ศาลตัดสิน 2 ผู้ชุมนุมม็อบ12กันยา64 'อานนท์' จำคุก 4 ปี 2 เดือน ครอบครองปืน-'ยิม' ถูกปรับเงิน

ศาลอาญาตัดสินลงโทษ 2 ผู้เข้าร่วมชุมนุมม็อบ12กันยา64 โดย 'อานนท์' อายุ 29 ปี ถูกจำคุก 4 ปี 2 เดือน ข้อหาครอบครองอาวุธปืน 'ยิม' วัย 18 ปี ถูกลงโทษปรับเงิน 3 พันบาท ล่าสุดอานนท์ รอฟังผลคำสั่งประกันตัวศาลอุทธรณ์

 

24 มี.ค. 2566 เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาในคดีของ อานนท์ แย้มสะอาด อายุ 29 ปี และ 'ยิม’ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี กรณีเข้าร่วมชุมนุม #ม็อบ12กันยา64 ของกลุ่มทะลุแก๊ส บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2564 

ในคดีนี้ อานนท์ และยิม ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 3 นาย จากบริเวณแยกตัดใหม่ ถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า โดยอานนท์ ถูกตรวจค้นตัวพบปืนพกสั้นรุ่นรีโวลเวอร์ (Revolver) ขนาด .38 มม. จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืน 11 นัด พร้อมกับหนังสะติ๊ก และลูกแก้ว ทั้งหมดได้ถูกตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และยึดโทรศัพท์ของทั้ง 2 คนไว้เป็นวัตถุพยาน โดยอานนท์ ได้เปิดเผยข้อมูลกับทนายความว่า ตนเองถูกชุดจับกุมเตะและกระทืบที่เท้าราว 2 ครั้ง แต่ไม่ได้ปรากฏบาดแผล ในขณะที่ยิม ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด  

ภายหลัง ทั้ง 2 คนได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน สำหรับอานนท์ ศาลให้วางเงินประกันเป็นจำนวน 60,000 บาท หากผิดสัญญาประกันให้ปรับ 300,000 บาท พร้อมติดกำไล EM ขณะที่ยิม ศาลให้วางเงินประกันจำนวน 35,000 บาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนใดๆ เพิ่มเติม

เมื่อ 3 ธ.ค. 2564 เอกนวินต์ ปานดำ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 จากสำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องต่ออานนท์ ในฐานะจำเลยที่ 1 และยิม ในฐานะจำเลยที่ 2 โดยทั้งสองถูกฟ้องข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, 216, 138 และ 140 

กล่าวหาว่าทั้งสองกับพวกที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 25 คน ได้ร่วมกันทำกิจกรรมที่บริเวณแยกใต้ทางด่วนดินแดง และถนนวิภาวดีรังสิต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งในขณะนั้นเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและการชุมนุม มีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย เป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และจำเลยที่ 2 กับพวก ได้ขัดขืน ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาควบคุมดูแลสถานการณ์ ซึ่งอัยการบรรยายฟ้องว่า ยิมกับพวกได้ทำการขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ด้วยประทัด และลูกแก้ว มีเจตนาทำร้ายถึงอันตรายสาหัส

ขณะที่จำเลยที่ 1 ยังถูกฟ้องในฐานความผิดว่ามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 จากกรณีพกพาอาวุธปืนและกระสุนปืนเข้าร่วมชุมนุมโดยไม่มีเหตุจำเป็น และไม่ได้รับในอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

ในคดีนี้ ศาลอาญาได้นัดสืบพยานไปเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 โดยอัยการนำพยานโจทก์เข้าสืบพยานจำนวน 7 ปาก แต่ทนายจำเลยไม่ติดใจสืบบางส่วน จึงเหลือการสืบพยานโจทก์เพียงแค่ 3 ปาก โดยฝั่งจำเลยประสงค์นำพยานจำเลยเข้าสืบ 2 ปาก 

ศาลได้อ่านคำพิพากษา โดยสรุปใจความสำคัญระบุว่า พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 1 เคยต้องคดีอาวุธปืนมาก่อน และมีพฤติการณ์ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จำเลยกระทำผิดซ้ำในเรื่องเดิม จึงให้ลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 4 ปี 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2 พยานจำเลยนำสืบได้ข้อเท็จจริงว่าเข้าร่วมชุมนุมและมั่วสุมกับพวกจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ให้จำคุก 1 เดือน 10 วัน ปรับ 3,000 บาท แต่ขณะกระทำผิด จำเลยที่ 2 มีอายุเพียง 18 ปี และให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงมีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษเหลือโทษปรับ 3,000 บาท ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้องทั้งหมด

ภายหลังคำพิพากษา อานนท์ ต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที โดยทนายได้ยื่นคำร้องขอประกัน ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาออกคำสั่ง จึงต่อรอฟังผลคำสั่งประกันตัวของอานนท์ ต่อไปอีก 2-3 วัน

ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดเหตุดังกล่าว ระหว่าง ส.ค.-ต.ค. 2564 มีการชุมนุมและแสดงออกเพื่อขับไล่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์โดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ทะลุแก๊ส” บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงในช่วงเย็นของเกือบทุกวัน ขณะที่มีรายงานการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน และมีรายงานการจับกุมผู้เข้าร่วมชุมนุมรายวัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท