ศาลเชียงใหม่ยกฟ้องคดี ม.112  ‘รามิล’ นศ.มช. เหตุใช้เท้าชี้ไปที่รูป ร.10 ระหว่างแสดง Performance art โดยศาลระบุว่า หลักฐานชี้ไม่ได้ว่าเป็นการอาฆาตมาดร้าย ดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาท

8 พ.ค. 2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงาน วันนี้ (8 พ.ค.) ว่า ศาลจังหวัดเชียงใหม่ตัดสินยกฟ้อง รามิล- ศิวัญชลี วิธญเสรีวัฒน์  นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสมาชิกกลุ่ม artn’t คดี ม.112 จากกรณีแสดง Performance art ที่หน้าป้ายมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2564 โดยเขาถูกกล่าวหาว่าเคลื่อนไหวท่าทางต่างๆ เช่น ท่าครุฑ และนอนหงายพร้อมใช้เท้าชี้ไปทางพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10

หลักฐานชี้ไม่ได้ว่าอาฆาตมาดร้าย

หมิ่นใครต้องระบุตัวบุคคลแน่นอน

เว็บไซต์ศูนย์ทนายฯ รายงานเพิ่มเติมระบุว่า ศาลเห็นว่าพยานโจทก์ไม่มีปากใดที่ชี้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการอาฆาตมาดร้าย ส่วนการหมิ่นประมาทนั้นจะต้องมีการใส่ความด้วยการชี้ยืนยันข้อเท็จจริงบางประการ ส่วนการดูหมิ่นก็ต้องระบุตัวบุคคลให้รู้ได้แน่นอนว่าเป็นใคร 

พยานหลักฐานโจทก์จึงยังชี้ไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำอาฆาตมาดร้าย ดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาท อีกทั้งการแสดงของจำเลยไม่ได้เจาะจงตัวบุคคล ประกอบกับป้ายหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นสถานที่ชุมนุมอยู่เป็นประจำ การแสดงกิจกรรมดังกล่าวก็เรียกร้องเรื่องสิทธิการประกันตัว 

เมื่อไม่มีพยานโจทก์ที่เบิกความยืนยันว่าจำเลยจงใจกระทำต่อพระบรมฉายาลักษณ์และข้อความ “ทรงพระเจริญ” ส่วนการเข้าร่วมการชุมนุมของจำเลยก็ไม่ใช่เครื่องยืนยันการกระทำความผิดของจำเลยในคดีนี้

อีกทั้งพยานโจทก์ได้เบิกความถึงคลิปวิดีโอภาพเคลื่อนไหวซึ่งเป็นพยานหลักฐานในคดี แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีการนำส่งเข้ามาในการพิจารณาคดีนี้ จึงทำให้พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัย พิพากษายกฟ้องจำเลย