Skip to main content
sharethis

'ศิริกัญญา' แถลงความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันความจำเป็นที่ก้าวไกลต้องมีตำแหน่งประธานสภา ผลักดัน 3 วาระ ได้แก่ ดันกฎหมายของพรรค แก้ไขรัฐธรรมนูญ และทำให้รัฐสภาโปร่งใส เชื่อมั่น 'เพื่อไทย' ไม่ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

 

25 พ.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก 'พรรคก้าวไกล' ถ่ายทอดสดวันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่สำนักงานพรรคก้าวไกล ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้รับมอบหมายแถลงข่าวความคืบหน้าเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ตำแหน่งประธานสภา และแจงข้อสงสัยนโยบายก้าวไกลโดยเฉพาะเรื่องกัญชาเสรี

สำหรับความคืบหน้าเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากวันที่ 22 พ.ค. 2566 มีการเซ็นข้อตกลงร่วม (MOU) ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ศิริกัญญา เผยว่า สมาชิกวุฒิสภามีความเข้าใจมากขึ้น และยอมรับในการยกมือโหวตให้กับพิธา เป็นนายกฯ มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ทางพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเดินหน้าเจรจากับวุฒิสมาชิก เป็นรายบุคคลอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะยืนยันว่าจะได้เสียงสนับสนุนให้ครบ และเชื่อมั่นว่าจะได้เสียงมากพอที่จะโหวตให้คุณพิธา เป็นนายกฯ 

ต่อกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ยืนยันที่จะเป็นประธานสภา ไว้กับพรรคก้าวไกล นอกเหนือที่จะต้องใช้อำนาจบริหารแล้ว แต่พรรคก้าวไกลยังมีอีก 3 วาระ จำเป็นที่จะต้องใด้ตำแหน่งประมุขในฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อให้มีการผลักดันกฎหมาย 45 ฉบับของพรรค เพื่อให้ได้ทำตามที่ได้หาเสียงเอาไว้ หรือกฎหมายของพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เสนอโดยประชาชน จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว 

“ที่ผ่านมา 4 ปี เราน่าจะเห็นแล้วว่า ตำแหน่งของประธานสภามีความสำคัญมากแค่ไหนในการอำนวยความสะดวก หรือขัดขวาง การออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชน เราจึงจำเป็นว่าที่จะต้องมีตรงนี้” ศิริกัญญา กล่าว 

ประเด็นต่อมา เพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เดินหน้าอย่างราบรื่น เพราะว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะเป็นการเปิดทางเพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะมาจากการร่างของสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นวาระร่วมของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นร่วมตรงกัน และถูกบรรจุใน MOU ของพรรคร่วม ถ้าจะทำภารกิจนี้ในลุล่วง จะต้องมีการประชุมรัฐสภาอีกหลายครั้ง จำเป็นต้องมีประธานรัฐสภาที่มีเจตจำนงอย่างแน่วแน่ให้มีการแก้ไขรัญธรรมนูญ จึงจะสามารถทำภารกิจนี้ให้ลุล่วงได้ 

ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมาคือการทำรัฐสภาที่โปร่งใส และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยจะมีการผลักดันการถ่ายทอดสดการประชุมในชั้นกรรมธิการ (กมธ.) และอนุกรรมาธิการ และส่งเสริมงบประมาณการทำงานรัฐสภา หรือว่า PBO ซึ่งจะเป็นแขนขาที่สำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติในการตรวจสอบงบฯ ของรัฐบาล และก็ต่อมา สภาเยาวชน ซึ่งเป็นนโยบายหนึ่งของพรรคก้าวไกลที่จะมีการจัดตั้งสภาเยาวชน เพื่อรับฟังเสียงของเยาวชน ซึ่งอาจจะยังไม่มีสิทธิในการเลือกตั้งปัจจุบัน แต่เสียงของพวกเขาก็ยังมีความสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องจัดตั้ง และก็มีที่ทางเพื่อให้เขามีที่ทางเพื่อที่จะได้แสดงออก เพื่อที่สภาเยาวชน จะขึ้นตรงกับสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร

ศิริกัญญา ตอบคำถามสื่อมวลชนด้วยว่า มั่นใจพรรคเพื่อไทย จะอยู่ร่วมกับพรรครัฐบาลต่อ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภา หรือไม่ก็ตาม

"ตอนนี้เราไม่มีความเชื่อใดๆ พรรคเพื่อไทย จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ ที่ได้มีการพูดคุยกันในหลายๆ ครั้ง การแถลงข่าวการร่วมมือกัน ได้มีการลงนามใน MOU เรียบร้อยไปแล้ว ดิฉันมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทย จะไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้" รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ

ส่วนกรณีอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้ฝ่ายบริหารแล้ว ไม่ควรกินรวบ ศิริกัญญา กล่าวยังยืนยันว่า เราจะยึดตัววาระและตัวนโยบายเป็นหลักในเรื่องของการเจรจาต่อรอง คงจะต้องไปพูดคุยในรายละเอียดว่าได้ฝ่ายบริหารไปแล้ว ใครได้กระทรวงไหนอย่างไร 

"ในเรื่องของการที่พรรคที่มีจำนวน ส.ส. มากเป็นอันดับหนึ่ง จะขอตำแหน่งประธานสภา เพื่อเป็นประมุขในฝ่ายนิติบัญญัติด้วย ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแผกอะไร และเราก็มีวาระที่จะขับเคลื่อนในตำแหน่งในฐานะที่มีตำแหน่งประธานสภาอย่างไร คงต้องพูดคุยกันว่าวาระเหล่านี้จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร" รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

เมื่อถามว่ามีการวางตัวตำแหน่งประธานสภาฯ ไว้แล้วว่าต้องเป็นใครหรือไม่ เนื่องจากหลายคนคาดการณ์ว่าเป็น 'ณัฐวุฒิ บัวประทุม' รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย 

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุมีการพูดคุยกัน แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะส่งใครลงชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ในพรรคก้าวไกลก็มี ส.ส. หลายท่านที่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนี้ ไม่ใช่แต่เรื่องของการควบคุมการประชุมอย่างเดียว ยังมีประเด็นในเรื่องของการขับเคลื่อนฟื้นฟูประชาธิปไตยในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ในฐานะที่ได้ดูแลสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเช่นเดียวกัน

เมื่อถามต่อไปว่ามั่นใจว่ามีความสามารถในการควบคุมสภาได้หรือไม่ เนื่องจากมีการมองว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล เป็น ส.ส.ใหม่ อายุไม่มาก ศิริกัญญา ระบุต้องยืนยันว่าในอดีตก็มีประธานสภาฯ ที่มีอายุน้อยหลายท่าน แต่คิดว่าตรงนี้ไม่ใช่ประเด็น เราจำเป็นที่จะต้องให้โอกาสที่จะต้องเข้ามาทำ การเปลี่ยนแปลงมันจะเกิดขึ้นยากถ้ายังคงยึดติดในประเด็นเรื่องของความอาวุโสของประสบการณ์มากเกินไป 

เมื่อถามว่ามีการแทงข้างหลังกันจริงหรือไม่ ศิริกัญญา ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง 

"ยืนยันข้อความที่ระบุไว้ใน MOU ว่าเราต้องซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน ดังนั้น ปรากฏการณ์แทงข้างหลังจะไม่มีทางปรากฏขึ้นแน่นอนจากทางฝั่งพรรคก้าวไกล" ศิริกัญญา กล่าว

ส่วนที่อดิศร เสนอว่าให้เปิดเป็นฟรีโหวตในสภา ศิริกัญญา กล่าวว่ายังไม่ไปถึงขั้นนั้น เราคาดว่าน่าจะได้ข้อยุติกันก่อนที่จะไปถึงขั้นที่จะให้ฟรีโหวต

เมื่อถามว่าสาเหตุที่พรรคก้าวไกลต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะไม่ไว้ใจว่าพรรคเพื่อไทยจะตั้งรัฐบาลแข่งหรือไม่ ศิริกัญญา ยืนยันว่า ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ว่าจะมีการเสนอชื่อคนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อแข่งกันตั้งรัฐบาล เพราะเชื่อใจพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มที่ว่าจะร่วมหัวจมท้ายไปกับพรรคก้าวไกล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net