'สน.ดุสิต' ย้ำ 'พีมูฟ' ต้องยุติการชุมนุมหน้าทำเนียบภายใน 16.00 น. หลังพีมูฟ ปักหลักขอเจอนายกรัฐมนตรี ดันนโยบาย 9 ด้านลดความเหลื่อมล้ำ ด้านผู้ชุมนุมไม่ถอย จะอยู่จนกว่าได้พบเศรษฐา
3 ต.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก "ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม" รายงานวันนี้ (3 ต.ค.) เวลา 14.20 น. พล.ต.อ. ไตรเทพ แพทย์รัตน์ ผู้กำกับ สน.ดุสิต กล่าวว่า ได้ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะ ในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาล ตามมาตรา 7 วรรคท้าย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และแจ้งให้ประชาชนยุติการชุมนุมภายในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (3 ต.ค.) โดยมีเนื้อหาในประกาศดังนี้
"ตามที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีหนังสือด่วนที่สุดในการออกประกาศห้ามการชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาลในรัศมีไม่เกินห้าสิบเมตร เนื่องจากวันที่ 3 ต.ค. 2566 จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองอันส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 7 วรรคท้าย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 424/2566 ในการประกาศ" ใบประกาศระบุ
นอกจากนั้น สถานีตำรวจนครบาลดุสิตได้แจ้งความมายัง 'จำนงค์ หนูพันธ์' เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ย้ายสถานที่ชุมนุมภายในระยะเวลาที่กำหนด
จำนงค์ หนูพันธ์ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ย้ำว่าจะไม่ยุติการชุมนุมตามประกาศคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลดังกล่าว เนื่องจากได้แจ้งขอจัดการชุมนุมใหม่แล้ว และจะปักหลักชุมนุมบริเวณนี้ต่อจนกว่าจะได้พบเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ก่อนหน้านี้ สน.ดุสิต ได้มาแจ้งแก่พีมูฟ ว่าเมื่อเวลา 10.50 น. ได้มีตำรวจ สน.ดุสิต เดินทางมาเจรจากับกลุ่มขบวนการพีมูฟ ให้ย้ายกลับไปปักหลักชุมนุมหน้าสำนักงานสหประชาชาติ (UN) ถ.ราชดำเนินนอก ตามที่ได้มีการจดแจ้งขออนุญาตชุมนุมก่อนหน้านี้ ภายในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 3 ต.ค. 2566 และไม่ให้ลงมากีดขวางทางสัญจรของสาธารณะ
นอกจากนี้ ทางตำรวจยังอ้างด้วยว่า ผู้ชุมนุมกระทำขัดกับประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม จำนงค์ หนูพันธ์ สมาชิกพีมูฟ กล่าวว่า ได้มีการแจ้งกับ สน.นางเลิ้ง ว่าจะมีการชุมนุมที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ 16.00 น. 3 ต.ค. 2566 จนถึงเวลา 19.00 น. วันที่ 20 ต.ค. 2566
สำหรับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ได้มาปักหลักชุมนุมที่ กทม. เมื่อ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มคือ ต้องการพบนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เพื่อเจรจาหารือแนวทางผลักดันนโยบาย 9 ด้าน ประกอบด้วย 1. แก้ไขรัฐธรรมนูญ และยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ส่งผลกระทบต่อเสรีภาพของประชาชน 2. กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 3. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 4. กระจายที่ดินทำกินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม 5. ทบทวนนโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ 6. ส่งเสริมให้ชุมชนมีการจัดการร่วมในภัยพิบัติ 7. คุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ และสิทธิความเป็นมนุษย์ 8. คุ้มครองสิทธิของคนไร้สถานะ และ 9. ส่งเสริมรัฐสวัสดิการ