเฉพาะการที่มีกลุ่มประชาชนออกมาตะโกนเรียกร้องเอกราชในระหว่างการแห่ศพของผู้เสียชีวิตด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net