'ขู่ฆ่า ชกปาก ฟาดด้วยไม้' รวมเคสนักกิจกรรมถูกทำร้าย 'ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า'

ประชาไทประมวลรวม 23 กรณี นักกิจกรรมการเมืองถูกทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ คุกคาม ตั้งแต่ปี 2561-2566 'เอกชัย' ยังคงถูกทำร้าย-คุกคามมากสุดอย่างน้อย 10 ครั้ง ส่วนคดีคืบบ้าง ไม่คืบบ้าง

1. 'เอกชัย' ถูกปาแก้วน้ำใส่หลังเดินทางไปทำเนียบเพื่อขอมอบของขวัญ (นาฬิกา) ให้ 'ประวิตร'

19 ม.ค. 2561 เอกชัย หงส์กังวาน และโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ เดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำนาฬิกาจำนวน 3 เรือน และโปสเตอร์คอลเล็กชันนาฬิกา 25 เรือน มาให้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล เอกชัย กลับถูกฤทธิไกร ชัยวรรณศาสน์ ปาแก้วน้ำใส่ หลังจากเขาเพิ่งลงจากรถเมล์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ทัน ภายหลังพบตรวจพบว่า ฤทธิไกร พกมีดพับความยาว 3 นิ้วไว้กับตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเจ้าหน้าที่ส่งฟ้องต่อศาลในวันเดียวกัน และศาลมีคำพิพากษาปรับ 1,000 บาท

2. ‘เอกชัย’ ถูกดักชกปากแตกในซอยเข้าบ้าน หลังกลับจากทำกิจกรรมที่ทำเนียบ

23 ม.ค. 2561 เวลา 10.00 น. เอกชัย และโชคชัยเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อจัดกิจกรรมมอบนาฬิกา 3 เรือน ให้ พล.อ.ประวิตร อีกครั้ง โดยครั้งนี้มีป้ายไวนิลที่ใส่เนื้อหาข่าวเรื่องนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งถูกสื่อต่างประเทศนำเสนอมาประกอบด้วย หลังจากเสร็จกิจกรรม เอกชัย แยกย้ายกับโชคชัย เพื่อเดินทางกลับบ้าน 14.00 น. ระหว่างที่เอกชัยลงจากรถเมล์และกำลังเดินเข้าซอยบ้าน เขาถูก ฤทธิไกร ชัยวรรณศานส์ ดักทำร้ายร่างกาย โดยถูกชกจนปากแตก จากนั้นเขาได้แจ้งความมกับ สน.ลาดพร้าว ข้อหาทำร้ายร่างกาย ภายหลังอัยการได้ส่งฟ้องนายฤทธิไกร ต่อศาลและศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา

3. ‘เอกชัย’ ถูกดักสาดน้ำปลาร้าใส่ หลังลงรถเมล์ เพื่อเดินไปทำเนียบ ตามความคืบหน้า นาฬิกา 25 เรือนของประวิตร

14 ส.ค. 2561 เวลา 10.15 น. เอกชัย เดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามความรับผิดชอบของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรื่องนาฬิกาหรู เมื่อเอกชัย ลงรถเมลล์ด้านข้างโรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพฯ เขาถูกชายนิรนาม 2 ราย คาดว่าขับรถจักยานยนต์ตามมาจากบ้าน เข้ามาสาดน้ำปลาร้าใส่ ก่อนที่เร่งรีบหลบหนีไป โดยรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และคนร้ายทั้ง 2 คนสวมหมวกกันน็อคปิกปิดใบหน้า เอกชัย แจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบลายนิ้วมือจากถังใส่น้ำปลาร้าที่คนร้ายทิ้งไว้ แต่ยังคงไร้ความคืบหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

4. ‘เอกชัย’ โดนรุมตีหน้าบ้านจนกระดูกนิ้วมือแตก หลังทวงถามความคืบหน้าเรื่องนาฬิกาหรูที่ทำเนียบ

22 ส.ค. 2561 เวลา 12.00 น. หลังจากกลับจากการทำกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล พอลงจากรถประจำทางแล้วเอกชัย เห็นผู้ชายสองคนจอดมอเตอร์ไซค์รออยู่หน้าอู่รถชื่อ “Tyre Plus” (ไทร์พลัส) ปากซอยลาดพร้าว 107 และมองมาที่เอกชัย ทำให้รู้สึกผิดสังเกต แต่ก็ยังเดินต่อเพื่อเข้าบ้านที่อยู่ในซอยถัดไป พอเลี้ยวเข้ามาในซอยลาดพร้าว 109 ซอย 1 เดินจนถึงซอยเชื่อมระหว่างซอย 1 และ 3 จนใกล้จะถึงบ้านแล้ว ได้มีคนตะโกนเรียกชื่อเขา ทำให้เอกชัย หันไปดูพบเป็นชาย 2 คนขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาข้างหลังแล้วก็จอด ชาย 1 ใน 2 ได้เอาหมวกกันน็อคฟาดไปที่เอกชัย ระหว่างที่เอกชัย ถูกทำร้าย มีผู้ชายคนที่ 3 เพิ่มมาอีก และเอาไม้ตีที่เอกชัย 4-5 ที เอกชัยจึงยกแขนกันเอาไว้ แต่ระหว่างที่ชายคนที่ 3 เอาไม้ตีอยู่ อีก 2 คนก็ยืนดู พอชายคนที่ 3 ตีจนไม้หลุดมือไปได้หันไปหาไม้อันอื่นจะมาตีเขาอีก เอกชัย จึงรีบวิ่งเข้าบ้าน หลังเกิดเหตุ เอกชัยเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว และถูกส่งตัวไปรักษาและตรวจสอบบาดแผลที่โรงพยาบาล จากการตรวจรักษาพบว่ากระดูกนิ้วก้อย และนิ้วนางข้างซ้ายหัก แพทย์ได้ใส่เฝือกใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1 เดือน

ต่อมา ตำรวจจับกุมคนร้าย 1 คน คือ กำธร ธรรมขันธ์ (อายุ 20 ปี) ล่าสุด อัยการส่งหนังสือมาสอบถามถึงการเรียกร้องค่าเสียหายในคดี อย่างไรก็ตาม กำธร ให้การว่า ตนเพียงแต่รับจ้างขี่มอเตอร์ไซด์มาเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นผู้ว่าจ้าง และไม่ยอมให้ข้อมูลว่าใครเป็นผู้ว่าจ้างและบุคคลใดร่วมกระทำความผิดบ้าง

ถัดมาเกือบ 2 ปี เมื่อ 17 ก.พ. 2563 ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษา ยกฟ้องคดีที่เอกชัย ถูกทำร้ายเมื่อ 22 ส.ค. 2561 โดยมีอัยการสำนักงานคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้องกำธร จำเลยในคดีนี้ เนื่องจากโจทก์มีผู้เสียหาย (เอกชัย) เป็นประจักษ์พยานคนเดียว ข้อเท็จจริงจะต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง โจทก์นำสืบยังคงมีข้อพิรุธ จึงยกประโยชน์ให้จำเลย

ด้านเอกชัย ให้สัมภาษณ์กับโพสต์ทูเดย์ ระบุว่า ตัวเขายืนยันว่าจำหน้าคนร้ายได้ชัดเจน และจะทำเรื่องของอุทธรณ์ในคดีนี้ต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามความคืบหน้าเพิ่มเติมกับเอกชัย เรื่องการอุทธรณ์คดีนี้ เมื่อ 18 เม.ย. 2566 โดยเอกชัย เผยว่า ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดีนี้ไปแล้วเช่นกัน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

5. 'เอกชัย' ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย ขณะเคลื่อนไหวค้านการเลื่อนการเลือกตั้ง โชคดีนักท่องเที่ยวช่วยไว้ทัน

19 ม.ค. 2562 เวลาประมาณ 19.15 น. หลังจากเลิกจากกิจกรรมรณรงค์ ไม่เลื่อนเลือกตั้งร่วมกับกลุ่มของอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ‘ฟอร์ด เส้นทางสีแดง’ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว เอกชัย พร้อมเพื่อนนักกิจกรรมอีกคน กำลังเดินทางกลับบ้านโดยจะเดินไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อไปที่รถของเขาที่จอดไว้ แต่เมื่อถึงบริเวณโค้งหยดน้ำใกล้กับสะพานพระปิ่นเกล้าในเวลาประมาณ 19.15 น. ได้มีชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนซึ่งคาดว่าเดินตามมา โดย 3 คนเข้ามารุมทำร้ายร่างกายเอกชัย จากทางด้านหลัง ส่วนอีกคนยืนคอยคุมเชิง แต่เพื่อนเอกชัย ที่เดินมาด้วยเข้ามาห้ามปราม จึงถูกทำร้ายไปด้วย 

ต่อมา มีนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย ไม่แน่ชัดว่าเป็นชาวจีน หรือเกาหลีใต้ ประมาณ 10 คนเดินผ่านมาพบ และได้เข้าทำการช่วยเหลือ ไล่ชกต่อยชายที่เข้ามาทำร้ายเอกชัย จนคนร้ายทั้ง 4 คนต้องวิ่งขึ้นมอเตอร์ไซค์จำนวน 2 คันที่จอดเอาไว้ขับหลบหนีไป เอกชัยโดนต่อยบริเวณใบหน้า และโดนเตะบริเวณศีรษะ แต่ได้เอาแขนขึ้นมารับไว้จึงมีรอยช้ำที่แขนด้วย ส่วนเพื่อนนักกิจกรรมอีกคนโดนชกต่อยทำร้ายแว่นตาหัก ปากแตก และคิ้วแตก โดยเอกชัย แจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม แล้วจึงจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล สำหรับคดีความยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

6. 'เอกชัย' ถูกลอบเผารถยนต์หน้าบ้านยามวิกาล

26 ม.ค. 2562 เวลา 3.00 น. คนร้ายลอบเผารถยนต์ของเอกชัย ที่จอดไว้หน้าบ้าน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายมีเพียง 2 คน โดยอีกคนยืนดูต้นทาง ส่วนผู้ก่อเหตุสวมเสื้อคลุมและใส่หมวกปิดบังหน้าตา ใช้ขวดน้ำมันฉีดไปที่รถยนต์ของเอกชัย จากนั้น ได้จุดไฟเผา และรีบวิ่งหนีไป เอกชัย ได้แจ้งความต่อ สน.ลาดพร้าวแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

7. 'เอกชัย' ถูกดักตีหัวแตก หลังให้ปากคำต่อแพทยสภา สอบจริยธรรม ‘หมอเหรียญทอง’

5 มี.ค. 2562 เวลา 15.00 น. เอกชัย หงส์กังวาน ได้เดินทางไปยังสำนักงานเลขาแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ จ.นนทบุรี เพื่อให้การต่อคณะอนุกรรมการจริยธรรมชุดที่ 14 ของแพทยสภา หลังจากที่ได้ยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบจริยธรรมของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎวัฒนะ 

ต่อมา 16.00 น. หลังจากเอกชัย ได้เข้าให้การกับคณะอนุกรรมการจริยธรรมแพทยสภาเรียบร้อยแล้ว ระหว่างเดินทางกลับ เอกชัย ถูกชายนิรนาม 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียน คนขับสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ สวมแจ็คเก็ตสีดำ ส่วนคนซ้อนสวมหมวกกันน็อคครึ่งใบ สวมเสื้อลายพรางสีน้ำตาล และผ้าปิดจมูกลายพราง เข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยคนหนึ่งถือท่อนไม้ขนาดใหญ่เข้าตีหัวเอกชัย อย่างแรงจนทำให้หัวแตก และมีรอยช้ำจากการถูกตีที่แขน ส่วนอีกคนหนึ่งถือท่อแป๊ปเหล็กกำลังจะเข้ามาทำร้ายร่างกายเอกชัย แต่มีพลเมืองดีช่วยห้ามไว้ ที่สุดแล้วทั้ง 2 คนรีบกลับขึ้นรถ และหลบหนีไป หลังเสร็จจากการรักษาเอกชัยเดินทางเข้าแจ้งความกับ สภ.ท่าน้ำนนท์ ปัจจุบัน ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

8. 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' ถูกทำร้ายร่างกาย หลังกลับจากจัดกิจกรรมล่าชื่อถอด กกต. 

31 มี.ค. 2562 เวลาประมาณ 22.30 น. อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' หนึ่งในแกนนำจัดกิจกรรม "ถึงโกงก็ชนะ" หน้าแมคโดนัลด์ แยก​ราชประสงค์ ถูกทำร้ายในบ้านยามวิกาลหลังจากเดินทางกลับจากกิจกรรม​ล่ารายชื่อปลดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ที่มา เฟซบุ๊ก 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง'

อนุรักษ์ เล่าว่า เมื่อเขากลับมาที่บ้านราว 21.45 น. โดยการนั่งรถแท็กซี่ ได้มีคนร้ายใส่ชุดดำ 2 คน ใส่หมวกกันน็อคขับมอเตอร์​ไซด์ตามมาจอดหน้าบ้าน หนึ่งในนั้นวิ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกับอาวุธ​เป็นไม้หน้าสามเข้ามาทำร้ายตน จากนั้น ตนจึงต่อสู้​ป้องกันตัว จนสามารถแย่งไม้จากคนร้าย พร้อมกับตีคนร้ายกลับจนไม้หักคามือสองท่อน ทำให้คนร้ายวิ่งหนีไปเมื่อมีเสียงคนตะโกนให้ช่วยเหลือ

อนุรักษ์ ระบุเมื่อ 18 เม.ย. 2566 ว่า ได้แจ้งตำรวจไปนานแล้ว แต่ปัจจุบันยังไร้วี่แววความคืบหน้าใดๆ 

9. รถยนต์ 'เอกชัย' ถูกทุบกระจก เผาห้องโดยสาร หลังกลับจากล่าชื่อถอดถอน กกต.

1 เม.ย. 2562 เวลาประมาณ 1.15 น. เวลาตามกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์หน้าบ้านเอกชัย ไว้ได้ พบว่ามีชายคน 1 คนสวมเสื้อแจ็กเก็ต กางเกงขายาว และหมวกกันน็อคเดินจากด้านในซอย และใช้เท้าถีบกระจกมองข้างด้านซ้ายของรถยนต์ของเอกชัย และถือขวดน้ำมันราดบนกระจกหน้ารถยนต์ของเอกชัย ก่อนจุดไฟเผาจนเกิดไฟลุกท่วม ทำให้ภายในห้องโดยสารรถยนต์เสียหายจนไม่อาจซ่อมแซมได้ รวมถึงเอกสารจากการล่ารายชื่อถอดถอน กกต.และเครื่องขยายเสียงก็ได้รับความเสียหายบางส่วนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เอกชัย แจ้งความไว้ที่ สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และนำรถยนต์ไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจแล้ว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2562 เอกชัยได้เข้าร่วมกิจกรรมล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ที่บริเวณแยกราชประสงค์

เอกชัย แจ้งเมื่อ 18 เม.ย. 2566 ระบุว่า ยังไม่มีความคืบหน้าในคดีนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

10. 'เอกชัย' ถูกชาย 4 คนรุมทำร้ายหน้าศาลอาญาขณะไปรายงานตัวคดีคนอยากเลือกตั้ง

13 พ.ค. 2562 เอกชัย หงส์กังวาน ถูกชาย 4 คนรุมทำร้ายร่างกายที่หน้าศาลอาญา รัชดาภิเษก ขณะกำลังไปรายงานตัวต่อศาลคดีคนอยากเลือกตั้ง โดยเอกชัย อ้างว่า คนที่ทำได้รับคำสั่งมาให้เอาตนเองถึงชีวิตด้วย แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า เอกชัย กล่าวด้วยว่าค่อนข้างแน่ใจว่าครั้งต่อไปอาจจะถูกทำร้ายหนักกว่านี้ ส่วนกรณีการร้องขอให้มีการคุ้มครองพยาน ซึ่งได้มีการยื่นเรื่องไปตั้งแต่เดือน เม.ย. 2562 จนถึงขณะนี้ ผ่านมานานกว่า 2 เดือน ก็ยังไม่มีความคืบหน้า

11. 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' ถูกชาย 6 คนรุมทำร้ายระหว่างขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน

25 พ.ค. 2562 อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' เผยว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงหลังจากการเลือกตั้งปี 2562 และกำลังจะมีการเปิดประชุมสภา จึงมีการจะไปประท้วงคณะรัฐมนตรีที่มาจากการโกงเลือกตั้ง แต่ในช่วงกำลังออกจากบ้าน มีชาย 6 คนขี่รถมอเตอร์ไซค์ 3 คัน เข้ามาทำร้ายร่างกายจนสลบ และได้รับบาดเจ็บ ศีรษะแตก ต้องเย็บ 8 เข็ม และพักรักษาตัวโรงพยาบาล ร่วม 3 วัน  

ความคืบหน้าของคดีล่าสุด (18 เม.ย.) อนุรักษ์ แจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่แล้ว แต่ตำรวจมีความเห็นสั่งไม่สั่งฟ้อง และตอนไปตามคดีที่กองปราบฯ ก็ไม่มีความคืบหน้า

ฟอร์ดฯ ระบุด้วยว่า จริงๆ ตำรวจสามารถสืบทราบจนเห็นใบหน้าของผู้ก่อเหตุแล้ว โดยตำรวจใช้วิธีการเช็กกล้องวงจรปิดจากสถานที่เกิดเหตุย้อนไปเรื่อยๆ เพื่อตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุเดินทางมาจากไหน จนพบว่า 1 ใน 6 ของคนร้าย ขับมอเตอร์ไซค์ออกมาจากค่ายทหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขี่มอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อค และจอดรถฯ ที่ร้านสะดวกซื้อที่เซเว่นอีเลฟเว่น เช็กกล้องวงจรปิดในเซเว่นฯ คนร้ายมีการถอดหมวกกันน็อค เห็นใบหน้าผู้ก่อเหตุชัดเจน แต่ตำรวจเขาไม่กล้าไปต่อ

"มันก็ตันอยู่แค่นี้" ฟอร์ด กล่าวถึงข้อมูลที่เขาได้รับ   

12. ‘เอกชัย’ โพสต์เฟซบุ๊ก “มีคำสั่งให้ฆ่าผม” 

27 พ.ค. 2562 เฟซบุ๊กของเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง มีการโพสต์ข้อความว่า "มีคำสั่งให้ฆ่าผม" โดยเอกชัย ระบุว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งส่งข้อความถึงเอกชัยว่า ได้มีคำสั่งให้ฆ่าเอกชัยแล้ว ขอให้รีบเดินทางออกนอกประเทศโดยด่วน เอกชัย กล่าวว่าไม่สามารถหลบหนีไปที่ไหนได้ เพราะในเดือน มิ.ย. 2562 แทบทั้งเดือนตนมีนัดขึ้นศาลจากคดีการเมืองที่ถูกรัฐฟ้อง และต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจติดตามอาการบาดเจ็บจากการถูกรุมทำร้ายที่หน้าศาลอาญาเมื่อครั้งก่อน

เอกชัย กล่าวด้วยว่าได้นำหลักฐานทั้งการถูกคุกคามทำร้ายไปทำเรื่องที่ สน. เพื่อคุ้มครองพยาน ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. 2562 แล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างไร เมื่อตนไปสอบถามความคืบหน้าก็พบแต่เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยไม่สามารถระบุความคืบหน้าอะไรได้ เมื่อขอพบผู้บังคับบัญชา ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ

13. 'เพนกวิน' ถูกโทรมาด่าทอ หลังวิจารณ์ พล.อ.เปรม

28 พ.ค. 2562 พริษฐ์ ชิวารักษ์ ขณะนั้นเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกโทรศัพท์มาหา พร้อมด่าทอจากการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 และอดีตประธานองคมนตรี 

14. 'เพนกวิน' ถูกโทรมาข่มขู่ "ทหารจะเล่นงานมึงเมื่อไหร่ก็ได้"

31 พ.ค. 2562 พริษฐ์ ชิวารักษ์ ถูกโทรศัพท์มาหาด่าทอพร้อมข่มขู่ว่า "ทหารจะเล่นงานมึงเมื่อไหร่ก็ได้" จากการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ 

15. 'เพนกวิน' ถูกโทรมาข่มขู่ "จะไปชุมนุมที่ไหนเมื่อไหร่ จะได้ "ต้อนรับ" ถูก"

2 มิ.ย. 2562 พริษฐ์ ชิวารักษ์ ถูกโทรศัพท์มาหาด่าทอพร้อมข่มขู่ว่า "จะไปชุมนุมที่ไหนเมื่อไหร่ จะได้ "ต้อนรับ" ถูก"

16. 'จ่านิว' ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คนทำร้ายร่างกายหลังจัดกิจกรรมเรียกร้อง ส.ว. งดออกเสียงเลือกนายกฯ

2 มิ.ย. 2562 สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักกิจกรรมการเมืองขณะนั้นอายุ 27 ปี ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน สวมหมวกกันน็อค มีไม้เป็นอาวุธ ทำร้ายร่างกายที่ป้ายรถประจำทางซอยรัชดาภิเษกซอย 7 มีบาดแผลบริเวณศีรษะ และบริเวณริมฝีปากล่างด้านใน หลังจัดกิจกรรมเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) งดออกเสียงเลือกนายกฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

17. ‘จ่านิว’ ถูกรุมทำร้ายใช้ไม้เบสบอลตีจนบาดเจ็บสาหัสใกล้ที่พัก 

28 มิ.ย. 2562 จ่านิว ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ราว 4 คน สวมหมวกกันน็อคปกปิดใบหน้า เข้ารุมใช้ไม้เบสบอลตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าปากซอยพระยาสุเรนทร์ ใกล้บ้านพักย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ ก่อนคนร้ายขับขี่มอเตอร์ไซค์ 2 คันไม่ติดป้ายทะเบียนหลบหนีไป 

ภาพจากมติชน ออนไลน์

จ่านิวได้รับบาดเจ็บ คือ แผลฉีกขาด 2 แห่ง ที่คิ้วขวาและหนังศีรษะ จมูกบวม เลือดกำเดาออก ตาขวาบวม เลือดคั่งในเบ้าตาขวา รูม่านตาข้างขวาขยายโต ตาขวามองไม่เห็นภาพยังไม่ได้ 

ผลของการเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์สมองและกระดูกเบ้าตา พบว่าจมูกหัก กระดูกใบหน้าหัก กระดูกเบ้าตาข้างขวาแตก มีก้อนเลือดคั่งกดเส้นประสาทข้างขวา

สำหรับความคืบหน้าเรื่องการสืบสวน จ่านิว ได้เปิดเผยเมื่อปี 2563 ว่า ตำรวจมีนบุรี แจ้งว่าส่งสำนวนให้อัยการ และอัยการมีความเห็นว่า ‘เห็นควรให้งดการสอบสวน’ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่ชัดเจนว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร เนื่องจากกล้องวงจรปิดไม่เห็นหน้าตัวคนร้ายที่ชัดเจนเพียงพอในการออกหมายจับ และหลักฐานการไล่กล้องไม่สามารถทราบได้ว่าคนร้ายมีที่อยู่หรือหลบหนีอยู่ที่ได้ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวน แล้วมีหลักฐานบ่งชี้ได้ว่าผู้ใดกระทำผิดก็จะทำการออกหมายจับคนร้ายเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดในการทำร้ายจ่านิว เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้อยได้ แต่บีบีซีไทย เคยรายงานว่า เมื่อเดือน พ.ค. 2562 จ่านิว เคยออกมารณรงค์ รวบรวมรายชื่อผ่าน change.org เรียกร้องให้ ส.ว.งดออกเสียงในการยกมือเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิ.ย. 2562 โดยให้ผู้ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ออกเสียงเท่านั้น 

ข่าวรายงานล่าสุดเมื่อ 20 ก.พ. 2563 โดยสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ได้อัพเดทความคืบหน้าทางคดี โดยโพสต์หนังสือแจ้งความคืบหน้าการสอบสวนคดีอาญาลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Sirawith Seritiwat'

หนังสือระบุว่า ขณะนี้คดีนี้การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการมีความเห็น "เห็นควรให้งดการสอบสวน" เนื่องจากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นผู้ใด เนื่องจากสภาพกล้องวงจรปิดไม่เห็นหน้าคนร้ายชัดเจนเพียงพอในการออกหมายจับและหลักฐานการไล่กล้องไม่สามารถทราบได้ว่าคนร้ายมีที่อยู่หรือหลบหนีอยู่ที่ใด แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวน แล้วมีหลักฐานบ่งชี้ได้ว่า ผู้ใดกระทำผิดก็จะทำการออกหมายจับคนร้ายและดำเนินคดีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

18. ‘มอส’ นักกิจกรรมอิสระ ถูกกลุ่มปกป้องสถาบันชกหน้า หน้าร้านแมคฯ ราชดำเนิน

23 เม.ย. 2565 ‘มอส’ (สงวนชื่อ-นามสกุล) นักกิจกรรมอิสระ ถูกกลุ่มปกป้องสถาบัน ชกที่ใบหน้า เมื่อเวลา 23.45 น. ที่หน้าร้านอาหารแมคโดนัลด์ สาขาถนนราชดำเนิน ได้รับบาดเจ็บที่เปลือกตาด้านซ้าย หลังเจ้าตัวพยายามไปช่วยเหลือ ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพข่าว ที่ถูกกลุ่มปกป้องสถาบันทำร้ายร่างกายก่อนหน้านี้

เหตุสืบเนื่องจากประชาชนจากกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันราว 10 คนมาที่หน้าร้านแมคฯ เพื่อขอเจรจากับณัฐพล หลังจากกรณีที่ ‘กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน’ ถูกกล่าวหาว่าไปทำร้ายณัฐพล หลังทำข่าวทัวร์มูล่าผัว ‘มอส’ ที่ได้รับทราบข่าวดังกล่าว เขาและเพื่อนจึงเดินทางมาเพื่อช่วยสนับสนุนณัฐพล เพราะกังวลว่าช่างภาพข่าวอาจถูกทำร้าย

ระหว่างที่คุย สมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบันเกิดมีปากเสียงกับประชาชนที่มาสนับสนุนช่างภาพข่าว และมอส ได้ถูก ‘เบญภกรณ์ วิคะบำเพิง’ สมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน เข้ามาต่อยที่ใบหน้า ปรากฏเป็นบาดแผลเหนือเปลือกตาด้านซ้าย มอส ระบุว่าบาดแผลดังกล่าวอาจเกิดจากแหวนของผู้ต่อย 

ในเวลาไล่เลี่ยกัน สื่ออิสระชื่อว่า 'Political24' ได้รับลูกหลงถูกสมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันต่อยเข้าที่ศีรษะระหว่างทำหน้าที่ถ่ายทอดสดออนไลน์ จนกล้องมือถือร่วงลงไปกับพื้น แต่เจ้าตัวระบุว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ

"ทุกคนคงเห็น เมื่อกี้กล้องร่วงเลยด้วยซ้ำ เมื่อกี้ผมไลฟ์อยู่และเขาต่อยผม ไม่เห็นปลอกแขน (ผู้สื่อข่าว - สื่อมวลชน) มาซัดหน้าผมเลย แต่ผมไม่เป็นอะไร คืออะไร คนผมยาว ดูดิ" สื่ออิสระ Political24 กล่าวในไลฟ์สด เมื่อเวลาประมาณ 23.45 น.

ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่ถูกต่อยเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม ล่าสุดจากการสอบถาม มอส ถึงความคืบหน้าคดี ทางมอส ระบุว่า ศาลมีคำพิพากษาตัดสินแล้วเมื่อปี 2565 โดยผู้ที่ทำร้ายเขาถูกลงโทษจ่ายค่าปรับราว 5 พันบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

19. ‘มิ้นท์’ เปิด จม.ถูกขู่ฆ่า-คุกคามทางเพศนักกิจกรรมหญิง

22 ก.ย. 2565 เพจเฟซบุ๊ก ‘จอมไฟเย็น กษัตริย์นิยม’ โพสต์ข้อความ และภาพ กล่าวถึงประเด็นที่มีจดหมายข่มขู่เอาชีวิต และคุกคามทางเพศนักกิจกรรมหญิง มิ้นท์ สมาชิกนาดสินปฏิวัติ มีรายละเอียดโพสต์ดังนี้

โพสต์เผยว่า เมื่อ 3 ก.ย. 2565 น้องสาวของมิ้นท์ ได้รับจดหมายไม่จ่าหน้าซองหรือที่อยู่ ด้านในมีกระดาษ 2 แผ่น แผ่นหนึ่งเป็นภาพโป๊เปลือยกิจกรรมทางเพศแบบหมู่ที่คนร้ายปริ้นมาจากหนังโป๊ ข้อความว่า "ชะตากรรมมึงเตรียมตัวรอเลยที่รัก" และอีกแผ่นหนึ่งเป็นข้อความจดหมายข่มขู่คุกคามรุนแรง

ภายหลังมิ้นท์ ตัดสินใจโพสต์ข้อความ และภาพ ของจดหมายข่มขู่ต่อสาธารณะ เพื่อป้องกันตัวเอง และเป็นอุทธาหรณ์สำหรับเพื่อนนักกิจกรรมหญิงรายอื่นๆ ให้ระมัดระวังตัว รวมถึงประณามและตีแผ่ความเลวร้ายของผู้ที่ออกมาปกป้องสถาบันกษัตริย์ 

"ถึงอีมิ้นท์

นี่เป็นจดหมายมึงครั้งสุดท้ายนะมิ้นท์ ถ้ายังคงเคลื่อนไหวอยู่แบบนี้ ชะตากรรมมึงกูบอกเลยว่าจบไม่สวยเหมือนหน้ามึงแน่ กูจะให้คนsุมข่มขืuมึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่ามึงจะตาย กูจะย่ำยีศพมึง มึงรู้ไว้เถอะที่มึงไม่ติดคุกเพราะมึงจะโดนรวบยอดทีเดียวมึงรู้ไว้เถอะ มึงจะเป็นยิ่งกว่าสุรชัยอีก จะไม่มีใครเห็นศพมึง เป็นผีกูก็จะเอามึงลงหม้อไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด มึงจำเอาไว้"

สำหรับสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นักเคลื่อนไหวในประเทศไทยที่ลี้ภัยทางการเมืองไปยังประเทศลาว ในช่วงรัฐประหารโดย คสช. ปี 2557 ก่อนที่ข่าวคราวของเขาจะหายไปเมื่อปี 2561 และยังไม่มีใครพบศพของสุรชัย   

มิ้นท์ นาดสินปฏิวัติ เริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเมื่อปี 2564 และถูกแจ้งมาตรา 112 รวม 4 ข้อหา จากการปราศรัยในกิจกรรม 6 เมษาใครฆ่าพระเจ้าตากสิน จากการชูป้าย: ปฏิเสธอำนาจศาลของคู่กรณีในคดี 112 " อีก 3 ข้อหา โดยถูกแจ้งความจากกลุ่มที่อ้างตนเป็นฝ่ายปกป้องสถาบันฯ ชื่อ ศชอ. และศปปส.

โพสต์ระบุต่อว่า เธอได้รับการประกันตัวออกมา 2 รอบ และถูกร้องถอนประกันตัวมาอีก 2 รอบ หลังจากไม่ยุติการเคลื่อนไหว และตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขศาลที่ไม่ให้ออกนอกเคหสถาน 1 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า โดยตั้งแต่ถูกคดี 112 ทุกวันจะมีตำรวจสายสืบและนอกเครื่องแบบผู้ชายล้วนไม่ต่ำกว่า 4-5 คน คอยตามคุกคามสะกดรอยและถ่ายรูปทั้งที่บ้านและที่ชุมนุมทั้งเดินเท้า มอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ เพื่อกดดันทางจิตวิทยาให้เธอหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ก็แทบไม่มีผลใดๆที่จะทำให้เธอหยุดใช้เสรีภาพในการแสดงออกได้

โพสต์ระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ราว 4-5 เดือน เธอมักจะถูกเพจเฟซบุ๊ก ‘ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ.’ และกลุ่มปกป้องสถาบันอื่นๆ ข่มขู่ว่าจะทำทุกวิถีทางให้เธอหยุดเคลื่อนไหว ทั้งตระเวนแจ้งมาตรา 112 ในทุกกิจกรรมที่เธอไปร่วม

โพสต์ระบุ มิ้นท์เผยต่อว่ามีเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า ‘Nawapon Naja’ มาตามคอมเมนต์ใต้โพสต์ขู่ฆ่า และคุกคามทางเพศหลายครั้ง โดยมีการถ่ายภาพคอนโดมิเนียมที่พักอาศัย และมาโพสต์ข่มขู่ว่าตามเจอแล้ว “จะทำให้ตายอย่างทรมาน” และเอารายชื่อผู้ลี้ภัยที่ถูกอุ้มฆ่ามาขู่ว่าเธอจะเป็นรายต่อไป  

โพสต์ระบุต่อว่าเมื่อเธอถูกสายสืบนอกเครื่องแบบและอวตารเฟซบุ๊กติดตามคุกคามทุกวัน จึงถ่ายคลิปและแคปภาพเก็บหลักฐานไว้จำนวนมาก แต่ตำรวจก็มายึดมือถือไอโฟนของเธอไปทั้ง 2 เครื่อง โดยอ้างว่าใช้เป็นหลักฐานในคดี 112 ที่เล่นงานเธอ ทำให้หลักฐานหลายชิ้นสูญหายไป

20. ‘สายน้ำ’ ถูกกลุ่มปกป้องสถาบัน ต่อยคิ้วซ้ายแตก 

5 ธ.ค. 2565 บริเวณสนามหลวง ฝั่งศาลฎีกา ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. มีรายงานข่าวว่า ‘สายน้ำ’ นภสินธุ์  ตรีรยาภิวัฒน์ นักกิจกรรมเยาวชนอายุ 18 ปี อานนท์ กลิ่นแก้ว และสมาชิกกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. ต่อยเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บหางคิ้วแตกลึก เย็บ 11 เข็ม 

สายน้ำ ถูกต่อยที่สนามหลวง เมื่อ 5 ธ.ค. 2566

สายน้ำ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า วันนั้นเขาและเพื่อนอีก 3 คนเดินทางไปสนามหลวง โดยยังไม่ได้ไปทำกิจกรรมอะไร และตั้งใจไปแค่เดินเล่น แต่ระหว่างท่างได้มีการเดินสวนกับสมาชิกกลุ่มปกป้องสถาบัน และถูกชกที่บริเวณใบหน้าหลายครั้งโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไร จนมีบาดแผลบริเวณคิ้วซ้าย 

ทั้งนี้ สายน้ำ เดินทางไปแจ้งความ สน.ชนะสงคราม ต่อ อานนท์ กลิ่นแก้ว และพวก ในข้อหาทำร้ายร่างกายในวันเดียวกันกับวันเกิดเหตุ 

กระทั่งเมื่อ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญา อ่านคำพิพากษา อานนท์ กลิ่นแก้ว ชดใช้ค่าเสียหายให้นภสินธุ์ จำนวนประมาณ 25,000 บาท ปรับเงินจำนวน 5,000 บาท และไม่มีโทษจำคุก 

สายน้ำ ให้สัมภาษณ์ว่า จริงๆ แล้วแจ้งความคนอื่นๆ ด้วยนอกจากอานนท์ กลิ่นแก้ว โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และบางคนไลฟ์สดประกาศตัวว่าเป็นผู้ชกต่อยเขาจริง แต่ตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการจับกุม โดยสามารถระบุตัวได้เพียงอานนท์ กลิ่นแก้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสั่งฟ้องแยกเป็นรายคน และสายน้ำยังคงหวังว่าตำรวจจะสามารถดำเนินคดีได้ครบทุกคน

ทั้งนี้ สายน้ำ ระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้รับจดหมายข่มขู่จ่าหน้าซองถึงพ่อของเขา แต่นานมาแล้ว และก่อนหน้านี้ อานนท์ กลิ่นแก้ว เคยไลฟ์สดขู่คุกคามเขามาแล้วหลายครั้ง

สำหรับ ‘สายน้ำ’ เคยถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหา มาตรา 112 หลายคดี หนึ่งในนั้นมาจากการสวมเสื้อคร็อปท็อป และเขียนข้อความบนหลังว่า “พ่อกูชื่อมานะ…” ในกิจกรรมแคทวอล์คราษฎร เมื่อ 29 ต.ค. 2563 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

21. เหตุปะทะและรุมทำร้าย เวทีปราศรัยย่อย พปชร. ที่สวนหลวงพระราม 8 

เมื่อ 8 เม.ย. 2566 ที่สวนหลวงพระราม 8 ใต้สะพานพระราม 8 กลุ่มนักกิจกรรมอิสระเดินทางไปรณรงค์ทางการเมืองที่เวทีปราศรัยย่อย ฝั่งธนบุรีเหนือ ของพรรคพลังประชารัฐ และต้องการเรียกร้องขอเข้าพบกับชัยวุฒิ นักการเมืองจากพรรคพลังประชารัฐ ต่อกรณีเคยกล่าวในรายการดีเบตเลือกตั้งว่า มาตรา 112 ไม่ใช่กฎหมายที่มีปัญหา และไม่ใช่คดีการเมือง

เบนซ์ ถูกรุมทำร้ายจากการไปรณรงค์สิทธิประกันตัวของผู้ต้องหาทางการเมือง เมื่อ 8 เม.ย. 2566

ขณะที่กลุ่มนักกิจกรรมกำลังเดินเข้าไปพื้นที่เวทีปราศรัย ได้ถูกการ์ตั้งแนวรั้วเหล็กสกัดไม่ให้เข้าไปทำกิจกรรม จนภายหลัง นักกิจกรรมพยายามจะฝ่าเข้าไปและเกิดเหตุชุลมุนชกต่อยกันระหว่างนักกิจกรรมและการ์ดของเวทีจนได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย และนักกิจกรรมถูกการ์ดและวัยรุ่นผู้มาฟังปราศรัยผลักดันออกจากพื้นที่เวที

อย่างไรก็ตาม ขณะที่นักกิจกรรมถอยร่นออกมา ‘เบนซ์’ นักกิจกรรมอิสระได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นวิ่งไล่ไปที่ด้านหน้าทางเข้าสวนฯ และถูกกลุ่มวัยรุ่นอย่างน้อย 4 รายรุมกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ 

สำหรับความคืบหน้าคดี เบนซ์ เดินทางไปร้องทุกข์กล่าวโทษจากการถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายที่ สน.บางยี่ขัน ในวันเดียวกับวันเกิดเหตุ ส่วนรายละเอียดของคดี เจ้าตัวยังไม่ขอเปิดเผย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

22. ‘หยก’ เยาวชนอายุ 15 ปี ถูกขู่ฆ่า หากไม่ยอมรับกระบวนการศาลคดีมาตรา 112

เมื่อ 10 เม.ย. 2566 เวลาประมาณ 10.30 น. อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน ได้ไลฟ์สดบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ระหว่างเดินทางไปศาลอาญา รัชดาฯ กล่าวด้วยถ้อยคำหยาบคาย เป็นเวลากว่า 10 นาทีของการไลฟ์สด ขู่ว่าจะเอาผิด ‘หยก’ ธนลภย์ (สงวนนามสกุล) เยาวชนอายุ 15 ปี ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เพิ่ม หากตรวจสอบพบว่า ‘หยก’ และบุคคลที่ชื่อ ‘สหายนอนน้อย’ เป็นบุคคลคนเดียวกัน และมีการขู่ฆ่า ‘หยก’ หากไม่ยอมรับกระบวนการศาลคดีมาตรา 112 "กูจะฆ่ามึง มึงก็อย่าไปแจ้งความสิ กูกระทืบมึงอย่าไปแจ้งความดิอีเหี้ย เลวจริงๆ" 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

23. ‘เวหา’ ถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กตีจนแขนหักละแวกที่พักยามวิกาล

13 เม.ย. 2566 ช่วงวันหยุดสงกรานต์ เมื่อเวลา 20.25 น. เวหา แสนชนชนะศึก นักกิจกรรม และผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 และเพื่อนอีกราย ระหว่างเดินกลับจากการซื้อข้าวใกล้ที่พักย่านจังหวัดนนทบุรี ได้ถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กทุบเวหา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนซ้ายหัก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายจุด

ผู้ทำร้ายร่างกาย 'เวหา' ชื่อ อำนวย หอมชื่นใจ ภายหลังตำรวจสามารถจับกุมได้แล้ว

เวหา เข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง เมื่อ 14 เม.ย. 2566 เวลา 15.00 น. และตำรวจออกหมายจับและสามารถจับกุมคนร้ายได้ในวันที่ 15 เม.ย. หรือใช้เวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น คนร้ายผู้ก่อเหตุภายหลังทราบชื่อว่า คนร้ายชื่อ อำนวย หอมชื่นใจ ชายวัย 40 ปี โดยอำนวย ได้รับสารภาพข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ภายหลังได้รับการประกันตัวที่ สภ.

นอกจากนี้ อำนวย ได้ให้การซักทอดอีก 2 คน คือ ธวัชชัย แปงใจ ชายอายุ 24 ปี และอีกคนหนึ่ง สำหรับธวัชชัย ได้เข้ามอบตัวเมื่อ 15 เม.ย. 2566 โดยไม่มีหมายจับ และได้ให้การยอมรับสารภาพข้อหาความผิดเดียวกับอำนวย 

เมื่อ 17 เม.ย. 2566 ตำรวจได้ควบคุมตัวธวัชชัย มาขออนุญาตฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อ 11.00 น. ก่อนได้รับการประกันตัวโดยวางเงิน 100,000 บาท และมีนัดฟังคำสั่งฟ้องอีกครั้ง 6 มิ.ย.นี้ 

สำหรับอีกคนที่อำนวยซักทอด ตำรวจกำลังสืบสวนเพื่อจับกุมและดำเนินคดีต่อไป 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

หมายเหตุ - มีการปรับแก้เนื้อหาเมื่อ 28 เม.ย. 2566 เวลาประมาณ 17.01 น. 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท