Skip to main content
sharethis

ชัยวุฒิแถลงกำลังดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์และประสานตำรวจหาทางจับ "9Near" หลังขู่จะเปิดเผยชื่อหน่วยงานรัฐเจ้าของข้อมูลส่วนตัวคนไทย 55 ล้านชื่อถ้าหน่วยงานไม่ติดต่อกลับ ชี้มีโทษสูง แต่ล่าสุดประสานบริษัทผู้ให้บริการโดเมน 9Near.org ยังไม่ติดต่อกลับ

30 มี.ค.2566แฟนเพจของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เผยแพร่การแถลงข่าว ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ ต่อกรณีแฮกเกอร์ “9near” อ้างว่าเป็นผู้ขโมยข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการและนำไปขายบนเว็บไซต์ Breach Forums ในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และยังอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย (Somewhere in government) และโพสต์ตัวอย่างไฟล์ ซึ่งมี ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขประจําตัวประชาชน และล่าสุดเปิดเว็บไซต์ 9near.org เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเจ้าของข้อมูลติดต่อไปภายในวันที่ 5 เม.ย.2566 ไม่เช่นนั้นจะเปิดเผยชื่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูลและจะบอกวิธีแฮก

รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวถึงแนวทางการดําเนินการของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่า

1) กระทรวงได้ประสานผู้ให้บริการ domain name สําหรับเว็บไซต์ 9near.org (Namesilo, LLC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศ เพื่อขอปิดกั้นเว็บไซต์ 9near.org ตั้งแต่วันพุธที่ 29 มี.ค.2566 เวลา 19.00 น. เนื่องจากมี การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น และระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คนคิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไป ซึ่งเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทําให้ประชาชนตื่นตระหนก ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือดําเนินการจากผู้ให้บริการ

2) กระทรวงอยู่ระหว่างดําเนินการขอคําสั่งศาลตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจเข้าข่ายตามข้อกฎหมายดังนี้

• มาตรา 14 (2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทาง เศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน หรือ

• มาตรา 20 (2) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามท่ี กําหนดไว้ในภาค 2 ลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

ในขณะเดียวกัน กระทรวงดิจิทัลฯ อยู่ระหว่างประสานผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ (เช่น AIS True NT) เพื่อดําเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ดศ. อยู่ระหว่างประสานสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เพื่อสอบถามข้อมูลว่ามีหน่วยงานภาครัฐแจ้งว่ามีข้อมูลรั่วไหลหรือไม่

ทั้งนี้ โทษที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ฯ มีโทษสูงสุด จําคุก 5 ปี และการนําข้อมูล ส่วนบุคคลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจถูก จําคุก 1 ปี หรือปรับ 1 ล้าน บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ต่อ 1 กรรม หรือต่อผู้เสียหาย 1 คน ได้ ซึ่งทําให้คนร้ายอาจถูกลงโทษจําคุกเป็น ร้อยปีได้ขึ้นกับข้อเท็จจริง และข้อมูลที่นําไปใช้กระทําผิดกฎหมายหรือเผยแพร่ทําให้ผู้อื่นเสียหาย

3) กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ประสานสํานักงานตํารวจแห่งชาติเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง และดําเนินการหาตัวผู้กระทําความผิด

ชัยวุฒิ กล่าวว่า “ได้สั่งการให้เร่งจัดการอย่างเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ประสานตํารวจหาหลักฐานและตัว ผู้กระทําความผิดมาลงโทษ และขอฝากเตือนไปยังผู้ที่จะนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ผิดกฎหมาย ระวังโทษหนัก ทั้งจําคุกทั้งปรับ” ติดต่อ call center กระทรวงดิจิทัลฯ 1212 หรือ สายด่วน ตํารวจไซเบอร์ 1441

ภาพจับหน้าจอจากเว็บไซต์ของ 9Near เมื่อวานนี้(30 มี.ค.2566)

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบตาม url ของเว็บ ณ เวลา 15.35 น. ยังสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้อยู่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net