Published on ประชาไท Prachatai.com (https://prachatai.com)

Home > ป.ป.ช.อ้างประกาศ คปค.โยนคืนให้ตร.เอาผิดคนแพร่คลิปตุลาการฯ เอง > ป.ป.ช.อ้างประกาศ คปค.โยนคืนให้ตร.เอาผิดคนแพร่คลิปตุลาการฯ เอง

ป.ป.ช.อ้างประกาศ คปค.โยนคืนให้ตร.เอาผิดคนแพร่คลิปตุลาการฯ เอง

Submitted by parid on Thu, 2010-11-25 22:13

ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์" [1]รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันที่ 25 พ.ย.2553 ได้มีมติส่งสำนวนคดีนายพสิษฐ์  ศักดาณรงค์  เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ  กรณีลักลอบบันทึกภาพและเสียง (คลิปวิดีโอ) การประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ส่งคืนให้พนักงานสอบสวนโดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาเข้าข่ายกระทำความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ  กล่าวคือ
 
ตามที่ นายเชาวนะ  ไตรมาศ  เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ให้ดำเนินคดีอาญากับ นายพสิษฐ์  ศักดาณรงค์  เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ  กรณี ลักลอบบันทึกภาพและเสียง (คลิปวิดีโอ) การประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  ซึ่งเป็นความลับของทางราชการ  ออกเผยแพร่ให้บุคคลอื่นได้ล่วงรู้ความลับในการประชุมดังกล่าว  ซึ่งเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน  ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และฐานเป็นเจ้าพนักงาน รู้หรืออาจรู้ความลับในราชการ กระทำการโดยประการใด ๆ  อันมิชอบด้วยหน้าที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับ ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 157 และมาตรา 164  และจากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นของพนักงานสอบสวน ปรากฏพยานหลักฐานตามสมควรเพิ่มเติมว่า นางสาวชุติมา  หรือพิมพิจญ์  แสนสินรังษี  เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ๓  กลุ่มงานคดี 8  สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ  น่าจะได้ร่วมกระทำความผิดในกรณีดังกล่าวกับนายพสิษฐ์  ศักดาณรงค์ และการกระทำของบุคคลทั้งสอง  ยังเป็นความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ  โดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน  ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคลทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ  อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ตามมาตรา ๘๙  แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 จึงได้ส่งคำร้องทุกข์และสำนวนการสอบสวนคดีอาญาดังกล่าวมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนก่อนหน้านี้แล้วนั้น

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาคำร้องทุกข์และสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของพนักงานสอบสวน แล้วเห็นว่า  แม้สำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่พนักงานสอบสวนส่งมา  จะเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542  มาตรา 89  ประกอบมาตรา 88  ก็ตาม  แต่เนื่องจากสำนวนการสอบสวนคดีอาญานี้ จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง  ได้กระทำความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ  โดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะต้องดำเนินคดีต่อไปรวมอยู่ด้วย  ประกอบกับพนักงานสอบสวน ได้ขออนุมัติจับกุมบุคคลทั้งสองต่อศาลอาญา และศาลอาญาได้ออกหมายจับบุคคลทั้งสองไว้แล้ว

ดังนั้น  เพื่อให้มีการสอบสวนและดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองในการกระทำความผิดเหล่านี้ในคราวเดียวกัน  คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึง มีมติให้ส่งเรื่องคืนให้พนักงานสอบสวน  ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป ทั้งนี้ ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549  ข้อ 6  
 

ทั้งนี้ ประกาศ คปค.ฉบับที่ 31 เรื่อง การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ข้อ 6 ระบุว่ากรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เห็นสมควรอาจส่งเรื่องที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งไม่ใช่บุคคลตามมาตรา 66 ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน ดำเนินการทางวินัย หรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้วแต่กรณี หรือส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไปก็ได้
 

ที่มา - มติชนออนไลน์

ข่าว [2]
การเมือง [3]
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ [4]
คปค. [5]
คลิปฉาว [6]
ป.ป.ช. [7]
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ [8]
พสิษฐ์ ศักดาณรงค์ [9]
ศาลรัฐธรรมนูญ [10]

Source URL: https://prachatai.com/journal/2010/11/32064#comment-0

Links
[1] http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1290691440&grpid=00&catid=00
[2] https://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7
[3] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87
[4] https://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4
[5] https://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%9B%E0%B8%84
[6] https://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7
[7] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%8A-0
[8] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C
[9] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B9%8C-%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C
[10] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%8D