Skip to main content
sharethis

ปมค่าไฟฟ้าแพง จนแกนนำ 'พลังประชารัฐ' ออกมาจี้ 'ประยุทธ์' ล้มเหลวในการบริหาร ด้าน 'ประยุทธ์' ผู้เคยรับผลงานทุกทางออกมาเตือนว่าอยู่ในรัฐบาลเดียวกันมาโดยตลอดหลายปี อย่าเอาทุกอย่างโยนมาที่ตน ย้ำ 'มีเพียงกระทรวงกลาโหมใช่หรือไม่ที่ผมสั่งการได้'

28 เม.ย.2566 จากกรณีปัญหาค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานของรัฐบาล แม้แต่คนในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐที่แกนนำพรรคออกมาวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลโดยพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่ตอนนี้ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติว่าเหตุเพราะไทยมีไฟฟ้าสำรองสูง ล้มเหลวในการบริหาร และนำเข้าก๊าซราคาแพง นั้น

ต่อมา 26 เม.ย.66 พล.อ.ประยุทธ์ ออกมากล่าวว่า ความจริงยุทธศาสตร์มีอยู่แล้ว 6 ยุทธศาสตร์ ที่รัฐบาลทำมาโดยตลอดและทุกคนที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลและแยกไปหาเสียงทุกวันนี้ก็อยู่ในรัฐบาล และดำเนินการตามยุทธศาสตร์นี้มาทุกพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นวันนี้ไม่ควรที่จะมาโจมตีกันเองมากนัก ควรจะไปบอกว่าจะทำอะไรเมื่อตัวเองเป็นรัฐบาล พูดอย่างนี้น่าจะดีกว่า ทำให้มันดีขึ้นก็แล้วกัน

"การมาติติงกันเองก็อย่าลืมว่าอยู่ในรัฐบาลเดียวกันมาโดยตลอดหลายปีหรือ 4 ปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นอย่าเอาตรงนี้มา ทุกอย่างโยนมาที่ผม อย่าลืมว่าผมประชุมมาในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผมก็รับฟังความคิดเห็นจากทุกคน ทุกรัฐมนตรี ถือเป็นการทำงานที่บูรณาการร่วมกัน เพราะบางอย่างก็ไม่ใช่จะตัดสินได้ด้วยตัวเอง อย่าลืมว่าผมไม่มีกระทรวงที่จะลงมาเล่นเองได้ทั้งหมด มีเพียงกระทรวงกลาโหมใช่หรือไม่ที่ผมสั่งการได้

กระทรวงอื่นผมก็สั่งการในที่ประชุม ครม. นโยบายต่างๆ ก็มอบใน ครม. ยุทธศาสตร์ก็ให้เป็นแนวทางและแนวปฏิบัติไปทั้งหมด หน้าที่ของผมคือกลั่นกรองโครงการทุกโครงการที่มีการเสนอเข้ามาเพื่อให้เกิดความสอดคล้องจึงทำมาได้ถึงขนาดนี้ นี่คือการทำงาน ถ้ามันจะดีก็ดีด้วยกันแต่ถ้าผิดพลาดก็ถือว่าผิดพลาดด้วยกัน อย่างไรก็ตามวันนี้ผมก็รับได้ใครจะว่าอะไรผม ผมก็รับได้ทั้งหมดนั่นแหละ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

อย่างไรก็ตามแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แต่ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็ดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ 5 ส.ค. 2563 และปัจจุบันยังเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

ช่วงชิง 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ'

กรณีการโยนปัญหากันไปมาของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น มาพร้อมกันการแย่งชิงผลงานเช่นกันอย่างกรณี “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่พยายามช่วงชิงกันระหวัง 2 พรรค  พล.อ.ประยุทธ์ เสนอนโยบายเพิ่มให้กับคนจนผู้มีสิทธิได้รับเป็นคนละ 1,000 บาทต่อเดือน โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเรียกว่า “สิทธิบัตรสวัสดิการพลัส” ส่วน พล.อ.ประวิตร ประกาศนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ให้กับประชาชน และพร้อมเริ่มมีผลทันที หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

2 แกนนำพรรคพลังประชารัฐ อย่าง อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ออกมาแถลงเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา ยืนยัน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ

“พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน ต่างก็รับทราบดีว่า นโยบายต่างๆ มีขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด ใครเป็นคนคิดริเริ่ม และผลักดันจนเป็นรูปธรรม เพียงแต่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกเรื่องจะต้องผ่านความเห็นชอบของ ครม. ซึ่งมีนายกฯ เป็นหัวหน้า ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะหิ้วเอานโยบายเหล่านั้น ติดตัวไปอยู่พรรคอื่นด้วย” อุตตม ระบุ

อุตตม กล่าวด้วยว่า นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็แค่ย้อนกลับไปดูว่า โครงการนี้เปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนครั้งแรกในปี 2559 ซึ่งขณะนั้นคนที่เข้ามาคุมนโยบายเศรษฐกิจให้รัฐบาล คสช. คือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รับตำแหน่งรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ช่วง 8 ปี ก็จะรู้ว่าใครเป็นผู้ริเริ่มและผลักดันนโยบายเหล่านี้

'ประยุทธ์-อนุทิน-สาธิต' ชิงผลงานขึ้นเงิน อสม.

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพิ่มค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เดือนละ 2,000 บาท อย่างไรก็ตามหลังมีมติ ครม.ดังล่าว 3 พรรคร่วมรัฐบาลก็โพสต์แจ้งผลมติดังนี้

  • อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวพร้อมกับระบุว่า “พูดแล้วทำ”
  • สาธิต ปิตุเตชะ ซึ่งเป็น รมช.สาธารณสุขจากพรรคประชาธิปัตย์ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ครม.อนุมัติ ให้เพิ่มค่าตอบแทน อสม.จาก 1,000 เป็น 2,000 บาท ตามที่ สธ.เสนอ เริ่มปีงบประมาณ 67 คือ ต.ค. 66”
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแกนนำโพสต์เฟซบุ๊กถึงมติดังกล่าวพร้อมภาพ พล.อ.ประยุทธ์ และข้อความว่า “รัฐบาลลุงตู่ทำแล้ว ครม.ไฟเขียวเพิ่มค่าตอบแทน อสม.อสส.เดือนละ 2,000 บาทต่อคน” พร้อมสโลแกน “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”

วันต่อมา 8 มี.ค. ธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นอีกคนที่ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงมติดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า การเพิ่มค่าป่วยการ อสม. และ อสส. ถือเป็นผลงานของรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ และเป็นความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาลทุกฝ่าย จึงไม่เป็นห่วงว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งบานปลายระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลในการนำนโยบายไปใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง

ประชาสัมพันธ์จาก เว็บไซต์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

เช่นเดียวกับ ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีกคนที่ภายหลังย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวผ่าน เว็บไซต์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ยก "มหานครเศรษฐกิจใหม่ในภาคตะวันออก" เป็นรูปธรรม ดันโครงการก่อสร้างท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 คืบหน้าแล้ว38.53% เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ว่าเป็นผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม 

เพจเชียร์ ยกผลงานทุกอย่างให้ประยุทธ์

เมื่อ 30 ก.ย.65 แฟนเพจเฟซบุ๊ก 'ลุงตู่ตูน' ซึ่งสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์ข้อความในหัวข้อ “8 ปีแห่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างก้าวกระโดด” พร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับการดำเนินโครงการด้านคมนาคมขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หลายโครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าหลายสาย, โครงการรถไฟความเร็วสูง-ทางคู่, การยกระดับคมนาคมทางถนน-ทางราง, ยกระดับสนามบินภูมิภาค และปรับปรุงคมนาคมทางน้ำ

เรียบเรียงจาก ฐานเศษฐกิจ, มติชนออนไลน์, ไทยโพสต์ และ เว็บไซต์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล 1, 2

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net