ศปปส.ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ให้หยุดแทรกแซงกิจการภายในของไทย ทั้งเรื่องที่มี ส.ส.สหรัฐฯ เสนอให้แก้มาตรา 112 ปล่อยนักโทษการเมือง อานนท์ย้ำคนโดนคดีม.112 ไม่ใช่นักโทษการเมืองและพวกตนไปแจ้งความตามหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ

24 พ.ค.2566 เวลา 11.00 น. ที่หน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน พร้อมกระทิงแดงไทยพิทักษ์ กลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงิน เดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐยุติการแทรกแซงการเมืองไทย โดยจะมีการยื่นหนังสือในเวลา 13.00 น. 

กัลยาณี จูปรางค์ หรือ ป้าอยุธยา ปราศรัยว่า วันนี้ต้องการมายืนยันเจตนารมย์ไม่ให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย อย่าแตะต้องสถาบัน พวกตนพร้อมลงถนนเพื่อคัดค้านการแตะต้อง ม.112 อย่าอ้างเสียงส่วนมากที่เลือกมา 14 ล้านเสียง หากแตะ ม.112 พวกตนพร้อมออกมาทั่วประเทศ

สนธิญา สวัสดี ปราศรัยว่า ตนไม่ได้มาในฐานะแกนนำแต่มาในฐานะนักวิชาการ และได้กล่าวถึงประเด็นที่สหรัฐฯ ไม่ขายเครื่องบินขับไล่รุ่น F-35 ให้ไทยก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ประเทศไทยจะใช้เรือหางยาวไปรบ เอาหนังกะติ๊กไปยิง พร้อมทั้งกล่าวว่า ตนทราบข่าวว่ามีเอกอัครราชทูตท่านหนึ่งได้เรียกตัวแทนพรรคการเมือง 4 พรรคเข้าไปคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล เรื่องนี้ทำให้พี่น้องคนไทยไม่สบายใจ เราไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเกี่ยวในกิจการของประเทศไทย และเขาจะไม่ยินยอมให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศไทย ที่ผ่านมาเขาเองยังเคยร้องให้สอบ กลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยด้วยข้อหามาตรา 112 จากการที่เขาแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันกษัตริย์ของไทย

นพคุณ ทองถิ่น

นพคุณ ทองถิ่น รองประธาน ศปปส. อ่านแถลงการณ์ถึงเอกอัครสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ระบุว่า จากกรณีที่ซูซาน ไวลด์ ส.ส.สหรัฐ ได้เสนอร่างมติสภาผู้แทนราษฎร 369 (H.Res. 369) เข้าที่ประชุม เรียกร้องให้รัฐบาลไทยทำตามข้อเสนอ 10 ข้อ 

 ⁃ ในข้อที่ 5 เรียกร้องให้ไทยปล่อยนักโทษการเมือง- ยุติคดีการเมือง
 ⁃ และข้อ 8 เรียกร้องให้ไทยแก้ ม.112 พรบ.คอม และการยุยงปลุกปั่น

"จากร่างมติดังกล่าวเป็นการบิดเบือนสถาบัน ต่อต้าน ล้มล้างการปกครอง ซึ่งม็อบดังกล่าวมิดอได้จัดกิจกรรมอย่างสงบสุขดังที่นางซูซานกล่าวอ้าง

อานนท์ กลิ่นแก้ว

13.00 น. อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส.เข้ายื่นหนังสือต่อเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ  โดยสถานทูตฯ ได้ให้เอกสารคำชี้แจงแก่สื่อมวลชนระบุว่า สหรัฐฯ เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และไม่ได้หวังให้ผลการเลือกตั้งออกมาเป็นแบบใดแบบหนึ่ง รวมถึงไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใดเป็นการเฉพาะ

ประธาน ศปปส.กล่าวถึงการมายื่นหนังสือครั้งนี้ว่าทางกลุ่มไม่พอใจกรณีซูซาน ไวลด์ เสนอร่างมติ ดังกล่าวที่มีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทยให้แก้กฎหมายมาตรา 112 และเรื่องให้ปล่อยนักโทษทางการเมือง แต่เขายืนยันว่าคนที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ไม่ใช่นักโทษทางการเมืองแต่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงไม่ใช่เรื่องการเมือง

อานนท์กล่าวว่าที่บอกว่าเป็นกฎหมายที่ใครไปแจ้งความดำเนินคดีก็ได้นั้นไม่จริงเพราะเขาทำตามหน้าที่ของคนไทยในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ตามมาตรา 50(1) รัฐธรรมนูญ และทางกลุ่มเองก็ไม่ได้เป็นผู้ฟ้องไม่ใช่คู่กรณี แต่เป็นผู้ที่เห็นการกระทำความผิดก็ไปแจ้งกับตำรวจว่าพฤติการณ์ที่พวกเขาพบนั้นเป็นความผิดหรือไม่ แล้วตำรวจก็ใช้คณะกรรมการพิจารณาว่าผิดหรือไม่ก่อนดำเนินการต่อ ส่งให้อัยการและศาลก็เป็นผู้ตัดสินว่าบุคคลกระทำความผิดหรือไม่

อานนท์ยืนยันว่ากฎหมายไม่ได้มีความคลุมเครือและสังคมก็ต้องมีกฎระเบียบ กฎหมายก็คือกฎหมายที่ออกมาให้คนไทยอยู่ภายใต้ระเบียบไม่อย่างนั้นประเทศก็วุ่นวายถ้าไม่เคารพกฎหมายกัน กฎหมายอยู่ในกระดาษไม่ได้ไปรุกรานบ้านใคร ถ้าไม่มีใครไปละเมิดหรืออาฆาดมาดร้ายกฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้

มีผู้สื่อข่าวถามอานนท์ถึงเรื่องถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลจะเสนอแก้ไขมาตรา 112 ว่าทางกลุ่มจะทำอย่างไร อานนท์ตอบว่าเขาคงตอบแทนคนห้าสิบกว่าล้านคนไม่ได้ แต่เขาในฐานะตัวแทนของ ศปปส. ยืนยันจะคัดค้านจนถึงที่สุดและพรรคจะไม่มีทางเกิดได้ถ้ายังยุ่งกับมาตรานี้

มีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งถามถึงกรณีการเคลื่อนไหวของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ที่มี “กิริยาไม่เหมาะสม” ว่าอานนท์คิดว่าควรทำอย่างไร เขาตอบว่าถ้าเจ้าหน้าที่รัฐยังทำอะไรไม่ได้เขาที่เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่สามารถที่จะออกความเห็นกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐต้องรีบดำเนินการขั้นเด็ดขาดจะดีกว่า เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้โดนแค่คดีเดียวแต่ยังมีคดีซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งทาง ศปปส.เห็นว่าควรให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ

อานนท์ตอบกรณีที่ทาง ศปปส. ประกาศให้ป้าลักษณ์ออกจากกลุ่มเนื่องจากมีการแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับแนวทางของกลุ่มว่า ป้าลักษณ์เป็นสมาชิกของฝ่ายปกป้องคนหนึ่งแต่ที่ไม่อยากให้เป็นประเด็นเพราะก็ยังมีสมาชิกคนอื่นๆ เหมือนกันที่เข้าออกกลุ่มอยู่ แต่ที่โพสต์เพื่อป้องกันเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกับกลุ่มที่ทำเรื่องปกป้องสถาบันกษัตริย์และกลุ่มก็คัดค้านและไม่สนับสนุนพรรคการเมืองสีส้ม

“แต่การพูดการจาของป้าลักษณ์เป็นคนไม่พูดจาให้ร้ายใครไม่เคยคิดร้ายกับใครแต่เมื่อแกพูดแล้วเราเตือนแก แกไม่ฟังก็ปลดไปก่อนจากสมาชิก ศปปส. เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรเดี๋ยวก็ดีกัน (ป้าลักษณ์จะกลับเข้ามาในกลุ่มมั้ย?) เดี๋ยวก็มาเพราะว่าพี่น้องพรรคพวกเขาอยู่ในกลุ่มเยอะแยะไปหมด แต่การทำแบบนั้นเราทำโทษแกเท่านั้นเอง” อานนท์กล่าวถึงการขับไล่ป้าลักษณ์ออกจากกลุ่มเพราะพฤติกรรมที่ทาง ศปปส.ระบุว่ามีการสนับสนุนพรรคก้าวไกลและพวก 3 กีบล้มเจ้าของป้าลักษณ์แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการไปดีเบตกับป้าเป้า

ภายหลังจากทางกลุ่มยื่นหนังสือเสร็จสิ้นในเวลา 13.17 มวลชนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นจึงยุติกิจกรรม