Skip to main content
sharethis

รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เตือนอย่าใช้ประเด็น 'ทักษิณกลับไทย' โจมตีทางการเมือง ชี้การกลับไทยและเข้าสู่การพิจารณาคดีถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเป็นเรื่องที่ดีที่จะมาพิสูจน์ตนเอง 

25 มี.ค. 2566 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่าลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อต่างประเทศ เรื่องพร้อมที่จะกลับมารับโทษจำคุกในประเทศไทย หากเขาได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พ.ค. นี้จะออกมาเป็นอย่างไร ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขว้าง และถูกหยิบมาเป็นประเด็นทางการเมือง และเชื่อมโยงพรรคเพื่อไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลิณธิภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า การแสดงความคิดเห็นของ ดร.ทักษิณ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อยากกลับบ้านและกลับมาอยู่กับลูกหลาน ในช่วงปั้นปลายชีวิต เพื่อเข้าสู่กระบวนการกฎหมายของไทยอย่างถูกต้อง ที่ผ่านมาคดีต่างๆ ที่ดร.ทักษิณ ถูกดำเนินคดี ล้วนเกิดจากฝั่งตรงข้ามทางการเมือง จนทำให้เกิดคำถามว่า ความยุติธรรมที่มีไว้เพื่อกำจัดฝั่งตรงข้าม จะยังใช่ความยุติธรรมหรือไม่ วันนี้หาก ดร.ทักษิณ จะเดินทางกลับไทยและเข้าสู่การพิจารณาคดีถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเป็นเรื่องที่ดีที่จะมาพิสูจน์ตนเอง ดังนั้นจึงไม่ควรใช้เป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง โดยการเชื่อมโยงบุคคลอื่นคดีอื่นๆ

วันนี้พรรคเพื่อไทยมุ่งเน้น การนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย ให้ครอบคลุมทุกๆ มิติ เพราะประชาชนเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย ว่าสามารถทำได้จริง ประเทศไทยล้าหลังและถดถอยมาตลอด 8 ปี ดังนั้นการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์คือการเลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด แบบแลนด์สไลด์

“เหล่านักโหนทั้งหลาย ที่คิดใช้ประเด็น ท่านทักษิณ โจมตีพรรคเพื่อไทย ควรคิดเสียใหม่ เพราะที่ประชาชนชื่นชมและเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย คือนโยบายดีๆ ที่คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนไทยทุกคน” ลิณธิภรณ์ กล่าว

เสนอนโยบายดิจิทัลวอลเลตเป็นของตัวเอง ดึงเอสเอ็มอีระดมทุนตลาดหลักทรัพย์

มติชนออนไลน์ รายงานว่านายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเสนอการลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ซึ่งพรรคประกาศนโยบายดิจิทัลวอลเลตเป็นของตัวเอง ด้วยระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ ด้วยการให้ประชาชนอายุ 16 ปีทุกคน มีเงินดิจิทัลเป็นของตัวเอง และใช้ให้เงินให้ใน 6 เดือน ภายในรัศมี 4 กิโลเมตร ถือเป็นยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือ กระตุ้นให้คน 16 ปี ทุกคนเริ่มใช้ดิจิทัลวอลเลต และถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ กระตุ้นพร้อมกันทั่วประเทศและเกิดในทุกๆ หมู่บ้าน

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า สำหรับนโยบายตลาดทุน 3 เรื่องที่จะดำเนินการโดยเร็ว คือ การสร้างจุดเด่น ประเทศไทยมีจุดเด่นภาคบริการและท่องเที่ยว ซึ่งมีสัดส่วนจีดีพีที่สูง แต่มีสัดส่วนที่ต่ำมาร์เกตแคปในตลาดหลักทรัพย์ สะท้อนให้เห็นว่า ยังไม่ใช่กลไกการระดมทุนที่ดีพอ จึงต้องทำให้เป็นหัวหอกในการพัฒนาประเทศมากขึ้น

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า การสร้างกลไก ที่ติดกับดักพัฒนาคุณภาพตลาดหลักทรัพย์ต้องมีการแก้ไข ด้วยการผลักดันให้นักลงทุนรายย่อย ลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น ซึ่งกองทุนรวมต้องมีความแข็งแกร่งมากขึ้นผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐ เรื่องภาษี เรื่องกฎหมายต่างๆ ส่วนการเข้าถึง ต้องมีดึงทุนนอกเข้ามาระดมทุนในไทย และทำให้เอสเอ็มอีรายย่อย สามารถระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net