Skip to main content
sharethis

ศาลสั่งปรับนายประกัน 50,000 ก่อนให้ประกัน “จัสติน” ชูเกียรติ หลังเข้ามอบตัวแสดงเจตนาไม่ได้ประวิงคดี กรณีถูกออกหมายจับเหตุไม่ไปศาลนัดสืบพยานคดี 112 เพราะประสบอุบัติเหตุมีอาการปวดหัวรุนแรง 

 

31 มี.ค. 2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2566 ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน “ชูเกียรติ แสงวงค์” นักกิจกรรมจากจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แต่งกายคอสเพลย์เป็น “จัสติน” เข้ามอบตัวต่อศาล ในกรณีที่ถูกออกหมายจับในคดีมาตรา 112 จากปราศรัยในการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรฝั่งธน บริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT ท่าพระ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 หลังทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในนัดสืบพยานนัดแรก เนื่องจากชูเกียรติมีอาการป่วยและบาดเจ็บจากการประสบอุบัติเหตุทางจราจร จึงไม่สามารถเดินทางมาศาลได้

สำหรับคดีนี้ ชูเกียรติได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 โดยคดีมีนายอานนท์ กลิ่นแก้ว จากกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา ก่อนที่ ดุสิต เพิ่มเจริญ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาตลิ่งชัน ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลในวันที่ 28 ธ.ค. 2564 ภายหลังศาลรับฟ้อง ได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวชูเกียรติระหว่างพิจารณาคดี ด้วยหลักทรัพย์จำนวน 250,000 บาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์จากกองทุนราษฎรประสงค์ คดีมีนัดสืบพยานในวันที่ 22-24 และ 28 มี.ค. 2566

ต่อมา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2566 ซึ่งเป็นนัดสืบพยานนัดแรก ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี เนื่องจากชูเกียรติมีอาการป่วย และปวดหัวรุนแรงจากการประสบอุบัติเหตุทางจราจร ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่าจะต้องพักการรักษาในระหว่างวันที่ 21 – 25 มี.ค. 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการนัดสืบพยานโจทก์ในคดีนี้ และจำเลยไม่สามารถเดินทางมาเข้าร่วมการพิจารณาคดีได้

แต่ศาลได้ใช้ดุลยพินิจว่า คำร้องขอเลื่อนคดีและสำเนาใบรับรองแพทย์ที่ทนายจำเลยยื่นต่อศาล ไม่ปรากฏว่ามีอาการบาดเจ็บรุนแรง มีเพียงอาการปวดศีรษะ ทำให้ศาลเชื่อว่า การที่ชูเกียรติไม่สามารถเดินทางมาร่วมการพิจารณาคดีตามวันเวลาที่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า เป็นการประวิงคดี และตั้งใจหลีกเลี่ยงไม่มาศาล จึงทำการออกหมายจับจำเลย และปรับผู้ประกันเต็มสัญญาประกัน

ต่อมา ในวันที่ 23 มี.ค. 2566 ศาลได้นัดให้จำเลยมาขึ้นศาลอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ปรากฏว่าอาการของจำเลยจะหายดีและสามารถเข้าร่วมพิจารณาคดีในวันดังกล่าวได้ และได้ยื่นใบรับรองแพทย์มาพร้อมกับทนายว่า ตนเองได้มีอาการปวดหัวและอาการง่วงนอนจากฤทธิ์ยา ซึ่งศาลก็ยังคงคำสั่งเช่นเดิม และได้จำหน่ายคดีของชูเกียรติออกจากสารบบชั่วคราว จนกว่าจะจับตัวจำเลยได้

ในวันที่ 30 มี.ค. 2566 จำเลยได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีพฤติการณ์ประวิงคดี โดยได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อศาลอาญาตลิ่งชันพร้อมกับนายประกัน และได้ยื่นคำร้องของดค่าปรับนายประกัน พร้อมทั้งขอปล่อยชั่วคราวโดยใช้หลักประกันและสัญญาประกันเดิม และเพิกถอนหมายจับ

ศาลได้รับตัวจำเลยไว้ ซึ่งนายประกันเปิดเผยว่า ศาลได้มีการปรึกษากับรองอธิบดีผู้พิพากษาเพื่อพิจารณาคำร้องของดค่าปรับนายประกัน ก่อนที่จะมีคำสั่งงดไม่ปรับนายประกันในสัญญาเดิมที่เป็นจำนวน 250,000 บาท แต่ให้ปรับนายประกันเพียง 50,000 บาท และให้รอฟังผลประกันตัวจำเลย

ต่อมาในเวลา 16.12 น. ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันชูเกียรติ ระบุคำสั่งว่า “เมื่อจำเลยชำระค่าปรับแล้ว จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ใช้สัญญาและหลักประกัน เงื่อนไขประกันเดิม กำชับให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด”

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net