Skip to main content
sharethis

"พรรคเป็นธรรม" ยื่นหนังสือชี้แจง กกต. ปมใช้คำว่า "ปาตานีจัดการตนเอง" บนป้ายหาเสียง หลังฝ่ายความมั่นคงไม่สบายใจ ทางพรรคยืนยันคำว่า "ปาตานี" สะท้อนภาพ ปชช.ชายแดนใต้ ส่วนนโยบายจัดการตนเอง เป็นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ไม่ใช่ปกครองตัวเอง ยืนยันว่าไม่ปลด เพราะไม่ใช่ภัยความมั่นคง

 

19 เม.ย. 2566 ทีมสื่อพรรคเป็นพรรค รายงานวันนี้ (19 เม.ย.) พรรคเป็นธรรม นำโดยกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรค ฮากิม พงตีกอ รองเลขาธิการพรรค และฮาฟิส ยะโกะ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 3 จ.นราธิวาส หมายเลข 6 พรรคเป็นธรรม แถลงข่าวกรณี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.จ.นราธิวาส เชิญฮาฟิส ไปชี้แจงกรณีการติดป้ายหาเสียงมีข้อความว่า "ปาตานีจัดการตนเอง"

ตัวอย่างป้ายหาเสียงของพรรคเป็นธรรม จ.นราธิวาส

ฮาฟิส เปิดเผยว่า ทาง กกต.จ.นราธิวาส ได้โทรศัพท์มาเชิญให้ไปชี้แจงเมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 16 เม.ย. 2566 แต่ตนเองติดการลงพื้นที่หาเสียง จึงได้ไปพบ กกต.เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2566 โดยทาง กกต.จ.นราธิวาส ตั้งข้อสังเกตว่า คำว่า "ปาตานีจัดการตนเอง" ที่ใช้หาเสียง เป็นคำแสลง ที่หมิ่นเหม่ กับหน่วยงานด้านความมั่นคง 

"ผมได้ยืนยันว่า ปาตานีจัดการตนเอง เป็นนโยบายจังหวัดจัดการตนเอง เป็นเพียงการกระจายอำนาจ โดยเราใช้คำว่า ‘ปาตานี’ เป็นภาพรวมเพื่อแทนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง กกต.ขอว่าใช้นราธิวาสไม่ได้เหรอ โดยบอกว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่สบายใจ และมีคำถามมาถึง กกต.ว่าจะทำอย่างไรกับคำนี้ ผมก็งงว่าองค์กรอิสระทำไมให้หน่วยงานอื่นมาท้วงติงได้" ฮาฟิส กล่าว

ฮาฟิส ตั้งข้อสังเกตว่า กกต.เป็นองค์กรอิสระ ทำให้หน่วยงานอื่นมาท้วงติงการปฏิบัติงานได้ และนโยบายนี้เป็นไปตามหลักการกระจายอำนาจ ขณะที่กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเป็นธรรม หมายเลข 3 ชี้แจงด้วยว่า พรรคเป็นธรรมมีนโยบายจังหวัดจัดการตนเอง และพื้นที่ปาตานี หรือจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ชายแดนและชายฝั่งทะเลและเกาะแก่ง 53 จังหวัดที่อยู่ในนโยบายนี้  

"เราไม่ตกใจที่ กกต.ร้องขอให้ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.นราธิวาส ให้มาชี้แจงคำว่า ปาตานีจัดการตนเอง เพราะเป็นการตอกย้ำหน่วยงานรัฐไทย ที่การทหารนำการเมือง มองแต่เพียงว่าจะไปกระทบความมั่นคง โดยไม่คำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของประชาชน" กัณวีร์ กล่าว 

กัณวีร์ เปิดเผยว่าได้คุยกับทาง กกต. จ.นราธิวาส ยืนยันว่า นโยบายจัดการตนเอง ไม่ใช่การปกครองตนเอง ซึ่งคำว่า 'management' ต่างจาก 'government' แนวคิดจะให้จังหวัดตนเอง เป็นนโยบายที่ให้จังหวัดชายแดน 33 จังหวัด และจังหวัดชายฝั่งทะเลเกาะแก่ง 23 จังหวัด ได้มีฐานการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เพราะมีเศรษฐกิจหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาท ลักษณะจะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเหมือน กทม. และพัทยา ที่เป็นการปกครองพิเศษ แต่การห้ามใช้คำว่า ปาตานี เป็นสิ่งที่พรรคเป็นธรรม ต้องต่อสู้ เพราะหากเราไม่ทำตามข้อเสนอ กกต.ผู้สมัคร ส.ส.ของเราถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง เป็นความไม่เป็นธรรม  

"ข้อเรียกร้องคำว่า ปาตานี ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่ หากความมั่นคงมองว่า เรื่องนี้เป็นภัยคุกคาม แล้วเมื่อไหร่ ประชาธิปไตยของไทยจะงอกงาม เราคงไม่ถอด หรือปลดป้ายออก พรรคเรายืนยันว่า นโยบายจังหวัดจัดการตนเอง ยังเสนออยู่ เพราะเป็นนโยบายที่เสนอให้ทาง กกต.รับทราบเรียบร้อยแล้ว หากจะให้ถอน หรือปิดคำว่า ปาตานี แต่เรายังต้องการให้ ปาตานีจัดการตนเอง" กัณวีร์ กล่าว 

กัณวีร์ เปิดเผยด้วยว่า ในการชี้แจง กกต.บอกว่า วิญญูชน เวลาอ่านป้าย ปาตานีจัดการตนเอง มีการตีความว่า ให้ปกครองตนเอง ซึ่งฟังแล้วก็ตกใจคำพูดจาก กกต.เพราะคำนี้ไม่ใช่ “autonomy” หรือการปกครองตนเองที่ฝ่ายความมั่นคงเป็นห่วง แต่คำนี้เป็นเพียงการกระจายอำนาจ และประชาชนต้องการเสรีภาพ แต่นี่แค่ติดป้าย ปาตานีจัดการตนเอง ยังถูกห้ามจากทหาร ก็แสดงว่าทหารยังนำการเมือง ที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย

กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม

ฮากิม พงตีกอ รองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า พรรคเป็นธรรมอยากสถาปนาให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า การเมืองต่างหากที่เปลี่ยนแปลงปัญหาในพื้นที่ปาตานีได้ พรรคจึงอยากเปลี่ยนผ่านความขัดแย้งโดยใช้การเมือง พรรคต้องการให้ประชาชนเห็นว่าเรามีสิทธิทางการเมืองอย่างสันติ ในการชูอัตลักษณ์ ผ่านระบบเลือกตั้ง แต่รัฐราชการยังไม่เข้าใจเรื่องนี้

"ในกระบวนการสันติภาพ การปกครองตนเอง และการกระจายอำนาจ ก็ถูกพูดคุยในวงราชการ นโยบายของเรายังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และแนวคิดของรัฐ จังหวัดจัดการตนเอง เป็นเพียงการกระจายอำนาจ และโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ นำอัตลักษณ์พื้นที่และคำว่า มลายูปาตานี เป็นอัตลักษณ์ ที่สามารถสะท้อนสู่สังคมโลก ก็จะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทางเศรษฐกิจได้ด้วย ต่างจากมุมมองของหน่วยความมั่นคง พรรคเป็นธรรมให้ความสำคัญกับกระบวนการสันติภาพ เราก็ทำอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ เป็นคำที่ไม่อันตราย ปัญหาไม่ใช้นโยบายของเรา แต่มุมมองของราชการที่ต้องปรับเข้าหาประชาชน"นายฮากิม กล่าวย้ำ

ฮาฟิส ไม่กังวลที่ กกต. ระบุว่าหากไม่ปลดป้ายอาจจะนำไปสู่การเพิกถอนสิทธิการเป็นผู้สมัคร ส.ส. และยืนยันว่าขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่ง กกต.ให้เวลาภายใน 4 วันในการปลดป้าย หลังจากนี้ทาง กกต.จะมีการส่งหนังสือมาให้ผู้สมัคร และส่งหนังสือถึงพรรคให้ชี้แจงไปที่ กกต.กลาง ทางพรรคก็จะทำหนังสือชี้แจงไปและยืนยันใช้คำว่า “ปาตานี” บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน 

กัณวีร์ ยืนยันด้วยว่าจะไม่ปลดป้ายออก เพราะเป็นข้อเรียกร้องของประชาชน ซึ่งมาจากโครงการฟังเสียงศักดิ์สิทธิ์ ที่พรรคเป็นธรรมได้มาจากการรับฟังเสียงของประชาชน จึงนำมาเป็นนโยบาย 

"ถ้าเราปลดป้าย ก็จะเป็นการหักหลังประชาชน เราไม่สามารถทำได้ และยืนยันว่า คำว่าปาตานีจะไม่เลือนหายจากพรรคเป็นธรรม เรายังต่อสู้เพื่อชาวปาตานี เราจะแสดงออกในการต่อสู้และพูดคุยคำว่า ปาตานี ต่อไป" กัณวีร์ กล่าวย้ำ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net