Skip to main content
sharethis

ท่ามกลางการต่อสู้กับนโยบายทวงคืนผืนป่าฯ ของ คสช. 'เด่น คำแหล้' แกนนำนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินทำกิน หายตัวไปอย่างปริศนาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว หลังออกไปหาเก็บเห็ด หน่อไม้ บริเวณสวนป่าโคกยาว ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่าง จนท.รัฐกับชาวชุมชนโคกยาว ภายหลังพบหัวกระโหลกตรวจสอบ DNA พบตรงกับน้องสาวของเด่น พิสูจน์ถึงการเสียชีวิตแล้ว

เด่น คำแหล้

18 เม.ย.2566 เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ครบรอบ 7 ปี เครือข่ายปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) ได้สูญเสีย เด่น คำแหล้ ประธานโฉนดชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ในฐานะแกนนำนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินทำกินชุมชนโคกยาว หลังจากสูญหายตัวไปช่วงเช้าวันนี้ 16 เม.ย.59 ขณะที่เข้าไปหาเก็บเห็ด หน่อไม้ เป็นปกติ ในบริเวณสวนป่าโคกยาวซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนามและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว

การค้นหาไปทั่วในผืนป่าใหญ่จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ทั้งได้มีการประสานต่อหน่วยงานหลายภาคส่วนระดมค้นหาหลายทิศทาง ทว่ายังไม่มีผู้ใดพบเห็น แม้แต่เงาก็ไม่ปรากฏ

จนในวันที่ 24 มี.ค.60 พบวัตถุพยาน รวมกว่า 14 รายการ อาทิเช่น กางเกง รองเท้า และสิ่งของใช้ ซึ่งนางสุภาพ คำแหล้ (ภรรยา) ยืนยันว่าเป็นของนายเด่น จากนั้นภรรยานายเด่น ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ในวันถัดมา คือวันที่ 25 มี.ค.60 พบหัวกะโหลกมนุษย์ ผลตรวจสอบพิสูจน์หัวกะโหลก มีสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) เดียวกันกับน้องสาวของนายเด่น

หลังจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ลงตรวจสอบพื้นที่อีกเมื่อวันที่ 6 ก.ย.61 พบกระดูกฝ่าเท้า จำนวน 8 ชิ้น (จุดเดียวกันที่พบหัวกะโหลก) การสูญหายตัวอย่างปริศนาจึงเป็นที่พิสูจน์ว่าได้เสียชีวิตแล้ว โดยในวันที่ 26 ก.พ.62 ภรรยานายเด่น ได้รับหนังสือจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รายงานผลการตรวจพิสูจน์ แจ้งให้ทราบว่า วัตถุพยานที่ตรวจสอบนั้นเป็นของนายเด่น คำแหล้

แต่จนล่วงมาถึงปัจจุบัน ยังไม่มีหน่วยงานใดตรวจสอบให้บ่งชัดต่อสังคมว่า ปมปริศนาการหายตัวและการเสียชีวิตนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

หากย้อนกลับไปนับแต่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อการรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อ 22 พ.ค.57 พบว่า นักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายรายสูญหายไปในลักษณะที่เข้าข่ายจะเป็นการบังคับให้สูญหาย เช่นเดียวกับ "เด่น คำแหล้" แกนนำนักเคลื่อนไหวที่ต่อสู้ในสิทธิที่ดินทำกิน ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ซึ่งปมปัญหาข้อพิพาทชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ นั้น เจ้าหน้าที่รัฐพยายามผลักดันให้ชาวบ้านออกจากที่ทำกินด้วยสารพัดวิธีมาตลอดระยะเวลา โดยเฉพาะหลังจากหัวหน้า คสช. มีนโยบาย “ทวงคืนผืนป่า” จนเมื่อวันที่ 25 ส.ค.57 เจ้าหน้าที่ทหาร ป่าไม้ เข้ามาปิดประกาศคำสั่ง คสช.64/57 ให้อพยพ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ ภายใน 15 วัน

ขณะที่ชาวบ้านชุมชนโคกยาว เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และเข้าร่วมประชุมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) เพื่อให้มีแนวทางแกีไขปัญหาในระดับนโยบายกับหน่วยงานรัฐหลายครั้ง กระทั่งมีมติให้ชะลอการไล่รื้อจนกว่าจะมีกระบวนการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง แต่ชาวชุมชนโคกยาว ยังคงถูกเจ้าหน้าที่ เข้ามาข่มขู่ คุกคาม หลายครั้ง เช่น วันที่ 6 ก.พ.58 เจ้าหน้าทหารสนธิกำลังร่วมกับป่าไม้และฝ่ายปกครอง กว่า 100 นาย โดยมีเป้าหมายคือ ต้องเอาชาวบ้านออกจากพื้นที่ให้ได้ แต่ชาวบ้านยืนยันไม่ยอมออกจากที่ทำกินดั้งเดิมที่สืบทอดมาแต่บรรพบุรุษ ไม่เคยมีหลักประกันใดจากอำนาจรัฐที่จะมารองรับให้ชาวบ้านมีชีวิตอยู่กับป่าได้อย่างมีความสุข นอกจากการยืนหยัดต่อสู้ด้วยสมองและสองมือเปล่าของชาวบ้านเกษตรกร

16 เม.ย.66 ครบรอบ 7 ปี การจากไปของ เด่น คำแหล้ ที่ควรรำลึกถึงความทรงจำต่อนักต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน ที่ได้สร้างคุณค่าประโยชน์ต่อชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ลูกหลานมีที่กินทำกินที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน จากรุ่นสู่รุ่นสืบไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net