ส.ว.วันชัย เผยว่ากรณีโหวตเลือกนายกฯ ตอนนี้ส.ว.มีกลุ่มที่ตัดสินใจแล้วว่าจะโหวตหรืองดออกเสียง กับกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ส่วนตัวเองตัดสินใจจะโหวตให้คนที่รวมเสียงข้างมากมาได้ตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก

23 พ.ค.2566 หลายสื่อเช่นไทยพีบีเอสและแนวหน้ารายงานถึงารให้สัมภาษณ์ของวันชัย สอนศิริ วุฒิสมาชิก ถึงแนวโน้มการโหวตเลือก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากที่เมื่อวานนี้มีการประกาศการทำข้อตกลงร่วมกัน (MOU) กับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล

วันชัยระบุว่ายังมีเวลาอีก 2 เดือน ส่วนตอนนี้ ส.ว.ยังไม่ได้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการ มีเพียงกการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันเท่านั้น แต่เท่าที่ตนรู้ตอนนี้ ส.ว.มีอยู่ 3 แนวทางคือ กลุ่มที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกหรือไม่เลือกแต่มีจำนวนไม่มากนัก กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจขอเวลาคิดก่อน กับกลุ่มที่จะตัดสินใจในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเลย ซึ่งสองกลุ่มหลังนี้มีเป็นจำนวนมากเพราะหากตัดสินใจในวันนี้เลยไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรจึงสงวนท่าที แต่แนวทางในการโหวตก็จะมีทั้งเลือกและไม่เลือก รวมถึงงดออกเสียงแต่แนวทางใดจะเป็นส่วนมากยังไม่สามารถบอกได้

วันชัยกล่าวอีกว่าสำหรับตัวเขาเองยืนยันตามจุดยืนเดิมคือจะโหวตให้คนที่รวมเสียงข้างมากมาได้แล้วเขาเสนอใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีตนก็จะโหวตให้กับคนนั้น

วันชัยตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่าทางพรรคก้าวไกลได้เข้ามาทำความเข้าใจกับ ส.ว.แล้วหรือไม่ สำหรับเขาเองยังไม่ได้รับการประสานใดๆ มา แต่เท่าที่เขาทราบก็มีการติดต่อหา ส.ว.บางคนแต่ยังไม่เป็นทางการ ส่วนเรื่องที่ใน MOU ไม่มีเรื่องมาตรา 112 จะเป็นเงื่อนไขให้เลือกพิธาหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของ ส.ว.แต่ละคนจะแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวเขาเองเห็น MOU แล้วเฉยๆ ไม่ได้ติดใจอะไร

นอกจากนั้นวันชัยยังแสดงความเห็นต่อการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในเย็นวันนี้ด้วยว่า ส.ว.กับรับฟังและคงไม่มีส.ว.ที่จะปฏิเสธเสียงของพี่น้องประชาชน จึงเชื่อว่าทุกเรื่องทุกประเด็นสามารนำมาประกอบการตัดสิใจได้ทั้งสิ้น ไม่ได้มองเป็นศัตรูคู่อาฆาต หรือไม่ได้มองว่าจะเป็นเหตุให้โหวตหรือไม่โหวตให้ เพราะการชุมนุมเป็นการแสดงออกในระบอบ แต่สถานการณ์นี้การเจรจาและการพูดคุยหารือกันด้วยไมตรีที่จะเป็นประโยชน์กว่า

ส.ว.กิตติศักดิ์ยันไม่โหวตให้ “พิธา”

เดลินิวส์ รายงานถึงการให้สัมภาษณ์ของ กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ วุฒิสมาชิกด้วยว่า เขายืนยันที่จะไม่โหวตให้พิธาเหมือนเดิมเพราะถึงแม้ว่าเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 จะไม่อยู่ใน MOU แต่พิธาก็ยังยืนยันที่จะเสนอเรื่องนี่ต่อสภา และเรื่องการแก้ไขกฎหมายมาตรานี้ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งและนำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้งและการเข่นฆ่ากันจึงไม่สมควรให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนเรื่องการชุมนุมของแนวร่วม มธ.ฯ กิตติศักดิ์กล่าวถึงประเด็นนี้เบื้องต้นกลุ่มนี้มาด้วยมิตรไมตรีเพื่อแจ้งให้ ส.ว.รับทราบความต้องการ ซึ่งเขาเป็นว่าเป็นสีสันของประชาธิปไตยในการที่จะเห็นต่างจึงไม่ใช่ปัญหา ถ้าพูดจากันดีๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้ามาจะมาข่มขู่กดดันก็ไม่มีผล