‘เศรษฐา’ มั่นใจ“เพื่อไทย” ชนะเลือกตั้ง ชี้ ยังนำอยู่ บอก “พิธา”-“ก้าวไกล” ยังไม่ได้ต่อสายมา ไม่รู้ธรรมเนียมใครต้องต่อสายใครก่อน ยัน ยังยิ้มแย้มแจ่มใสได้อยู่

14 พ.ค.2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (14 พ.ค.) เวลา 21.10 น.ที่พรรคเพื่อไทย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย แกนนำพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งหลัง กกต. นับคะแนนไปได้ 26% แล้วได้คุยกับพรรคก้าวไกลแล้วหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้คุยกับทางพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังไม่ได้ต่อสายมา ซึ่งอย่างไรก็ตามต้องขอคุยกับฝ่ายประชาธิปไตยที่ร่วมอุดมการณ์ด้วยกันมาก่อน

เมื่อถามว่า ตามธรรมเนียมใครต้องติดต่อใครก่อน เศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะตนเองก็หน้าใหม่ทางการเมือง 

เมื่อถามว่า ผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคก้าวไกลนำอยู่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ใช่ก้าวไกลนำ ผมนำอยู่ และผมมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยยังชนะการเลือกตั้ง

เมื่อถามถึงความกังวลเกี่ยวกับการนับคะแนนเลือกตั้ง อย่างจ.ฉะเชิงเทราเขต 3 ที่คะแนนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรยังส่งมาไม่ถึง ทำให้ กกต. ตีเป็นบัตรเสีย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เหตุของการยกเลิกผลการเลือกตั้งต้องมีเหตุผลเพียงพอ ผลการนับคะแนนบางจุดที่ไม่มีผลต่อคะแนนโดยรวมส่วนใหญ่แล้วจะไม่นำมาพิจารณา 

เมื่อถามว่า กังวลเรื่องกลโกงหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องการโกงคะแนนระหว่างนับคะแนนนั้น เรามีข้อห่วงใยอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เราจึงมีผู้สังเกตการณ์ที่จะไปเฝ้าดู 

เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้มีเรื่องอะไรที่ห่วงที่สุดเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี

เมื่อถามว่า ตอนนี้พรรครัฐบาลเดิมยังไม่มีพรรคไหนยอมรับความพ่ายแพ้ กังวลเรื่องการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะไม่มีความชอบธรรม 

เมื่อถามว่า ตอนนี่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เป็นอย่างไรบ้าง เศรษฐา กล่าวว่า สบายดี ทำหน้าที่แม่อยู่ รอลุ้นอยู่ ไม่ได้ไปไหน  ทั้งนี้ ที่พวกลงมาทักทาย เพราะคะแนนมาช้า กลัวสื่อมวลชนกังวลว่าเราหายไปไหน

เมื่อถามว่า ตอนนี่ยังไม่ผิดหวังผลคะแนนที่ออกมาใช่หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ ตอนนี้คะแนนเรายังนำอยู่ ไม่มีใจเสีย สู้ตลอด

เมื่อถามถึงคะแนนในส่วนของ กทม. เศรษฐา กล่าวว่า “ยอมรับว่า กทม.ใจเสียแน่นอน กรุงเทพฯผิดหวังครับ ทั้งนี้ แปลกใจนิดหน่อย”

เมื่อถามว่า ไม่แลนด์สไลด์ใจเสียหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ครับ ยังยิ้มแย้มแจ่มใสได้อยู่”