"พล.ต.ท.อัมพร" ชี้บาดแผลกระสุนของนักข่าวญี่ปุ่นใกล้เคียงปืน 3 แบบ
ธาริตแจง "ดีเอสไอ" ขอ "พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา" ช่วยชันสูตรผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม ยันขณะนี้ยังไม่พบเศษตะกั่วในร่างนักข่าวญี่ปุ่น เพียงแต่อาจถูกยิงจากปืน 3 แบบ และในที่เกิดเหตุไม่มีการเก็บหลักฐาน "ประยุทธ์" เผยมีหน่วยทหารไทยที่ใช้อาก้า แต่อยู่ชายแดน ใน กทม. ไม่ใช้แล้ว ด้าน ผบ.พล.ร.2 รอ.เผยทหารที่มาสลายการชุมนุมใช้เอ็ม 16 และทราโว
ธาริตแจงขออดีต ผบ.พิสูจน์หลักฐานตำรวจช่วยชันสูตรผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม
มติชนออนไลน์ [1] รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (28 ก.พ.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และ พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และที่ปรึกษาดีเอสไอ แถลงชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ว่า ดีเอสไอได้ขอความร่วมมือ พล.ต.ท.อัมพร ให้เข้ามาตรวจสอบผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมกลุ่มแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อย่างละเอียดอีกครั้ง ในส่วนผู้เสียชีวิต 13 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอสรุปสำนวนเบื้องต้นว่าอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง กับการเสียชีวิตและได้ส่งสำนวนกลับไปให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงผลการตรวจสอบล่าสุดจาก พล.ต.ท.อัมพร ดีเอสไอได้ส่งมอบให้ตำรวจนครบาลไปประกอบการพิจารณาแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่ดีเอสไอออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาที่จะซักฟอกคดีให้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ยันดีเอสไแทำงานตรงไปตรงมา ไม่ได้สร้างสถานการณ์
นายธาริตกล่าวว่า คดีของนายฮิโรยูกิก่อนหน้านี้มีพยานบุคคลเพียงปากเดียวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจและเข้าร่วมชุมนุม นปช. ให้ข้อมูลว่าอยู่ใกล้ตัวนายฮิโรยูกิ ขณะถูกยิงแต่ไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใด แต่เชื่อว่ามาจากทหาร อย่างไรก็ตาม นายฮิโรยูกิถูกยิงขณะกำลังหันหน้าไปถ่ายภาพแนวทางทหาร แต่ด้านหลังทหารก็มีกลุ่มผู้ชุมนุม ดังนั้น ช่วงเกิดเหตุต้องถือว่ามีทั้งสองฝ่ายที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้ผลการชันสูตรไม่ได้ระบุอาวุธที่ทำให้เสียชีวิต เพียงแต่ระบุว่าเป็นกระสุนปืนที่มีความเร็วสูง การตรวจสอบของ พล.ต.ท.อัมพร จึงถือเป็นการสอบเพิ่มเติม เพื่อให้คดีมีความรอบคอบมากขึ้น
"ผมรู้สึกลำบากใจตอนที่เจ้าหน้าที่ให้รายละเอียดกับตัวเองถึงผลการตรวจ สอบใหม่ว่าผลออกมาอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไร ดังนั้น สิ่งใดที่เข้ามาเพิ่มเติมก็ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ดีเอสไอไม่ได้ต้องการสร้างสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น" นายธาริตกล่าว
"พล.ต.ท.อัมพร" เผยยังไม่พบเศษตะกั่วในร่างนักข่าวญี่ปุ่น
ด้าน พล.ต.ท.อัมพรกล่าวว่า ได้วิเคราะห์จากรายงานการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ในทุกๆ คดี คดีไหนที่ยืนยันได้ว่า ควรจะโดนยิงด้วยอาวุธปืนขนาดอะไร ตนก็จะยืนยันให้ และมีหลายรายที่ไม่สามารถยืนยันได้ สำหรับรายนี้ค่อนข้างชัดเจนเพราะว่าบาดแผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโตกว่าแผล ในส่วนอื่นๆ ทั้งหมด และตามองค์ประกอบที่ควรจะเป็น ถ้าเป็นกระสุนความเร็วสูงขนาดเล็ก ตลอดทางวิ่งของบาดแผลภายในร่างกายกระสุนจะแตกกระจายออกและทิ้งร่องรอยเศษ ตะกั่วเอาไว้ ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า LEAD SNOW STORM แต่สำหรับรายนี้ได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้ผ่าว่าไม่มี LEAD SNOW STORM และบาดแผลทางกระสุนเข้าและบาดแผลทางกระสุนออกก็มีขนาดใกล้เคียงกัน และโตกว่ากระสุนที่ชาวบ้านคิดกันว่าเป็นกระสุนที่นายฮิโรยูกิถูกยิง
สรุปอาจบาดแผลจากกระสุนใกล้เคียงกับปืน 3 แบบ คือ อาก้า - 05 NATO - และเซกาเซ่
"สรุปว่า นายฮิโรยูกิถูกยิงด้วยกระสุนปืนที่มีขนาดใกล้เคียงกับบาดแผล คือ ประมาณไม่น้อยกว่า 7 มิลลิเมตร ซึ่งที่มีใช้กันอยู่ในภูมิภาคแถบนี้มากๆ มีอยู่ 2-3 แบบ คือ ปืน AK 47, ปืน 05 NATO และปืนเซกาเซ่ (SKS) ซึ่งมีขนาดเท่ากันหมด คือ 7.62 มิลลิเมตร รายละเอียดก็มีเท่านี้ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ประกอบกับหัวกระสุนทะลุผ่านไป ผมไม่ได้เห็นหัวกระสุน และก็ทราบว่าในที่เกิดเหตุเก็บไม่ได้ด้วย ทุกอย่างก็ได้แค่สรุปจากบาดแผลกระสุนปืนเท่านั้น" พล.ต.ท.อัมพรกล่าว
"ประยุทธ์" เผยมีหน่วยทหารไทยที่ใช้อาก้า อยู่ที่ชายแดน แต่ใน กทม. ไม่มีใช้แล้ว
ขณะเดียวกัน เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ [2] รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่งกล่าวถึงผลสรุปอย่างไม่เป็นทางการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หากดีเอสไอระบุอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ตนจะทราบได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องของดีเอสไอ ซึ่งหน่วยทหารที่ใช้อาวุธปืนอาก้ามีใช้เฉพาะที่ชายแดน ในพื้นที่ กทม.ไม่มีใช้อยู่แล้ว เมื่อถามว่าหากผลสรุปว่าเป็นอาวุธปืนอาก้าสบายใจหรือไม่ เพราะทหารจะได้ไม่ถูกกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า แล้วเรื่องนี้มันจบหรือยัง ยุติแล้วหรือยัง เมื่อเรื่องยังไม่จบก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะขณะนี้เองยังไม่จบ พูดกันไปพูดกันมา เมื่อเช้าก็มีคนออกมาโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ใช่อาวุธปืนอาก้า ดังนั้น ต้องไปหาข้อเท็จจริงให้จบเสียก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน ตอนนี้ไม่มีใครผิดใครถูก อย่างไรก็ตาม หน่วยทหารไม่จำเป็นต้องออกมาชี้แจง หากจะให้ชี้แจงก็เชิญมาเราพร้อมจะชี้แจงตามกฎหมาย ดังนั้นขณะนี้ต้องให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ผบ.พล.ร.2 รอ. รับทหารใช้เอ็ม 16 เอ 2 และปืนจากอิสราเอล
ด้าน พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ในฐานะผู้คุมกำลังเข้าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่บริเวณสี่แยกคอกวัว กล่าวว่า ในเหตุการณ์หน่วยทหารที่เข้าขอคืนพื้นที่จากผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อ ต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ยืนยันว่าไม่มีการใช้อาวุธปืนอาก้าของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ทหารจาก พล.ร.2 รอ.ไม่มีอาวุธปืนอาก้า มีใช้แค่อาวุธปืนเอ็ม 16 เอ 2 เท่านั้น ที่เป็นอาวุธประจำกาย ส่วนกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ก็ใช้เฉพาะปืนทาโวร์เท่านั้น
เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ยังรายงานเพิ่มเติมโดยระบุว่าขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลจากกองทัพบก พบว่า นอกจากอาก้าที่มีประจำการในหน่วยทหารพรานแล้ว ยังมีการเบิกจ่ายไปใช้กับหน่วยปกติ ในปัจจุบันมีประจำการรวมทั้งหมด 2 หมื่นกระบอก ในส่วนของทหารพราน เป็นปืนในอัตราที่ยังใช้เป็นอาวุธประจำกายของทหารพรานบริเวณชายแดน ในขณะที่หน่วยปกติ จะถือเป็นปืนนอกอัตรา ซึ่งเบิกจ่ายไปเพื่อใช้ฝึกทหารเกณฑ์ หน่วยละ 5-10 กระบอก และกระสุนที่ใช้จะมีการจัดซื้อทุก 2 ปี ซึ่งจากข้อมูลพบว่าหน่วยทหารราบมีการเบิกจ่ายกระสุนเพื่อการฝึกทุกปี