กรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ใช้อาวุธสงครามกราดยิงรถกระบะของครูโรงเรียนบ้านดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีเพื่อนที่เป็นครูด้วยกันอีก 6 คนอยู่บนรถขณะเดินทางจะไปส่งเพื่อนที่บ้าน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดบริเวณบ้านเจ๊ะเก หมู่ 4 ตำบลบาโงสะโต อำเภอระ-แงะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นางอัชราพร เทพษร ครูโรงเรียนบ้านดุซงญอ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน และนางวารุณี นวกะ ครูโรงเรียนริแง ตำบลผดุงมาตร อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และมีผู้บาดเจ็บ 1 คน คือ นายมะสักกรี หะยีมูซอ ครูโรงเรียนบ้านดุซงญอ

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน (คพช.) ออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุดังกล่าว และขอฝากไปยังรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า ถ้าตราบใดยังไม่สามารถนำนโยบายการเมืองนำการทหารที่ยังเป็นตัวอักษรสวยหรูอยู่ในขณะนี้ ไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า โครงสร้างของรัฐโดยเฉพาะครู ต้องตกเป็นเหยื่อสถานการณ์ไฟใต้อีกต่อไปอย่างแน่นอน เพราะโดยวิสัยของการเน้นหนักทางการทหารมากกว่าทางการเมืองนั้น จะทำให้อำนาจของรัฐกระจุกอยู่ที่ทหารเพียงฝ่ายเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้ การแก้ปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธีก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น ในทางกลับกัน ทหารเสียเองเป็นผู้เพิ่มอุณหภูมิแห่งความรุนแรงจนพลอยทำให้โครงสร้างของรัฐอื่นๆ และครูผู้เป็นแม่พิมพ์ของชาติต้องมารับกรรม

วันเดียวกัน เครือข่ายสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสันติภาพ (คสตส.) ซึ่งระบุว่าเป็นองค์กรภาคประชาชนที่จะเป็นศูนย์กลางในการประสานงานและให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิสตรีและเด็กในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดความเสมอภาค ความสุข และสันติภาพ ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าว ทั้งนี้ ระบุด้วยว่า เชื่อว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ ต้องเริ่มต้นด้วยการยอมรับในความแตกต่างและเคารพในสิทธิมนุษยชนจากทุกฝ่าย