Skip to main content
sharethis

'พีมูฟ' ยื่นหนังสือถึง 'ก้าวไกล' ยืนยันหนุนพรรคก้าวไกลร่วมกับ 7 พรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทลายอำนาจรัฐเผด็จการ พร้อมแถลงการณ์ 3 ข้อ หวังเห็นนโยบายภาคประชาชนถูกบรรจุเข้าสภา 

5 มิ.ย. 2566 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ นำโดย นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริหารพีมูฟ ยื่นหนังสือถึงพรรคก้าวไกล พร้อมอ่านแถลงการณ์สนับสนุนพรรคการเมืองเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนายธวัชชัย ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนรับหนังสือ

นายจำนงค์ เปิดเผยว่า พีมูฟ ได้มาติดตามขอเสนอเชิงนโยบายที่เคยยื่นให้กับพรรคการเมืองก่อนเลือกตั้ง ซึ่งในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล อยากเห็นว่า นโยบายของพีมูฟที่เสนอกับพรรคก้าวไกล ถูกบรรจุไปในนโยบายของพรรคมากน้อยแค่ไหน และเรามาเพื่ออยากเจอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลอีกด้วย จากนั้นกลุ่มพีมูฟ ได้อ่านแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืน และข้อเรียกร้องต่อสถานการณ์ทางการเมือง

ด้าน นายชัยธวัช ระบุว่าพรรคก้าวไกลรับข้อเสนอนโยบายของพีมูฟ ซึ่งเป็นอีกทิศทางหนึ่งของพรรคก้าวไกลที่สะท้อนผ่าน MOU จัดตั้งรัฐบาล และนโยบายกว่า 300 ข้อของพรรค การมาติดตามของพีมูฟครั้งนี้เหมือนมาตรวจการบ้านที่เคยมอบไว้ให้กับพรรค

"ความคิดเห็นของพีมูฟ สะท้อนความรู้สึกของประชาชนจำนวนมากหลังเลือกตั้ง อยากจะเห็นความชัดเจนทางการเมือง จึงไม่อยากให้มีปัญหาในการบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนหลังเลือกตั้ง นี่คือ ประชาธิปไตยที่สามารถยุติความเห็นต่างแบบสันติวิธี และประชาชนก็รอคอยรัฐบาลชุดใหม่ มาแก้ไขปัญหาที่รัฐบาลชุดเดิมได้สร้างไว้ โดยเฉพาะคนยากคนจนที่เผชิญปัญหา พรรคก้าวไกลจะทำเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อผลักดันนโยบายสร้างความเป็นธรรมต่อสังคม คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรม" ชัยธวัช ระบุ

ทั้งนี้ใน เพจของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม P-move ได้ระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2566 เป็นเวลากว่า 20 วันแล้วที่มีประชาชนกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ได้ออกมาร่วมใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป ร่วมใจกันกำหนดประเทศไทยด้วยวิถีทางแห่งประชาธิปไตย จนเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ตอนนี้ พรรคก้าวไกล คือ พรรคการเมืองที่ได้เสียงการเลือกตั้งของประชาชนมากที่สุด มากกว่า 14 ล้านเสียง โดยมีว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 151 คน และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้รับการสนับสนุนจาก 8 พรรคการเมืองให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร่วมจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากเสียงประชาชนกว่า 24 ล้านเสียง เกิน 50% ของผู้มาเลือกตั้งทั้งหมด จนนำมาซึ่งเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล และทั้ง 8 พรรคได้มี MOU ร่วมกัน สะท้อนเจตจำนงและความหวัง อันยิ่งใหญ่ของประชาชนในการผลักดันประเทศไปข้างหน้า โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงของประเทศ ทลายอำนาจรัฐเผด็จการ ที่ดำรงอยู่จากการทำรัฐประหารและผูกขาดการเมืองไทย มามากกว่า 8 ปี

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ เราขอสนับสนุนการจัดทำ MOU ของ 8 พรรค ที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมาก 312 เสียง อันถือเป็นมิติใหม่ในการสร้างมาตรฐานทางการเมืองที่สะท้อนเจตจำนงในการเปลี่ยนแปลงประเทศ สู่ความเป็นประชาธิปไตยของประชาชน ดังที่มีวาระว่าด้วย ความหลากหลายทางเพศ แก้ไขรัฐธรรมนูญ การทลายการรวมศูนย์ผูกขาดทางเศรษฐกิจ การกระจายอำนาจ     สู่ท้องถิ่น การปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปกองทัพ การสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า การปรับปรุงค่าไฟฟ้าเพื่อลดค่าครองชีพ การยกระดับสิทธิแรงงาน การยกระดับมาตรฐานสาธารณสุข การปฏิรูประบบการศึกษา รวมทั้งการจัดงบประมาณแบบฐานศูนย์ อันจะนำมาสู่การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม และความยุติธรรมทางสังคม เป็นต้น

เราต้องการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเท่าเทียมและสงบสุข นักการเมืองต้องเคารพฉันทามติของประชาชน สร้างการเมืองให้ถูกต้องตามครรลองระบอบประชาธิปไตย โดย พีมูฟ ได้เคยเรียกร้องไปยัง ส.ว. และพรรคการเมืองมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่สถานการณ์การเมืองยังอึมครึมจนประชาชนเกิดความสับสน และมีแนวโน้มอาจนำสู่ความขัดแย้ง รวมถึงปรากฎการณ์สุญญากาศทางการเมืองที่ส่งผลให้กลไกอำนาจรัฐชะลอ และเพิกเฉยต่อกระบวนแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน

พีมูฟ ขอแถลงการณ์แสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องต่อสถานการณ์ดังกล่าว ดังนี้

1. เราในฐานะประชาชน เรียกร้องต่อพรรคการเมืองทั้งหมด ให้โหวตรับรองนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อร่วมกันสร้างหลักการประชาธิปไตยที่ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ที่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร

2. ต่อกรณี คุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เราขอเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) และศาลรัฐธรรมนูญ ควรพิจารณาประเด็นปมถือหุ้น ด้วยการเคารพเจตนารมณ์ของบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และแนวทางการวินิจฉัยที่มุ่งสร้างหลักการประชาธิปไตยของประชาชน

3. ต่อกรณีการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ 8 เครือข่ายทุกภูมิภาค ต้องเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง อำนาจการบริหารรวมศูนย์ ดังนั้น ต้องมีการเร่งรัด ติดตามการแก้ไขปัญหาและจำเป็นต้องมีรัฐมนตรีที่มีความเข้าใจในปัญหา ไม่มีอคติต่อภาคประชาชน ดำรงตำแหน่งในกระทรวงต่างๆ ทำงานร่วมกันกับภาคประชาชนเพื่อสร้างบรรยากาศความร่วมมือ อีกทั้ง พีมูฟ พร้อมมีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้อง

เรา ขอยืนยันว่า เสียงของประชาชน คือ ฉันทามติ ที่ทรงพลังกว่าอำนาจใดๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พรรคการเมืองทุกพรรค ว่าที่ ส.ส.ทุกคน จะร่วมกันสร้างการเมืองที่ถูกต้อง “เป็นประชาธิปไตยโดยประชาชน ของประชาชน และเพื่อประชาชน” สถาปนารัฐสภาอันทรงเกียรติ ซึ่งมีผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่นิติบัญญัติ  เพื่อพิทักษ์อำนาจอธิปไตยและประโยชน์ของประชาชน ได้อย่างแท้จริงต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net