Published on ประชาไท Prachatai.com (https://prachatai.com)

Home > เสรีนิยมใหม่ กับมหาวิทยาลัยจำกัด (มหาชน) > เสรีนิยมใหม่ กับมหาวิทยาลัยจำกัด (มหาชน)

เสรีนิยมใหม่ กับมหาวิทยาลัยจำกัด (มหาชน)

Submitted by sarayut on Thu, 2012-12-27 08:40

เกรียงศักดิ์ ธีรโกวิทขจร

ถ้าหากจะมีสถาบันใดในสังคมที่เป็นรากฐานสำคัญของประชาธิปไตย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสถาบันสุดท้ายที่ผู้คนนึกถึงเมื่อพูดถึงประชาธิปไตยแล้วนั่นคือมหาวิทยาลัย

ในอดีต ขบวนการนักศึกษา กลไกสำคัญในการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยทั่วโลกฟูมฟักอุดมการณ์ประชาธิปไตยจากในห้องเรียน เช่นในทศวรรษ 1950s ขบวนการนักศึกษาในสหรัฐอเมริกากลายเป็นกำลังสำคัญในการเรียกร้องสิทธิพลเมืองให้กับคนผิวสี รวมทั้งสิทธิสตรีและสิทธิของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ขณะที่การรณรงค์ต่อต้านสงครามก่อตัวขึ้นจากภายในรั้วมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ส่วนในมหาวิทยาลัยไทย ปีกเสรีนิยมของขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยก็เกิดขึ้น (และถูกทำลาย) ภายในมหาวิทยาลัย เช่น ธรรมศาสตร์

แต่การสุดสิ้นของสงครามเย็นและระบอบสังคมนิยมในรัสเซีย รวมถึงการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจในระดับโลกนับจากปลายทศวรรษ 1970s ทำให้บทบาทของมหาวิทยาลัยในสังคมตะวันตกเปลี่ยนแปลงไปมาก การปฏิรูปนโยบายสาธารณะที่นำโดยสหรัฐฯและอังกฤษ ที่มุ่งลดบทบาทของรัฐในฐานะผู้จัดหาบริการสาธารณะเช่น การศึกษาขั้นสูงทำให้มหาวิทยาลัยลดความเป็นสถาบันสาธารณะลงไปตามลำดับ ความสำคัญของมหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันหลักที่บ่มเพาะอุดมการณ์ด้านสิทธิ เสรีภาพและประชาธิปไตยจึงเกือบสูญหายไป มหาวิทยาลัยแทบกลายเป็นเพียงโรงงานป้อนวัตถุดิบให้กับระบบตลาด

นักวิชาการในตะวันตกเรียกแนวคิดเบื้องหลังการปฏิรูปนโยบายสาธารณะที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวว่า “เสรีนิยมใหม่”

ในบทความวิชาการ “การทำให้การศึกษาเป็นเสรีนิยมใหม่และมีลักษณะของระบบการจัดการ ในอังกฤษและเวลส์ กรณีการปรับโครงสร้างการศึกษาใหม่ (Neoliberalization and managerialization of ‘education’ in England and Wales - a case for reconstructing education)” ที่เผยแพร่ในวารสารนโยบายสาธารณะด้านการศึกษาเชิงวิพากษ์ (Journal of Critical Education Policy Studies) นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยอังกฤษ 3 แห่งร่วมกันวิจัยพบว่าการปฏิรูปการศึกษาในอังกฤษโดยการแปรรูปให้เป็นเอกชนและแข่งขันกันแบบระบบตลาดตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980sเปลี่ยนโฉมหน้าของสังคมอังกฤษ ในแง่ที่เปลี่ยนอัตลักษณ์ของคนจากพลเมือง (citizenship) ในระบบการเมืองประชาธิปไตยไปเป็นผู้บริโภคแทน

การเปลี่ยนแปลงอย่างถึงรากนี้เกิดจากการปฏิรูปการศึกษาบนฐานความเชื่อว่าตลาดมีความสามารถในการจัดสรรทรัพยากรเหนือกว่ากลไกอื่น (เช่นรัฐและชุมชน) และการบริหารจัดการแบบมืออาชีพในระบบตลาดให้ผลสัมฤทธิ์ที่ดีที่สุด

ในบริบทของสหรัฐฯ โซเฟีย แมคเคลนเนน (Sophia McClennen) ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาระหว่างประเทศของPenn State Universityสรุปในบทความที่ชื่อ “เสรีนิยมใหม่และวิกฤตของการอุทิศทางปัญญา (Neoliberalism and the Crisis of Intellectual Engagement)” ว่าการลดบทบาทปัญญาชนของอาจารย์มหาวิทยาลัยในอเมริกาส่วนสำคัญเกิดจากการรุกคืบของอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่ ที่ทำให้เกิดความเชื่อว่าการศึกษาระดับสูงนั้นต้องตัดขาดจากการเมือง (de-politicization) หรือง่ายๆ คือ “เป็นกลางและไม่เลือกข้างทางการเมือง”

อาจารย์แมคเคลนเนนตั้งข้อสังเกตว่าภายหลังจากเหตุการณ์ 11 กันยายน วงการวิชาการในสหรัฐฯ มัวแต่ตั้งคำถามเรื่องเสรีภาพทางวิชาการและการแสดงความคิดเห็นในห้องเรียนจนหลงลืมประเด็นที่สำคัญอย่างเช่น การลดการอุดหนุนการศึกษาโดยรัฐ หนี้ด้านการศึกษาของนักศึกษาและการทำให้อาจารย์มหาวิทยาลัยกลายเป็นเพียง “แรงงานภาคการศึกษา” ที่สำคัญ ต้องโทษความสำเร็จของฝ่ายขวาที่ทำให้สังคมเชื่อว่าระบบการศึกษาขั้นสูงควรจะเป็นเสมือนสินค้าเอกชน แทนที่จะเป็นสินค้าสาธารณะเช่นในอดีต

ในบทความดังกล่าว แมคเคลนเนนกล่าวว่า หากเราต้องการทำความเข้าใจการครอบงำเชิงอุดมการณ์หรือวัฒนธรรมของแนวคิดเสรีนิยมใหม่ ก็ให้ศึกษางานเขียนของนักวิชาการด้านการศึกษาและวัฒนธรรมคนสำคัญของสหรัฐฯ อย่างเฮนรี จิรูส์ (Henry Giroux) ที่ศึกษาผลกระทบของเสรีนิยมใหม่ต่อการศึกษาและมหาวิทยาลัยในอเมริกาอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ ในหนังสือ “ความน่าสะพรึงกลัวของเสรีนิยมใหม่ (The Terror of Neoliberalism)” ที่อธิบายว่าเสรีนิยมใหม่ทำลายประชาธิปไตยอย่างไรศาสตราจารย์จิรูส์กล่าวว่าอุดมการณ์แบบเสรีนิยมใหม่ทำให้ยากที่เราจะ (1) จินตนาการว่าปัจเจกและสังคมมีความสามารถในการรื้อฟื้นประชาธิปไตยเชิงเนื้อหาได้อย่างไร หรือ (2) ยากที่จะเข้าใจเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการเมืองที่จำเป็นสำหรับการรักษาปริมณฑลสาธารณะในสเกลของโลก (global public sphere) ให้ดำรงอยู่ ในประเด็นหลังนี้ เขาได้เน้นถึงความสำคัญขององค์ประกอบสำคัญ 3 ประการได้แก่ สถาบัน พื้นที่และสินค้าสาธารณะในฐานะพื้นฐานสำหรับการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย

คำว่า “สาธารณะ” ในที่นี้ ไม่ได้มีความหมายเพียวผิวเผินว่ารัฐเป็นเจ้าของอย่างที่เข้าใจกันทั่วไป แต่หมายถึงสมบัติของทุกคน ไม่มีใคร (แม้กระทั่งรัฐ) สามารถอ้างสิทธิเหนือผู้อื่นและกีดกันผู้อื่นออกจากการใช้ประโยชน์ได้ ผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จึงสามารถเข้าถึงได้หากต้องการที่สำคัญ ยังมีนัยว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะเป็นบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่รัฐจัดหาให้

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยในปัจจุบันกลับพัฒนาไปในทิศทางขององค์กรธุรกิจมากขึ้น เริ่มขยายสาขาและพัฒนาภาพลักษณ์หรือความถนัดเฉพาะด้านเพื่อหาตลาดและกลุ่มเป้าหมายของตนเอง ส่วนโครงสร้างภายในก็เน้นการบริหารจัดการที่มุ่งผลผลิตคือเป้าหมายตัวชี้วัด มากกว่าจะมุ่งให้บริการสาธารณะหรือตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนโดยรอบ ประการสำคัญมหาวิทยาลัยแทบไม่ต่างจากบริษัท เมื่อผู้บริหารเริ่มนำรูปแบบการจ้างงานแบบยืดหยุ่น เช่น สัญญาจ้างชั่วคราวมาใช้เพื่อช่วยลดต้นทุนและกดดันให้อาจารย์และเจ้าหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ในแง่หนึ่ง เราจึงกล่าวได้ว่ามหาวิทยาลัยกลายเป็นภาพสะท้อนของความสัมพันธ์ระหว่างแรงงานกับทุนในเศรษฐกิจจริงเพราะความสัมพันธ์ภายในองค์กร รวมถึงทำเลที่ตั้งของมหาวิทยาลัยล้วนถูกกำหนดโดยความต้องการของทุนที่จะเคลื่อนย้ายไปหาแหล่งที่ให้กำไรสูงสุด 

หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจในอเมริกาในปี 2007 และวิกฤตในยูโรโซนที่เรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน ผู้คนเริ่มมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างโครงสร้างเศรษฐกิจที่บิดเบี้ยว ระบบการเมืองที่เป็นอิสระจากการตรวจสอบและปัญหาในสถาบันการศึกษาแจ่มชัดขึ้น และนี่คือเหตุผลเบื้องหลังที่มหาวิทยาลัยในตะวันตกกลับมาเป็น “พื้นที่แห่งความขัดแย้งและต่อสู้ดื้นรน (space of contest and struggle)” อีกครั้ง

 

 

ที่มา: คอลัมน์ ทัศนะวิจารณ์ กรุงเทพธุรกิจ [1]

บทความ [2]
การศึกษา [3]
เศรษฐกิจ [4]
มหาวิทยาลัย [5]
เกรียงศักดิ์ ธีระโกวิทขจร [6]

Source URL: https://prachatai.com/journal/2012/12/44418#comment-0

Links
[1] http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/samyan/20121227/483526/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94-(%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99).html
[2] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1
[3] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2
[4] https://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88
[5] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2
[6] https://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C-%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%88%E0%B8%A3